ภาคประชาสังคมระบุ กรณีส.ส.เพื่อไทยอภิปรายปม ‘ชัยวุฒิ’ คบซ้อน ไม่ถือเป็นเรื่องส่วนตัว ชี้เป็นปัญหาความรุนแรงในครอบครัวซึ่งในบางประเทศต้องลาออก

วันที่ 21 กรกฎาคม 2565 ผู้สื่อข่าว workpointTODAY สัมภาษณ์ จเด็ด เชาวน์วิไล ผอ.มูลนิธิหญิงชายก้าวไกล กรณี ชนก จันทาทอง ส.ส.หนองคาย พรรคเพื่อไทย อภิปรายไม่ไว้วางใจนายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าวหาทำผิดจริยธรรมร้ายแรงจากการคบซ้อน 

“ประเด็นแบบนี้เขาเป็นบุคคลสาธารณะ และเขาก็ต้องโปร่งใสตรงไปตรงมากับทุกเรื่อง ผมเข้าใจว่าตัวคนที่อภิปรายเองต้องการแสดงให้เห็นว่าเขาเป็นคนสาธารณะที่นโยบายรัฐบาลเองก็พยายามพูดเรื่องนี้ด้วย” จเด็ด เชาว์วิไล นักรณรงค์เพื่อสิทธิความเท่าเทียมทางเพศกล่าว 

จเด็ดชี้ว่ากรณีนี้เป็นนโยบายของราชการซึ่งออกโดยนายกรัฐมนตรีดังนั้นการที่รับมนตรีซึ่งต้องเป็นหัวหน้าหน่วยราชการสูงสุด หากไม่ถูกตรวจสอบเรื่องนี้ก็เท่ากับเป็นการเลือกปฏิบัติว่าข้าราชการเท่านั้นที่ต้องทำ แต่ตัวรัฐมนตรีไม่ต้องทำก็จำเป็นต้องถูกตั้งคำถามกลับ

“ปัญหานี้ไม่ใช่เรื่องที่ต้องเก็บไว้ในบ้าน ควรที่จะต้องพูดถึงได้ มิเช่นนั้นผู้หญิงก็จะยิ่งเก็บไว้มากและปัญหาอื่น ๆ ก็จะเกิดขึ้นตามมา นี่คือภาพรวม เป็นปัญหาเชิงโครงสร้างที่สังคมไทยกดทับไว้ว่าไม่ควรพูด การบอกไม่ให้พูดเป็นมายาคติที่ทำให้ผู้หญิงยิ่งไม่ออกมาเรียกร้องสิทธิตัวเอง เพราะถ้าคุณออกมาพูดก็แปลว่าคุณเป็นภรรยาที่ไม่ดี ถูกสามีละทิ้ง ทำให้ผู้หญิงกดตัวเอง การที่เรื่องนี้ไม่ออกมาสู่สังคมทำให้ผู้หญิงรู้สึกได้รับการกดดัน ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่ออกมาเขียนเฟซบุ๊กหรอกใช่หรือไม่” จเด็จกล่าวถึงกรณี ชนก ส.ส.พรรคเพื่อไทย อภิปรายว่าอดีตภรรยา ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ นางสาวกานต์กนิษฐ์ แห้วสันตติ โพสต์ในเฟซบุ๊กส่วนตัวถึงปัญหาดังกล่าว 

“การออกมาเขียนก็แสดงว่าเขามาภาวะทางด้านจิตใจ มีผลกระทบและไม่มีการเยียวยา ไม่มีการที่จะทำให้เขารู้สึกว่าดีขึ้นเลย ดังนั้นการที่เพื่อนส.ส.ออกมาพูดก็เหมือนกันตั้งคำถามว่ารัฐมนตรีสนใจภาวะจิตใจของภรรยาหรือไม่ ผมคิดว่ามันเป็นสิ่งที่สังคมสามารถตั้งคำถามได้ ”

การมีภรรยาหลายคนโดยไม่ได้รับความยินยอมสร้างความรุนแรงด้านจิตใจ

ผอ.มูลนิธิหญิงชายก้าวไกลชี้ว่าการมีภรรยาหลายคนมันสร้างความรุนแรงด้านจิตใจ กรณีแบบนี้พบเยอะ และหลายครั้งผู้หญิงที่เป็นภรรยาถูกต้องตามกฎหมายตั้งคำถามแต่กับกลายเป็นว่าผู้ชายก็ไม่ยอมเลิกหรือใช้ความรุนแรงตอบ ต่อมาปัญหานี้เป็นปัญหาที่สะสมและจะนำมาสู่ความรุนแรงทางกายภาพในที่สุด เนื่องจากอำนาจของฝ่ายชายเหนือกว่าเสมอ ไม่ว่าจะเป็นตำแหน่งแห่งที่ อำนาจที่อยู่ในครอบครัวซึ่งผู้ชายถูกบอกให้เป็นผู้นำ และในกรณีดังกล่าวฝ่ายชายมีตำแหน่งแห่งที่ที่มีอำนาจเหนือกว่าด้วยความเป็นรัฐมนตรี ยิ่งทำให้อำนาจเยอะและเขาเสียงดังกว่า การออกมาสะท้อนเรื่องนี้ในที่สาธารณะครั้งนี้ก็ทำให้เห็นว่าเป็นปัญหาสังคม 

“ไม่ว่าที่ใดเขาก็พูดกันเรื่องนี้และในบางประเทศต้องลาออกด้วยซ้ำ” จเด็ดกล่าว

ความรุนแรงในครอบครัว ไม่ใช่เรื่องส่วนตัว แต่เป็นปัญหาสังคม

“ความรุนแรงในครอบครัวเป็นความรุนแรงที่สังคมไม่เข้าใจ ความรุนแรงในครอบครัวมีตั้งแต่เรื่องร่างกายและความรุนแรงด้านจิตใจ ความรุนแรงพวกนี้มีผลกระทบต่อผู้หญิงค่อนข้างมาก ความรุนแรงด้านร่างกายมันก็มีผลกระทบต่อการบาดเจ็บพิการ เคสที่มูลนิธิ [หญิงชายก้าวไกล] บางรายที่มาหาเราเกือบเสียชีวิต มันเป็นปัญหาที่มีผลกระทบต่อสังคมแน่นอน นอกจากนี้หลายคนมีภาวะทรอมา (Trauma) จากการที่สามีไม่รับผิดชอบ สามีไปมีผู้หญิงคนอื่น หลายคนต้องกินยา เครียด ทำงานไม่ได้ และเมื่อได้รับผลกระทบจากความรุนแรงในครอบครัวก็มีผลกระทบจากการทำงานด้วย หลายคนไม่กล้าไปทำงานเพราะถูกทำร้ายหรือบางคนสามีตามไปราวีถึงที่ทำงานก็มี บางคนก็รู้สึกว่าเมื่อเจอภาวะแบบนี้เขาสูญเสียความมั่นใจ ต้องไปหาหมอ หรือมีภาวะทางจิตใจอย่างยาวนานหรือต้องทานยา”

“นี่ไม่ใช่เรื่องตลก ต้องอย่าลืมว่าตัวเลขผู้หญิงถูกใช้ความรุนแรงในครอบครัวที่ราชการเก็บได้ปีหนึ่งมีอยู่กว่า 20,000-30,000 ราย กระทบต่อสังคมทั้งในด้านเศรษฐกิจและพัฒนาการของเยาวชน เนื่องจากหลายครั้งเยาวชนที่อยู่ในครอบครัวที่เกิดความรุนแรงเสี่ยงจะหลุดออกจากระบบการศึกษาและการพัฒนาพฤติกรรม นำมาสู่ปัญหาสังคมและวงจรความรุนแรง ซึ่งรัฐบาลเองก็เคยประกาศว่าต้องการแก้ปัญหาความรุนแรงในครอบครัวเป็นวาระแห่งชาติ”

กานต์กนิษฐ์ เคลื่อนไหวหลังถูกพาดพิงระหว่างอภิปรายรัฐมนตรี

เช้าวันที่ 21 กรกฎาคม 2565 กานต์กนิษฐ์ แห้วสันตติ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ และภรรยานายชัยวุฒิ โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว “ขอบคุณมิตรภาพที่อยู่เคียงข้างกันตลอด” พร้อมโพสต์รูปติดชื่อเพื่อนส.ส.ร่วมพรรค พิชชารัตน์ เลาหพงศ์ชนะ ไพลิน เทียนสุวรรณ และ พัชรินทร์ ซำศิริพงษ์ หลังกลุ่มส.ส.หญิงพลังประชารัฐลุกขึ้นประท้วงตลอดการอภิปรายไม่ไว้วางใจของชนก จันทาทอง และให้เหตุผลว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจไม่ควรนำเรื่องครอบครัวมาเกี่ยวข้อง

ด้านนายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ ตอบกลับการอภิปรายไม่ไว้วางใจทันทีว่าสภาผู้แทนราษฎรมีมาตรฐาน “ต่ำ” ทำให้นางชนก จันทาทองตั้งคำถามกลับว่าหากบริสุทธิ์ใจเหตุใดต้องหย่า