ยังไม่ชัดเจนว่าระหว่างไมโครซอฟท์ และกูเกิล ใครจะเป็นผู้ชนะในสงคราม AI แต่บริษัทหนึ่งที่ได้ประโยชน์จาก Tech War ครั้งนี้ไปแล้วเต็มๆ คือ Nvidia ผู้ผลิตชิปประมวลผลหรือ GPU
“AI ได้กลายเป็นจุดเปลี่ยน ที่ผลักดันให้ธุรกิจทุกขนาด ซื้อชิป Nvidia เพื่อนำไปพัฒนาซอฟต์แวร์แมชชีนเลิร์นนิง
ความเก่งกาจและความสามารถของ Generative AI ยังก่อให้เกิดความรู้สึกเร่งด่วนในองค์กรต่างๆ ทั่วโลก ว่าต้องพัฒนา AI อย่างเร็วที่สุด” Jensen Huang ซีอีโอ Nvidia พูดในการแถลงผลประกอบการบริษัท
ผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 4 ปีงบการเงิน 2023 ของ Nvidia มีรายได้รวม 6,051 ล้านดอลลาร์ ลดลง 21% เมื่อเทียบกับปีก่อน แต่เพิ่มขึ้น 2% จากไตรมาสก่อนหน้า กำไรสุทธิ 1,414 ล้านดอลลาร์
รายรับจากธุรกิจดาต้าเซ็นเตอร์ ซึ่งมีผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับ AI รวมด้วย อยู่ที่ 3.62 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 11% ยอดขายชิปเกมอยู่ที่ 1.83 พันล้านดอลลาร์ กำไรต่อหุ้นอยู่ที่ 88 เซนต์ ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์ตั้งไว้ที่ 81 เซนต์
หลังจากประกาศผลธุรกิจ รวมถึงการที่ซีอีโอเผยว่าบริษัทมีทิศทางที่ดีในยุค AI ก็ส่งผลให้หุ้นดีดขึ้นไปแล้ว 14%
[ ชิป A100 ของ Nvidia แบกวงการ AI ในตอนนี้ ]
หลายคนอาจรู้จัก Nvidia ในฐานะผู้ผลิตหน่วยประมวลผลทางด้านกราฟิก (GPUs) สำหรับคอมพิวเตอร์ หรือที่เรียกติดปากกันว่าการ์ดจอ ซึ่งเจาะกลุ่มคนต้องการใช้คอมพิวเตอร์แรงๆ หรือเล่นเกมแรงๆ เป็นหลัก แต่อีกผลิตภัณฑ์หลักที่มีชื่อเสียงของ Nvidia คือ GPU ที่ไว้เทรนโมเดล ซึ่งเป็นส่วนสำคัญต่อการเทรน AI
รายงานจาก State of AI Report 2022 และ New Street Research เผยให้เห็นว่า Nvidia กำลังคุมตลาด AI มากถึง 95% และม้ามืดของ Nvidia คือชิป A100
ชิป A100 คือ สามารถทำการคำนวณง่ายๆ ได้หลายอย่างพร้อมกัน ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการฝึกเทรนโมเดล
เทคโนโลยีเบื้องหลัง A100 เริ่มแรกใช้เพื่อเรนเดอร์กราฟิก 3 มิติในเกม แต่ปัจจุบัน A100 ของ Nvidia รับหน้าที่ช่วยเทรนโมเดล ทำแมชชีนเลิร์นนิ่ง ซึ่งเหมาะกับงานสร้าง Genarative AI ที่เรารู้จักกันดีอย่าง ChatGPT, Bing AI และ Stable Diffusion
A100 ยังเป็นที่ยอมรับในกลุ่มบริษัทเทคโนโลยีว่า เป็นชิปที่ทรงประสิทธิภาพในการสร้าง AI บางบริษัทถึงกับมองว่า ถ้าวันไหนบริษัทเริ่มใช้ A100 ถือเป็นสัญญาณที่ดีของการพัฒนาเลยก็ว่าได้
อย่างไรก็ตาม ชิปเหล่านี้ราคาไม่ถูกเลย คาดการณ์ว่าอยู่ที่ตัวละ 1 แสนดอลลาร์ หรือกว่า 3 ล้านบาท
Emad Mostaque ซีอีโอ Stability AI บริษัทที่ช่วยพัฒนา AI สร้างรูปภาพ Stable Diffusion เคยโพสต์ลงทวิตเตอร์ว่า “ปีที่แล้ว เราใช้ A100 ถึง 32 ตัว”
Stable Diffusion เป็นอีกบริษัทสร้าง Generative AI ที่สร้างความฮือฮาด้วยการใช้คีย์เวิร์ดไม่กี่คำ ก็สร้างภาพวาดและภาพเสมือนจริงได้ในไม่กี่วินาที ตอนนี้บริษัทก็อยู่ในกระแสหลักของ Generative AI และคาดว่ามีมูลค่าทะลุ 1 พันล้านดอลลาร์แล้ว
รายงาน State of AI Report 2022 ยังกางชาร์ตให้เห็นด้วยว่ามีบริษัทไหนที่เข้าถึงการใช้งานชิป A100 พบว่า Stable Diffusion ใช้กว่า 5,000 ตัว แต่ผู้ที่ใช้งานมากที่สุดคือ Meta ที่เช่าใช้งานถึง 16,000 ตัว (ข้อมูลอัพเดตล่าสุด พ.ย. ปี 2022)
[ GPU สำคัญไฉน ต่อ AI ]
ในงานแมชชีน เลิร์นนิ่ง ต่างจากงานเรียกใช้งานแอปพลิเคชั่นและเว็บไซต์ธรรมดาทั่วไป ใช้พลังการประมวลผลของคอมพิวเตอร์ทั้งหมด บางครั้งอาจเป็นชั่วโมง หรือเป็นวัน
หากบริษัทไหนดัน AI เป็นผลิตภัณฑ์หลัก ต้องใช้ GPU เพิ่มขึ้นเพื่อให้สอดคล้องกับช่วงพีคของการใช้งาน และการประมวลผลคำตอบที่รวดเร็วภายในหลักวินาทีหรือนาที
New Street Research ประมาณการณ์ว่าโมเดล ChatGPT ของ OpenAI อาจต้องใช้ GPU 8 ตัวในการตอบคำถามในเวลาน้อยกว่าหนึ่งวินาที นั่นเท่ากับไมโครซอฟท์ (ที่ได้สิทธิ์เอา ChatGPT มาใช้ในบริการเสิร์ช Bing) ต้องใช้เซิร์ฟเวอร์ที่ติดตั้ง 8-GPU มากกว่า 20,000 เครื่อง เพียงเพื่อปรับใช้โมเดลใน Bing ให้กับทุกคน ค่าใช้จ่ายด้านโครงสร้างพื้นฐาน คาดสูงถึง 4 พันล้านดอลลาร์
สรุปคือ ยิ่งมีคนใช้งานมาก GPU ก็ยิ่งมากขึ้นด้วย ราคาก็ยิ่งแพงมากขึ้นตาม
แน่นอนว่า Nvidia ไม่ใช่ผู้เล่นรายเดียวในตลาดนี้ ยังมี AMD ที่คนเรียกกันติดปากว่าชิปค่ายแดง และ Intel นอกจากนี้บริษัทเทคโนโลยีที่เป็นเจ้าของคลาวด์ใหญ่ๆ อย่าง Google กับ Amazon ก็พยายามสร้างชิปประมวลผลของตัวเอง เพื่อรองรับเวิร์คโหลดของการประมวล AI
แต่ถึงอย่างนั้น ถนนทุกสายก็ยังมุ่งสู่ Nvidia จากรายงานของ State of AI ระบุว่า งานวิจัย AI แบบโอเพ่นซอร์สมากกว่า 21,000 รายการกล่าวว่าพวกเขาใช้ชิป Nvidia โดยชิป A100 มีอัตราเติบโตอย่างรวดเร็วในปี 2022 จนกลายเป็นชิป Nvidia ที่มีการใช้งานมากเป็นอันดับสาม รองจากชิปกราฟิกสำหรับผู้ใช้งานคอมพิวเตอร์ทั่วไป
และต้องไม่ลืมว่าก่อนหน้านี้ Nvidia ถูกรัฐบาลสหรัฐฯกีดกันไม่ให้ส่งออกชิปประมมวลผลขั้นสูงไปจีน เพื่อเหตุผลความมั่นคง ซึ่งจะกระทบรายได้ของ Nvidia ไม่น้อย
แต่ดูเหมือนว่ากระแสไฮป์ของ AI จะเข้ามาช่วย Nvidia ได้ เมื่อดูจากการนำไปใช้งาน และการที่บริษัทเริ่มสนใจการนำ AI ขั้นสูงไปใช้ ก็เป็นอนาคตสดใสของ Nvidia ได้มาก
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- สหรัฐฯ เริ่มกระชับอำนาจ ควบคุมชิปเซมิคอนดักเตอร์ AI คุมส่งออกไปยังจีน กระทบ Nvidia และ AMD เต็มๆ https://workpointtoday.com/us-restricts-ai-chip-to-china/
- เป็นทางการแล้ว ไมโครซอฟท์ลงทุน Open AI เตรียมสร้างซูเปอร์คอมพิวเตอร์ https://workpointtoday.com/microsoft-invests-in-open-ai-multi-year/
ที่มา : State of AI, CNBC, Reuters