SHARE

คัดลอกแล้ว

องค์การอนามัยโลกห่วงโควิด-19 อาจเกิดการกลายพันธุ์ในเกาหลีเหนือ หากระบาดในกลุ่มประชาชนที่ไม่แข็งแรงและยังไม่ได้ฉีดวัคซีน กังวลมีการปกปิดข้อมูล ไม่ยอมรับความช่วยเหลือที่นานาชาติเสนอให้ 

วันที่ 18 พ.ค. 2565 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ทั่วโลกกำลังกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในเกาหลีเหนือ หลังจากที่สำนักข่าวกลางเกาหลี (KCNA) ซึ่งเป็นกระบอกเสียงของรัฐบาลเกาหลีเหนือ ออกมายืนยันว่าพบการระบาดของโควิด-19 ในประเทศเป็นครั้งแรกเมื่อวันพฤหัสบดีที่แล้ว (12 พ.ค.) หลังพบผู้ป่วยมีอาการไข้ปริศนาจำนวนมากตั้งแต่ปลายเดือนเม.ย. ที่ผ่านมา และข้อมูลล่าสุดที่ได้รับการเปิดเผยออกมาพบว่ามีผู้ป่วยที่มีอาการไข้อยู่ราว 1.5 ล้านคน จากประชากรทั้งประเทศ 26 ล้านคน ขณะที่ผู้เสียชีวิตจากอาการไข้หวัดปริศนาได้เพิ่มขึ้นเป็น 50 คนแล้ว 

อย่างไรก็ตาม ข้อมูลที่เปิดเผยออกมาจากทางการเกาหลีเหนือ ได้ถูกตั้งข้อสังเกตว่าไม่มีการระบุชัดเจนว่า ผู้ป่วยที่มีอาการป่วยทั้งหมดนั้น เป็นผลมาจากติดเชื้อโควิด-19 หรือไม่ ซึ่งผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า สาเหตุที่เป็นเช่นนี้นั้นเป็นเพราะว่า เกาหลีเหนือขาดแคลนอุปกรณ์สำหรับการตรวจเชื้อโควิด-19 รวมถึงทรัพยากรในการติดตามและรักษาผู้ป่วยเป็นวงกว้าง ด้วยเหตุนี้เองยิ่งทำให้เกิดความกังวลเพิ่มมากขึ้นเนื่องจากยอดผู้ป่วยที่แท้จริงมีแนวโน้มที่จะสูงกว่าตัวเลขทางการ

นอกจากนี้ นานาชาติยังเชื่อว่า เกาหลีเหนือซึ่งปิดประเทศมาเป็นเวลานานและปฏิเสธความช่วยเหลือจากต่างประเทศมาโดยตลอดนั้น อาจยังไม่ได้ฉีดวัคซีนแม้แต่เข็มเดียวให้กับประชาชนในประเทศ และอาจไม่สามารถเข้าถึงยาต้านไวรัสที่ใช้สำหรับการรักษาโควิด-19 ประกอบกับระบบสาธารณสุขของเกาหลีเหนือซึ่งเป็นทราบกันว่ายังคงมีความล้าหลังอยู่มาก ก็ไม่น่าจะมีความสามารถเพียงพอในการรับมือกับผู้ป่วยจำนวนมาก อีกทั้งวิกฤติการขาดแคลนอาหารที่ประสบมาก่อนหน้านี้ ก็ยังทำให้ชาวเกาหลีเหนือจำนวนมากอยู่ในภาวะที่มีสุขภาพไม่สมบูรณ์แข็งแรงอยู่แล้วเป็นทุนเดิม ซึ่งจะยิ่งสร้างความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดอาการป่วยรุนแรงหรืออาจถึงขั้นเสียชีวิต

องค์การอนามัยโลก (WHO) ระบุว่า จากข้อมูลที่ได้รับมา เกาหลีเหนือได้ทำการตรวจทดสอบการติดเชื้อไวรัสให้กับประชาชนไปแค่เพียง 64,000 ครั้ง นับตั้งแต่เริ่มพบการระบาดของโรคโควิด-19 ในประเทศ ซึ่งเป็นจำนวนที่น้อยมากเมื่อเทียบกับการดำเนินการของประเทศอื่นๆ ทั่วโลก แม้ คิม จอง อึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ จะแสดงความพยายามในการต่อสู้กับโรคระบาดอย่างเต็มที่  ทั้งการประกาศมาตรการล็อกดาวน์เข้มงวด แนะนำให้ประชาชนสวมหน้ากากอนามัยและเว้นระยะทางสังคม พร้อมส่งทหารช่วยแจกจ่ายยาและเวชภัณฑ์ที่จำเป็น

“แน่นอนว่า มันน่าเป็นห่วงมากๆ หากประเทศใดก็ตาม ไม่ได้ใช้เครื่องไม้เครื่องมือจำเป็นที่เรามีอยู่กันในขณะนี้ องค์การอนามัยโลกย้ำหลายต่อหลายครั้งว่า การที่คุณไม่ได้ทำการตรวจหาการติดเชื้อ จะยิ่งเพิ่มความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดการกลายพันธุ์ใหม่ๆ ของไวรัสได้ตลอดเวลา” ไมค์ ไรอัน ผู้อำนวยการฝ่ายฉุกเฉินขององค์การอนามัยโลกกล่าว 

เช่นเดียวกับ ดร.ทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการใหญ่องค์การอนามัยโลก ที่ได้ออกมาเน้นย้ำว่าเขามีความกังวลอย่างยิ่งต่อการระบาดของไวรัสในกลุ่มประชากรที่ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ทั้งยังอยู่ในสภาวะแวดล้อมที่ไม่สู้จะดีนัก 

องค์การอนามัยโลกยังระบุด้วยว่า เกาหลีเหนือไม่ได้มีการแจ้งให้ทางองค์การทราบถึงการระบาดของโรคอย่างทันท่วงที ซึ่งถือเป็นการละเมิดข้อผูกพันทางกฎหมายภายใต้ระเบียบข้อบังคับด้านสุขภาพระหว่างประเทศขององค์การอนามัยโลก อย่างไรก็ตาม องค์การยังพร้อมที่จะมอบความช่วยเหลือ หากแต่ไม่มีอำนาจที่จะเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับประเทศที่มีอำนาจอธิปไตยของตนเองหากได้รับการปฏิเสธ

ท่าทีดังกล่าวขององค์การอนามัยโลกมาพร้อมกับความกังวลที่ว่า ผู้นำเกาหลีเหนืออาจจะตัดสินใจยอมรับความสูญเสียที่จะเกิดขึ้น และมีการชี้แจงตัวเลขการติดเชื้อและเสียชีวิตให้อยู่ในระดับที่สามารถจัดการได้ เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ถูกตรวจสอบจากนานาชาติ โดยมีผู้สังเกตการณ์บางรายชี้ว่า ทางการเกาหลีเหนือกำลังจงใจรายงานยอดผู้ป่วยและเสียชีวิตต่ำกว่าความเป็นจริงเพื่อบรรเทาแรงกดดันที่จะถาโถมเข้ามา 

จุง แจ ฮุน ศาสตราจารย์ด้านเวชศาสตร์ป้องกันจากมหาวิทยาลัยกาชนในเกาหลีใต้ระบุว่า “ถ้าเราพูดถึงอัตราการเสียชีวิตของผู้ติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์โอไมครอนในเกาหลีใต้ ซึ่งอยู่ที่ 0.1% ตัวเลขนี้อาจจะสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในเกาเหลีเหนือ โดยอาจสูงได้ถึง 1% แม้จะเป็นเรื่องที่ยากจะคาดเดาในขณะนี้” 

นอกจากนี้ มีรายงานบนเว็บไซต์ข่าวเอเชียเพรสซึ่งมีสำนักตั้งอยู่ในญี่ปุ่นซึ่งอ้างว่าได้มาจากนักข่าวพลเมืองในเกาหลีเหนือที่แอบใช้โทรศัพท์จีนส่งข้อมูลมาว่า ชาวเกาหลีเหนือยังคงใช้ชีวิตตามปกติ พวกเขายังออกไปทำงาน ร้านรวงในตลาดก็ยังคงเปิดให้บริการ “ไม่มีข้อห้ามในการเดินทางออกจากบ้าน แต่เราได้รับคำสั่งให้สวมหน้ากากอนามัยสองชั้น” แหล่งข่าวระบุ 

แหล่งข่าวยังเผยด้วยว่า “ผู้คนยังคงเดินทางไปทำงานในโรงงานและสถานที่ทำงานของพวกเขาตามปกติ เนื่องจากเจ้าหน้าที่ไม่อยากให้งานหยุดชะงัก โดยพวกเขาจะถูกวัดไข้ตอนที่เดินทางไปถึงและกำลังจากออกจากที่ทำงาน” พร้อมกับเสริมว่า ประชาชนทั้งหลายกลัวว่าจะอยู่อย่างไรหากต้องถูกล็อกดาวน์และไม่ได้ทำงานมากกว่ากลัวที่จะติดเชื้อโควิด-19 

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า