‘นกแอร์’ แจ้งหยุดดำเนินกิจการบางส่วนชั่วคราวตั้งแต่ 1 ส.ค. หลังรัฐสั่งห้ามบินพื้นที่สีแดง

‘นกแอร์’ เตรียมประชุมเจ้าหนี้เพื่อพิจารณาแผนฟื้นฟูกิจการ 4 ส.ค. นี้ พร้อมแจ้งหยุดดำเนินกิจการบางส่วนชั่วคราว ตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค. เป็นต้นไป หลังรัฐสั่งห้ามบินในเขตพื้นที่สีแดง

วันที่ 29 ก.ค. 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริษัท สายการบินนกแอร์ จำกัด (มหาชน) ได้แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ว่า ตามที่บริษัทได้ยื่นคําร้องขอฟื้นฟูกิจการในวันที่ 30 ก.ค. 2563 ซึ่งศาลล้มละลายกลางได้มีคำสั่งให้บริษัทดําเนินการฟื้นฟูกิจการและแต่งตั้งผู้ทําแผนเมื่อวันที่ 4 พ.ย. 2563 และผู้ทําแผนได้ยื่นแผนฟื้นฟูกิจการต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ในวันที่ 17 พ.ค. 2564 แล้วนั้น

ขณะนี้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ได้กําหนดวันประชุมเจ้าหนี้ให้แก่เจ้าหนี้ผู้มีสิทธิออกเสียงเพื่อพิจารณาแผนฟื้นฟูกิจการเป็นที่เรียบร้อยแล้วในวันที่ 4 ส.ค. 2564 โดยเป็นการประชุมออนไลน์ผ่านระบบ E-meeting บริษัทจะรายงานความคืบหน้าในการฟื้นฟูกิจการรวมถึงความคืบหน้าอื่น ๆ เพิ่มเติมต่อไป

ขณะเดียวกัน สายการบินนกแอร์ ยังแจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ด้วยว่า ทางสายการบินจำเป็นต้องหยุดกิจการบางส่วนชั่วคราว ตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค. 2564 เป็นต้นไป เนื่องมาจากเหตุสุดวิสัยตามที่ภาครัฐได้มีประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตพื้นที่ทั่วราชอาณาจักร และข้อกำหนดออกตามความใน มาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 28) ประกาศ ณ วันที่ 17 ก.ค. 2564 กำหนดมาตรการที่มุ่งลดและจำกัดการเคลื่อนย้ายการเดินทางของบุคคล และการดำเนินกิจกรรมในระบบขนส่งสาธารณะให้มากที่สุด

รวมถึงตามประกาศของสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) เรื่อง แนวปฏิบัติสำหรับผู้ดำเนินการสนามบินและผู้ดำเนินการเดินอากาศยานในเส้นทางการบินภายในประเทศ ในระหว่างสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) (ฉบับที่3) โดยห้ามบินรับส่งผู้โดยสารในพื้นที่ควบคุมสูงสุด และเข้มงวดหรือห้ามบินในพื้นที่สีแดงอย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 21 ก.ค. 2564 เป็นต้นไป จนกว่าสถานการณ์จะสิ้นสุดหรือมีประกาศอื่นนั้น

ทั้งนี้ บริษัทได้พยายามใช้มาตรการต่างๆ เพื่อจะบรรเทาสถานการณ์ที่เกิดขึ้น และคาดหวังว่าสถานการณ์ต่างๆจะกลับสู่ภาวะปกติโดยเร็ว แต่สถานการณ์ดังกล่าวก็ยังไม่ดีขึ้น

อย่างไรก็ตาม บริษัทยังคงดำเนินการในส่วนที่จำเป็นและยังคงเส้นทางการบินบางส่วนที่สามารถดำเนินการได้ให้มากที่สุดเพื่อสนับสนุนความจำเป็นในการเดินทางของคนไทย โดยผู้ที่ประสงค์จะเดินทางสามารถตรวจสอบเส้นทางการบินได้ที่ www.nokair.com และหากสถานการณ์ฉุกเฉินดังกล่าวมีการเปลี่ยนแปลง บริษัทจะเรียนแจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยต่อไป