เกาหลีเหนือพบผู้ป่วยสงสัยติดโควิดเพิ่มเป็น 1.5 ล้านคน ‘คิม จอง อึน’ ยังเมินนานาชาติเสนอช่วยเหลือ

เกาหลีเหนือพบผู้ป่วยมีอาการไข้เพิ่มเป็นเกือบ 1.5 ล้านคน กังวลจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 พุ่งขึ้นต่อเนื่อง แต่ไม่มีชุดทดสอบยืนยันเพียงพอ ขณะ ‘คิม จอง อึน’ ยังเพิกเฉยข้อเสนอนานาชาติมอบวัคซีนและเวชภัณฑ์จำเป็นช่วยต่อสู้การระบาด 

วันที่ 17 พ.ค. 2565 บลูมเบิร์กรายงานอ้างการเปิดเผยของสำนักข่าวกลางเกาหลี (KCNA) ว่า เกาหลีพบผู้ป่วยมีอาการไข้เพิ่มขึ้นอีก 269,510 ราย และเสียชีวิตอีก 6 ราย ในเวลา 24 ชั่วโมงนับจนถึง 18.00 น. ของวันจันทร์ (16 พ.ค.) 

ตัวเลขดังกล่าวส่งผลให้จนถึงขณะนี้เกาหลีเหนือมีผู้ต้องสงสัยว่าติดเชื้อโควิด-19 พุ่งขึ้นเป็นเกือบ 1.5 ล้านคนภายในระยะเวลาไม่ถึงเดือน นับตั้งแต่ที่มีรายงานพบการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 มาตั้งแต่ปลายเดือนเม.ย. ที่ผ่านมา 

อย่างไรก็ตาม รายงานของสำนักข่าวกลางเกาหลี ได้ถูกตั้งข้อสังเกตว่า ไม่ได้มีการระบุว่าผู้ป่วยมีอาการไข้ที่เพิ่มจำนวนขึ้นต่อเนื่องนั้น เป็นผู้ติดเชื้อโควิด-19 อย่างชัดเจน ซึ่งคาดว่าเป็นเพราะเกาหลีเหนือไม่ได้มีชุดตรวจโควิด-19 เพียงพอจึงไม่สามารถยืนยันได้ว่าผู้ป่วยทั้งหมดมีอาการจากการติดเชื้อโควิด 

สำนักข่าวกลางเกาหลีระบุว่า นายคิม จอง อึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือได้สั่งระดมกำลังเจ้าหน้าที่ทหารมาต่อสู้ในช่วงเวลาที่กำลังเผชิญกับสิ่งที่เขาเรียกว่าหายนะครั้งใหญ่สุดของประเทศแล้ว ทั้งในการช่วยดำเนินการแจกจ่ายเวชภัณฑ์และการควบคุมให้มีการปฏิบัติตามมาตรการกักกันอย่างเข้มงวดเพื่อสกัดการแพร่ระบาดไม่ได้แผ่ขยายออกไปเป็นวงกว้างมากขึ้น 

ทั้งนี้ สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในเกาหลีเหนือ ทำให้นานาชาติต่างแสดงความกังวลว่าการแพร่ระบาดที่เกิดขึ้นนี้อาจทำให้เกาหลีเหนือต้องเผชิญกับวิกฤตด้านสาธารณสุขอย่างรุนแรงภายใต้ระบบการแพทย์ที่ยังคงล้าหลังกว่าประเทศอื่นๆ จนหน่วยงานและประเทศต่างๆ เริ่มเสนอความช่วยเหลือให้กับเกาหลีเหนือแต่ยังคงได้รับการปฏิเสธและเพิกเฉยจากอีกฝ่าย 

กระทรวงรวมชาติของเกาหลีใต้เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้ (16 พ.ค.) ประธานาธิบดียุน ซอกยอล ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่รัฐบาลพยายามติดต่อไปยังรัฐบาลเปียงยางเพื่อเสนอการเจรจาในเรื่องการมอบความช่วยเหลือในการต่อสู้กับการระบาดของไวรัสโควิด-19 รวมถึงการจัดหาวัคซีนและเวชภัณฑ์ที่จำเป็นให้กับเกาหลีเหนือ แต่ยังคงไม่ได้รับการตอบรับ

ขณะเดียวกัน องค์การสหประชาชาติก็ได้ออกมาแสดงความเป็นห่วงว่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจะยิ่งเลวร้ายลงไปอีกเนื่องจากเกาหลีเหนือกำลังเผชิญกับวิกฤตการณ์ขาดแคลนอาหารครั้งใหญ่ทำให้ประชาชนราว 40% ขาดสารอาหาร ซึ่งเท่ากับว่าพวกเขาเหล่านั้นอาจมีร่างกายที่ไม่แข็งแรงพอในการต่อสู้กับเชื้อไวรัส อีกทั้ง เกาหลีเหนือยังเป็นหนึ่งในสองประเทศที่ในโลกที่ยังไม่ได้มีการฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้กับประชากร โดยอีกประเทศที่ยังไม่มีการฉีดวัคซีนตามข้อมูลขององค์การสหประชาชาติคือประเทศเอริเทรีย

ด้านผู้เชี่ยวชาญบางส่วนได้ออกมาแสดงความคิดเห็นว่า ขณะนี้วัคซีนป้องกันโควิด-19 อาจมีความจำเป็นสำหรับเกาหลีเหนือน้อยกว่ายาต้านไวรัส เนื่องจากในสถานการณ์ที่เกิดการระบาดขึ้นแล้วและมีผู้ติดเชื้อเป็นจำนวนมากในปัจจุบัน จำนวนวัคซีนที่ประชาคมโลกจะมอบให้กับเกาหลีเหนือนั้นอาจจะไม่เพียงพอที่จะป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสอย่างรวดเร็ว แต่ผู้เชี่ยวชาญก็ยอมรับว่าข้อเสนอในการรักษาด้วยยานั้น มีแนวโน้มที่จะทำให้เกาหลีเหนือแสดงจุดยืนที่แตกต่างออกไปได้เช่นกัน