Nvidia อาจสูญรายได้หมื่นล้าน หลัง ‘ทรัมป์’ สั่งเบรกห้ามขายชิป H20 ให้จีน

‘โดนัลด์ ทรัมป์’ ออกคำสั่งห้าม Nvidia Corp. ขายชิป H20 ให้กับจีน ซึ่งเป็นหนึ่งในมาตรการควบคุมการส่งออก (Export Controls) ที่รัฐบาลสหรัฐฯ ออกมาใช้เพื่อห้ามหรือจำกัด ไม่ให้บริษัทในสหรัฐฯ ส่งออกเทคโนโลยีขั้นสูงโดยเฉพาะชิปประมวลผลสำหรับ AI ไปยังจีน

Nvidia เปิดเผยว่า รัฐบาลแจ้งเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ( 14 เม.ย. 68) ว่าชิป H20 จะต้องมีใบอนุญาตในการส่งออกไปยังจีน โดยยังไม่มีกำหนดว่าจะอนุมัติได้เมื่อใด รัฐบาลให้เหตุผลว่า H20 อาจถูกนำไปใช้ในระบบซูเปอร์คอมพิวเตอร์ของจีน ซึ่งเป็นสิ่งที่สหรัฐฯ กังวลว่าจะถูกใช้เพื่อประโยชน์ทางการทหาร

ผลจากคำสั่งดังกล่าว ทำให้ Nvidia อาจต้องขาดทุนจากสินค้าคงคลังและภาระผูกพันประมาณ 5.5 พันล้านดอลลาร์ในไตรมาสนี้ ขณะเดียวกัน หุ้นของบริษัทร่วงลงประมาณ 6% และยังฉุดให้หุ้นบริษัทเทคโนโลยีอื่นๆ อย่าง AMD ซึ่งเป็นคู่แข่งในตลาดชิป AI ตกตามไปด้วย

[ H20 ถูกออกแบบมาให้ ‘อยู่ใต้เรดาร์‘ แต่ยังไม่รอด]

ก่อนหน้านี้ Nvidia พัฒนา H20 ขึ้นมาเพื่อให้เป็นชิปรุ่นที่ลดประสิทธิภาพลงจากรุ่นพรีเมียม เพื่อให้สามารถขายในตลาดจีนได้โดยไม่ผิดข้อจำกัดของสหรัฐฯ แม้จะไม่เหมาะสำหรับการฝึกโมเดล AI ขนาดใหญ่ แต่ก็ยังมีศักยภาพมากพอสำหรับการประมวลผลแบบอนุมาน (inference) ซึ่งเป็นขั้นตอนที่โมเดลนำความรู้ไปใช้จริง

อย่างไรก็ตาม รัฐบาลสหรัฐฯ ยังคงมองว่าแม้ H20 จะเป็นชิปรุ่นเล็ก แต่ก็ยังมีศักยภาพมากพอที่อาจถูกนำไปใช้ในเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับการทหารของจีน ทำให้ต้องเข้าข่ายถูกควบคุมด้วย

ซึ่งมาตรการล่าสุดนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของความพยายามระยะยาวของสหรัฐฯ ในการสกัดไม่ให้จีนเข้าถึงเทคโนโลยีล้ำหน้า ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2022 สหรัฐฯ ได้เริ่มห้าม Nvidia และผู้ผลิตชิปรายอื่นๆ ขายชิปรุ่นล้ำหน้าให้จีน รวมถึงอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ เช่น เครื่องมือผลิต โปรเซสเซอร์ และชิปหน่วยความจำความเร็วสูง ซึ่งล้วนจำเป็นต่อการพัฒนา AI

โดยตั้งแต่ในช่วงรัฐบาลไบเดน สหรัฐฯ ยังขยายข้อจำกัดเหล่านี้ออกไปนอกเหนือจากจีน ครอบคลุมถึงกว่า 40 ประเทศที่อาจเป็น ช่องทางอ้อมให้จีนเข้าถึงเทคโนโลยีต้องห้าม และในช่วงท้ายวาระ ยังผลักดันให้มีกรอบควบคุมในระดับโลกอีกด้วย ซึ่งรัฐบาลทรัมป์ประกาศจะสานต่อและเสริมความเข้มข้นในแนวทางนี้

[ อาจกระทบรายได้บริษัทสูงถึง 18,000 ล้านดอลลาร์ ] 

Bloomberg Intelligence ประเมินว่า หากข้อจำกัดยังคงอยู่ตลอดทั้งปี Nvidia อาจสูญเสียรายได้ถึง 14,000–18,000 ล้านดอลลาร์ในปีนี้ โดยเฉพาะจากตลาดศูนย์ข้อมูลในจีน ซึ่งอาจกลับไปสู่ระดับตัวเลขหลักเดียว เหมือนช่วงต้นปี 2024 ก่อนที่ H20 จะเริ่มเข้าสู่กระบวนการผลิต

แม้ว่า Nvidia จะประกาศแผนสร้างโครงสร้างพื้นฐาน AI มูลค่ารวม 500,000 ล้านดอลลาร์ในสหรัฐฯ ภายใน 4 ปี เพื่อดึงดูดการสนับสนุนจากภาครัฐ แต่ก็ดูเหมือนยังไม่เพียงพอที่จะเปลี่ยนแปลงท่าทีของรัฐบาลทรัมป์ ซึ่งยังยึดแนวทางความมั่นคงมาก่อนในเรื่องเทคโนโลยี

อย่างไรก็ตาม Nvidia เตือนว่าการเข้มงวดมากเกินไปอาจยิ่งกระตุ้นให้จีนเร่งพัฒนาเทคโนโลยีทดแทนด้วยตัวเอง และลดการพึ่งพาบริษัทสหรัฐฯ ในระยะยาว ยกตัวอย่างเช่น ชิป AI ของ Huawei ที่แม้ยังด้อยกว่าในแง่ประสิทธิภาพ แต่ก็เริ่มทดแทนกันได้ในบางแง่มุมและมีแนวโน้มพัฒนาเร็วขึ้นเรื่อยๆ

ด้าน ‘โทโมะ คิโนชิตะ’ นักวิเคราะห์จาก Invesco มองว่า การควบคุม Nvidia เป็นส่วนหนึ่งของสงครามการค้าระยะยาว และไม่ใช่แค่เรื่องการเมืองเท่านั้น แต่ยังสะท้อนความกังวลจริงจังของสหรัฐฯ เกี่ยวกับการเติบโตของจีนในอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์