ยธ. ชี้ไม่คืนเบี้ยคนชรา ‘ไม่ติดคุก’ เพราะเป็นคดีแพ่ง แนะหากถูกเรียกคืน ให้ไปติดต่อหน่วยงานเพื่อหาข้อยุติ

เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมชี้ไม่คืนเบี้ยคนชราไม่ติดคุกเพราะเป็นคดีแพ่ง แนะนำประชาชนที่ถูกเรียกคืนให้ไปติดต่อหน่วยงานที่ใกล้ย่างเร็วที่สุดเพื่อแนะทางออกและหาข้อยุติ

ว่าที่ร้อยตรี ธนกฤต จิตอารีย์รัตน์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมแถลงความคืบหน้าผลคดีเรียกเงินคืนจากผู้สูงอายุทั่วประเทศ ว่า เรื่องดังกล่าวแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกคือส่วนที่เจ้าหน้าที่รัฐปฏิบัติตามระเบียบการจ่ายเงินหรือไม่ ส่วนที่สองคือผู้ขอเบี้ยยังชีพทราบถึงระเบียบต่างๆหรือไม่ ซึ่งในส่วนของผู้เสียหายควรจะปฏิบัติเป็นลำดับต่อไปคือ ติดต่อหน่วยยุติธรรมที่ใกล้ที่สุด โดยเตรียมเอกสาร และรายละเอียดที่เดือดร้อนว่าอยู่ในขั้นตอนใด เช่น ถูกเรียกให้ไกล่เกลี่ยชำระหนี้การยื่นอุทธรณ์ขอชำระหนี้ เข้าไปเพื่อให้เจ้าหน้าที่ได้รวบรวมพยานหลักฐานและส่งสู่ส่วนกลาง

อย่างไรก็ตาม ทางกระทรวงยุติธรรมได้มีการจัดตั้งคณะทำงานด้านกฎหมายเพื่อช่วยหาทางออกและหาทางเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบในครั้งนี้ ในเบื้องต้นมีข้อมูลว่า มีผู้ที่ถูกทางภาครัฐฟ้อง ต้องคืนเงิน จำนวนกว่า 15,000 คน

โดยยืนยันว่า สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นความผิดด้านกฎหมายแพ่ง จึงไม่มีการจำคุก ขอให้ประชาชนรีบมาทำเรื่องที่ศูนย์ยุติธรรมที่ใกล้มากที่สุด เพื่อที่กรมคุ้มครองสิทธิ์ จะสามารถหาทางช่วยเหลือหรือหาทนายความเข้ามาดูแล

เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า เมื่อส่วนกลาง ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว ประชาชนที่ถูกเรียกเก็บเงินคืน สุดท้ายแล้วจะมีทั้งกรณีที่ไม่ต้องคืนเงิน คืนเงินแค่บางส่วน คือเงินเท่าที่มี ซึ่งทุกอย่างต้องดูที่พยานหลักฐาน