SHARE

คัดลอกแล้ว

หลายประเทศเริ่มออกมายืนยันผู้ติดเชื้อโควิด-19 กลายพันธุ์ใหม่ หรือที่องค์การอนามัยโลก​ (WHO) ตั้งชื่อว่า ‘โอไมครอน’

โอไมครอน ถูกจัดเป็นสายพันธุ์ที่น่ากังวล (Variant of Concern) อย่างรวดเร็ว หลังพบว่า มีการกลายพันธุ์บริเวณเชื้อไวรัสหลายตำแหน่ง และอาจส่งผลทำให้ไวรัสต้านประสิทธิภาพวัคซีนที่มีอยู่ได้

ผู้ติดเชื้อสายพันธุ์นี้ได้รับการยืนยันเพิ่มมากขึ้นในอย่างน้อย 13 ประเทศทั่วโลก โดยส่วนใหญ่แล้วเป็นผู้ที่เดินทางมาจากประเทศในทวีปแอฟริกาใต้ ซึ่งเป็นจุดพบสายพันธุ์นี้ครั้งแรก

อย่างไรก็ตาม WHO ยังคงไม่ทราบว่า สายพันธุ์โอไมครอนนี้จะแพร่ระบาดจากคนสู่คนได้มากขึ้นหรือรวดเร็วขึ้นหรือไม่ ส่วนความร้ายแรงของอาการป่วยว่าจะหนักขึ้นหรือไม่นั้นก็ยังคงไม่ชัดเจน

ทั้งนี้ท่ามกลางข้อมูลที่มีจำกัดนี้ หลายประเทศเริ่มทำการออกมาตรการจำกัดการเดินทางเข้าประเทศอย่างเข้มงวดมากขึ้น เช่น อิสราเอล และ ญี่ปุ่น

ขณะที่ วันนี้ (29 พ.ย. 2564) ในประเทศไทย นายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข ยืนยันว่า ยังไม่พบสายพันธุ์ ‘โอไมครอน’ ในไทย ส่วน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ระบุว่า อย่าให้กลายเป็นเรื่องความวิตกจนเกินไป โดยได้เพิ่มมาตรการและมีการห้ามคนจากประเทศต้นทางที่มีการแพร่ระบาดเข้ามาอยู่แล้ว

มีรายงานด้วยว่า ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคงประจำท่าอากาศยาน (EOC) ได้มีการประชุมเพื่อพิจารณาออกมาตรการเพิ่มเติม สำหรับการเฝ้าระวังโควิด-19 กลายพันธุ์โอไมครอน หลังจากสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) ประกาศแจ้งสายการบินทั่วโลก ให้ทราบว่าไทยมีข้อกำหนดสำหรับผู้โดยสารที่เดินทางมาจาก 8 ประเทศ กำหนดมาตรการกักตัว 14 วัน ถ้าเดินทางมาถึงไทยตั้งแต่วันที่ 28-30 พ.ย. 2564

และตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค.2564 เป็นต้นไป จะห้ามผู้โดยสารจาก 8 ประเทศตามประกาศเข้าไทย ซึ่งด่านควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุขและหน่วยงานอื่นๆ จะดำเนินการปฎิบัติตามประกาศ กพท. อย่างเคร่งครัด

รายงานระบุด้วยว่า ประเด็นสำคัญในการตรวจคัดกรองผู้โดยสารที่เดินทางมาทางอากาศ ซึ่งปัจจุบันใช้วิธี RT- PCR แต่ในการประชุมศบค. เมื่อ 26 พ.ย. ที่ผ่านมา มีการเตรียมผ่อนคลายจะนำวิธีการคัดกรองแบบ ATK มาใช้ แต่ล่าสุดจะเลื่อนออกไปและยังคงตรวจคัดกรองด้วยวิธี RT- PCR ต่อไป

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า