คาบสมุทรเกาหลีร้อนระอุอีกครั้ง หลังจากที่เกาหลีเหนือรัวยิงขีปนาวุธไม่หยุดในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา เพื่อตอบโต้ปฏิบัติการซ้อมรบร่วมระหว่างเกาหลีใต้และสหรัฐฯ จนทำให้ประเทศเพื่อนบ้านอย่างญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ต้องประกาศเตือนภัยพลเมืองของตน 

ขณะเดียวกันทั่วโลกเองก็กำลังเฝ้าจับตาสถานการณ์อย่างใกล้ชิดว่าสถานการณ์จะบานปลายกลายมาเป็นอันตรายและภัยคุกคามครั้งใหม่ ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการเดินหน้าพัฒนาขีปนาวุธของเกาหลีเหนือ ซึ่งดูเหมือนจะรุดหน้าไปมากภายใต้การนำของ คิม จอง อึน ผู้เคยออกมาประกาศชัดเจนก่อนหน้านี้ว่า พร้อมจะเผชิญหน้ากับภัยคุกคามใดๆ ที่มาจากศัตรู

ตอนนี้เกาหลีเหนือมีอะไรอยู่ในมือ workpointTODAY จะพาไปส่องขีปนาวุธบางส่วนในคลังของเกาหลีเหนือ และอานุภาพของขีปนาวุธเหล่านั้น หากมีการยิงออกมาจะกระทบที่ไหนบ้าง

• KN-23 เป็นขีปนาวุธพิสัยใกล้ (Short-Range Ballistic Missile-SRBM) ที่ได้รับการพัฒนามาจากขีปนาวุธรุ่นเดิม ซึ่งเกาหลีเหนือนำออกมาเปิดตัวเป็นครั้งแรกในเดือน ก.พ. 2561 และทำการทดสอบครั้งแรกในเดือน พ.ค. 2562 คาดว่ามีระยะยิงเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 500 กิโลเมตร โดยผู้เชี่ยวชาญวิเคราะห์ว่า KN-23 ถือเป็นขีปนาวุธที่น่ากลัวชนิดหนึ่ง เนื่องจากได้รับการพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง จนสามารถตรวจจับได้ยากขึ้น เพราะคุณสมบัติที่สามารถเปลี่ยนวิถีการบินเพื่อหลีกเลี่ยงการถูกตรวจจับหรือบินสกัดได้ KN-23 เป็นขีปนาวุธที่เกาหลีเหนือมักจะนำออกมาทดสอบยิงตกในน่านน้ำบริเวณคาบสมุทรเกาหลี

• PUKGUKSONG-2 เป็นขีปนาวุธพิสัยกลาง (Medium-range ballistic missile – MRBM) ที่พัฒนามาจากขีปนาวุธติดเรือดำน้ำ PUKGUKSONG-1 มีระยะยิงอยู่ที่ประมาณ 1,200-1,300 กิโลเมตร เกาหลีเหนือนำมาทดสอบครั้งแรกเมื่อเดือน ก.พ. 2560 โดย PUKGUKSONG-2 เป็นขีปนาวุธที่ถูกออกแบบมาให้ใช้เชื้อเพลิงแข็งแทนการใช้เชื้อเพลิงเหลวแบบขีปนาวุธรุ่นดั้งเดิมจึงมีคุณสมบัติในการใช้เวลาปล่อยขีปนาวุธเร็วกว่า ทำให้ศัตรูอาจไม่สามารถตรวจจับหรือปล่อยจรวดออกสกัดได้ทันเวลา 

• HWASONG 7 หรือที่รู้จักกันในชื่อ Nodong-1 เป็นขีปนาวุธพิสัยกลาง (Medium-range ballistic missile – MRBM) คาดว่ามีระยะยิงเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 1,500 กิโลเมตร โดยระยะยิงของขีปนาวุธรุ่นนี้สามารถโจมตีไกลถึงกรุงโตเกียว เมืองหลวงของญี่ปุ่น

• PUKGUKSONG-3 เป็นขีปนาวุธพิสัยกลาง (Medium-range ballistic missile – MRBM) ซึ่งคาดว่าได้รับการพัฒนามาจาก PUKGUKSONG-2 โดยเกาหลีเหนือเคยนำขีปนาวุธชนิดนี้ออกมายิงทดสอบจากแท่นใต้น้ำในปี 2562 ในลักษณะของการยิงแบบองศาสูง พบว่าขีปนาวุธลูกดังกล่าวมีระยะยิงอยู่ที่ประมาณ 1,900 กิโลเมตร ซึ่งหากนำมายิงในวิถีราบปกติแล้วขอบเขตระยะยิงของขีปนาวุธลูกนี้จะครอบคลุมทั้งเกาหลีใต้และญี่ปุ่น 

• HWASONG-10 (BM-25 MUSUDAN) เป็นขีปนาวุธพิสัยกลาง (Medium-range ballistic missile – MRBM) ที่ได้รับการพัฒนามาให้ยิงได้ไกลขึ้น โดยมีระยะยิงเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 4,000 กม. ถือว่าเป็นระยะการโจมตีที่ไกลถึงเกาะกวม ดินแดนของสหรัฐฯ ในมหาสมุทรแปซิฟิก

• HWASONG-12  เป็นขีปนาวุธพิสัยกลาง (Medium-range ballistic missile – MRBM) ที่ทรงพลังลูกหนึ่งซึ่งเกาหลีเหนือเคยอ้างว่า สามารถใช้บรรทุกหัวรบนิวเคลียร์ขนาดใหญ่และมีน้ำหนักมากได้ โดย HWASONG-12 มีระยะยิงอยู่ที่ประมาณ 4,500 กิโลเมตร เช่นเดียวกับ HWASONG-10 ระยะการโจมตีของขีปนาวุธ HWASONG-12 สามารถเล็งไปยังฐานทัพทั้งหมดของสหรัฐฯ บนเกาะกวมได้

• HWASONG-14 เป็นขีปนาวุธลูกแรกของเกาหลีเหนือที่มีขีดความสามารถยิงได้ไกลจนถึงดินแดนสหรัฐฯ โดยมีระยะยิงมากกว่า 10,000 กิโลเมตร อย่างไรก็ตาม จากการประเมินของผู้เชี่ยวชาญ HWASONG-14 ยังไม่ใช่ขีปนาวุธที่น่ากลัวมาก และอาจไม่สามารถไปได้ไกลถึงแผ่นดินใหญ่ของสหรัฐฯ โดยสามารถโจมตีได้มากสุดแค่เพียงพื้นที่ในรัฐอะแลสกาเท่านั้น

• HWASONG-15 เป็นขีปนาวุธข้ามทวีป (Intercontinental ballistic missile – ICBM) ที่เกาหลีเหนือนำออกมาอวดโฉมครั้งแรกในขบวนสวนสนามเมื่อเดือน ต.ค. 2563 และทดสอบยิงครั้งแรกในเดือน พ.ย. 2560 สำหรับ HWASONG-15 เป็นขีปนาวุธทรงพลังสุดลูกหนึ่งที่เกาหลีเหนือเคยนำออกมาทดสอบ ซึ่งรัฐบาลเปียงยางอ้างว่ามีระยะโจมตีมากกว่า 13,000 กิโลเมตร เท่ากับว่าจะสามารถโจมตีเป้าหมายใดๆ ในดินแดนของสหรัฐฯ ได้ แต่ผู้เชี่ยวชาญคาดว่า ด้วยน้ำหนักของขีปนาวุธรุ่นนี้หากมีการบรรจุหัวรบที่มีน้ำหนักมาก อาจมีระยะโจมตีไม่ถึงตามคำกล่าวอ้าง และสามารถยิงไปไกลได้แค่ดินแดนด้านตะวันตกของสหรัฐฯ เท่านั้น

• อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดนี้ ยังไม่นับรวม HWASONG-17 ที่เกาหลีเหนือเคยนำออกมาอวดโฉมเมื่อเดือน ต.ค. 2563 และทดสอบยิงมาแล้ว แต่กำลังอยู่ระหว่างการพัฒนา โดยมีการประเมินกันว่าขีปนาวุธชนิดนี้จะมีระยะยิงไกลได้มากกว่า 15,000 กิโลเมตร ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นจะถือเป็นขีปนาวุธที่ใหญ่ที่สุดในโลก แต่ข้อมูลทั้งหมดยังคงไม่เป็นที่ชัดเจนในตอนนี้