โควิด-19 เริ่มควบคุมได้ แต่ยังไม่ใช่โรคประจำถิ่น

กรมควบคุมโรคชี้สถานการณ์โควิด-19 แม้ควบคุมได้แต่ยังไม่ใช่โรคประจำถิ่น ย้ำผู้เชียวชาญจะพิจารณาจากหลายปัจจัยทั่วโลก

วันที่ 14 ธ.ค.2564 นพ.วิชาญ ปาวัน ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค เปิดถึงการพิจารณาให้โรคโควิด-19 เป็นโรคประจำถิ่นจะพิจารณาที่อัตราการติดเชื้อ ศักยภาพการรับมือ การดูแลรักษาผู้ป่วย และหลายๆ ปัจจัยรวมกัน ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีใครฟันธงว่าจุดตัดต้องขีดเส้นตรงไหน

ทั่วโลกยังมีรายงานติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ และการระบาดในหลายพื้นที่ แต่อัตราการเสียชีวิตคงตัว และมีแนวโน้มลดลง ส่วนเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอนทั่วโลกพบแล้วใน 69 ประเทศ โดยมี 20 ประเทศที่เป็นรายงานการติดเชื้อในประเทศเอง ส่วนประเทศไทยยังเป็นการติดเชื้อมาจากต่างประเทศ เบื้องต้นมี 11 ราย ยืนยันแล้ว 8 ราย ส่วนใหญ่มาจากระบบ Test & Go

ในเชิงการควบคุมโรคจะมีระดับที่อ้างอิงไว้ว่าระดับนี้สามารถควบคุมและพยายามจะกดลงมาให้มากที่สุด เช่น กรุงเทพฯ และปริมณฑล จะขีดเส้นไว้ที่ติดเชื้อไม่เกิน 5-10 รายต่อแสนประชากร ระบบสาธารณสุขรองรับได้ เตียงไม่ล้น สามารถควบคุมได้ถ้าจะนำมาพิจารณาโรคประจำถิ่นจะต้องต่ำกว่านี้

นพ.วิชาญ ยืนยันว่า โควิด-19 มีการเปลี่ยนแปลงสายพันธุ์ตลอดเวลา ไม่มีหยุดนิ่ง การจะพิจารณาให้เป็นโรคประจำถิ่นจะต้องดูภาพรวมและดูหลายๆ ประเทศ เป็นลำดับขั้นตอน แม้ตอนนี้จะควบคุมสถานการณ์แต่ยังไม่ใช่โรคประจำถิ่นเพราะตัวเลยติดเชื้อยังสูงอยู่ ผู้เชี่ยวชาญและองค์การอนามัยโลกจะเป็นผู้พิจารณา แต่ตอนนี้ยังไม่มีข้อสรุป

สำหรับเทศกาลปีใหม่ที่หลายคนกังวลว่าจะมีการระบาดซ้ำหลัง ศบค.ไฟเขียวจัดงานฉลองได้ นพ.วิชาญ กล่าวว่า การฉีดวัคซีนจะช่วยลดความรุนแรงของโรคได้การติดต่อจะน้อยลง ยอมรับว่ามีความเป็นห่วงกรณีผู้เดินทางเข้าประเทศแบบไม่กักตัวหรือ Test & Go ต้องการเฝ้าระวังการเข้าเชื้อโอไมครอนให้ดีที่สุด รัดกุมที่สุด