มิกซ์ยูสใหม่ย่านพร้อมพงษ์ ‘วัน ออริจิ้น สุขุมวิท 24’ เจาะกลุ่ม expat ชาวญี่ปุ่น

‘วัน ออริจิ้น’ ผนึกอสังหาฯ ญี่ปุ่น ‘โนมูระ’ เปิดตัวโครงการมิกซ์ยูสแห่งใหม่กลางพร้อมพงษ์ ‘One Origin Sukhumvit 24’ มีครบทั้งโรงแรม เซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ ร้านอาหาร ไปจนถึง UFM Fuji Super Market ซูเปอร์มาร์เก็ตจากญี่ปุ่น ตั้งเป้าเจาะกลุ่ม expat ญี่ปุ่นในไทย

‘ปิติ จารุกำจร’ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหาร บริษัท วัน ออริจิ้น จำกัด (มหาชน) หรือ ONEO ซึ่งเป็น Flagship Company ของกลุ่มบริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ที่ผ่านมาเครือออริจิ้นได้ร่วมทุนพัฒนาโครงการต่างๆ กับบริษัท โนมูระ เรียลเอสเตท ดีเวลล็อปเมนท์ จำกัด ดีเวลอปเปอร์อสังหาฯ จากญี่ปุ่น มาแล้วราว 23 โครงการ โดยเป็นโรงแรมทั้งหมด 2 โครงการ

“ปี 2020 ท่ามกลางสถานการณ์โควิด เราเปิดตัวโรงแรมสเตย์บริดจ์ สวีท กรุงเทพ ทองหล่อ ซึ่งเป็นแบรนด์ Staybridge Suites แห่งแรกในไทยและเอเชียแปซิฟิก โดยมีขนาด 303 ห้อง และปรากฏว่าได้รับการตอบรับที่ดี มีอัตราการเข้าพักกว่า 80% ในช่วงโควิด และเป็นการเข้าพักแบบระยะยาว หรือ Long Stay”

ความสำเร็จที่เกิดขึ้นทั้งที่อยู่ในช่วงวิกฤติของภาคท่องเที่ยว ทำให้ วัน ออริจิ้น เห็นเทรนด์การเข้าพักแบบระยะยาวของชาวต่างชาติ โดยเฉพาะชาวญี่ปุ่นซึ่งเป็นกลุ่มที่นิยมพักในโซนสุขุมวิท-ทองหล่อ

จึงกลายเป็นโอกาสในการขยายการลงทุนสู่โครงการ ‘วัน ออริจิ้น สุขุมวิท 24’ โครงการมิกซ์ยูสที่ประกอบไปด้วยโรงแรมสเตย์บริดจ์ สวีท แบงค็อก สุขุมวิท และคอมมูนิตี้มอลล์แบรนด์ใหม่ ‘เนเบอร์ 24’ ตอบโจทย์การพักผ่อน-แฮงก์เอาท์ของเพื่อนบ้าน-นักธุรกิจ-Expat ในย่านนี้

โครงการ วัน ออริจิ้น สุขุมวิท 24 ตั้งอยู่บนที่ดินขนาด 3-2-35 ไร่ ประกอบด้วยอาคาร 24 ชั้น 1 อาคาร และอาคาร 30 ชั้น 1 อาคาร ผสมผสานระหว่าง 2 องค์ประกอบสำคัญ ได้แก่

1.โรงแรมสเตย์บริดจ์ สวีท แบงค็อก สุขุมวิท (Staybridge Suites Bangkok Sukhumvit) เป็นโรงแรมและเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์จากเครือโรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล (IHG) แบรนด์ Staybridge Suites แห่งที่ 2 ในไทยและเอเชียแปซิฟิก

มีจำนวนห้องพักรวม 411 ห้อง ขนาดห้องพักตั้งแต่ 28-70 ตรม. ราคาต่อคืน 4,000-4,500 บาท ราคาเข้าพักแบบ Long Stay อยู่ที่ 80,000-120,000 บาท

ภายในห้องมีสิ่งอำนวยความสะดวกภายในห้องพักครบครันเหมือนอยู่บ้าน มีพื้นที่ส่วนกลาง และบริการตอบโจทย์ทั้งการเข้าพักทั้งระยะสั้น (Short-stay) และระยะยาว (Long-stay) ของผู้บริหารและพนักงานบริษัทข้ามชาติ (Expat) ที่เข้ามาดำเนินธุรกิจในไทย

โดยมีทั้งห้องประชุม, Co-working space, Business Center, สระว่ายน้ำ, ออนเซน, ห้อง Golf Simulator และมีนโยบายการเข้าพักแบบ Pet-friendly ภายในห้องมีโซนครัวและซักล้าง รวมไปถึงมีกิจกรรมปาร์ตี้สำหรับผู้เข้าพักด้วย

2.เนเบอร์ 24 (Neighbor 24) คอมมูนิตี้มอลล์ ขนาด 8 ชั้น (ชั้น B1-7F) เปิดให้บริการตั้งแต่10.00-22.00 น. มีร้านอาหาร ร้านค้า บริการ และไลฟ์สไตล์ตอบโจทย์คนรักไลฟ์สไตล์แบบญี่ปุ่น โดยเจ้าของชาวญี่ปุ่น อาทิตย์

-ยูเอฟเอ็ม ฟูจิ ซูเปอร์มาร์เก็ต (UFM Fuji Super Market) แบรนด์ซูเปอร์มาร์เก็ตดังจากญี่ปุ่น สาขาที่ 5 ในไทย

-ร้านทงคัตสึ โคเซกิ (Tonkatsu Koseki) ร้านทงคัตสึโดยเจ้าของและเชฟชาวญี่ปุ่นที่มีประสบการณ์ร้านทงคัตสึในเกียวโตกว่า 20 ปี

-ร้านโดรายะ (Doraya) ร้านอาหารญี่ปุ่นจากฮ่องกงที่นำฮงมากุโร่มาเป็นจุดขาย

-คาเฟ่ คาลดี้ (Café Kaldi) คาลดี้ คอฟฟี่ ฟาร์ม (Kaldi Coffee Farm) ร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหารและเมล็ดกาแฟที่มีสาขาถึง 165 สาขาทั่วญี่ปุ่น

-อิจิริน เจแปนนิส สไตล์ เอสเทติก (Ichirin Japanese Style Esthetics) บริการ Spa & Wellness ครบวงจร

นอกจากนี้ยังมีร้านค้าและบริการคุณภาพจากในเครือ ORI อาทิ ออริจิ้น เฮลท์แคร์ เซ็นเตอร์ (Origin Healthcare Center) และบริการที่ตอบโจทย์การมีคุณภาพชีวิตที่ดี (Wellness) เช่น ความงาม, คลินิกทันตกรรม และคลินิกดูแลด้านเส้นผม, ร้านสินค้าตกแต่งบ้านจากวายด์ อินทีเรีย ในเครือบริษัท พรีโม เซอร์วิส​ โซลูชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ PRI

‘ปิติ’ กล่าวอีกว่า โครงการนี้เริ่มเปิดบริการตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2566 ที่ผ่านมา และได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี โดยเฉพาะจากชาวญี่ปุ่นที่ถือเป็นผู้เข้าพักอันดับ 1

นอกจากนี้ จากสถานการณ์การท่องเที่ยวไทยที่เริ่มฟื้นกลับมา และมีการประมาณการว่าปีนี้ไทยจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติอยู่ที่ 25-30 ล้านคน แต่ที่น่าสนใจกว่าคือ รายได้ของภาคธุรกิจโรงแรมในไทยปัจจุบันอยู่ที่ 75-80% ของรายได้ปี 2019 แล้ว

แสดงให้เห็นว่านักท่องเที่ยวที่เข้ามาในช่วงนี้เป็นกลุ่มใช้จ่ายต่อหัวเยอะขึ้นกว่าเดิม ถือเป็นโอกาสที่ดีที่ไทยเราจะได้ปรับทิศทางการท่องเที่ยว โฟกัสไปที่กลุ่ม spending เยอะ และห่างไกลจากทัวร์ศูนย์เหรียญ

นอกจากนี้ จำนวน expat ในไทยเพิ่มสูงขึ้นมาก ปี 2022 เติบโตขึ้นจากปีก่อนหน้าถึง 22.87% โดยญี่ปุ่นครองสัดส่วนเป็นอับ 1 ที่ 25% รองลงมาคือ จีน 16% และอินเดีย 10% นับเป็นสัญญาณบวกต่อภาคท่องเที่ยวของไทย

‘นาโอมิ เอนโดะ’ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โนมุระ เรียล เอสเตท (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า พร้อมพงษ์คือย่านศูนย์กลางชาวต่างชาติที่มีความต้องการใหม่ๆ ต่อเนื่อง เรามีทั้งโรงแรมที่ตอบโจทย์องค์กรทั้งการประชุมและการเข้าพักระยะยาวอย่างสเตย์บริดจ์ สวีท แบงค็อก สุขุมวิท

นอกจากนี้เรามี เนเบอร์ 24 ที่เป็นเสมือนเพื่อนบ้านที่รวบรวมร้านค้า ร้านอาหาร บริการสุขภาพ ให้ผู้คนกลับมาใช้บริการและพักผ่อนได้ทุกวัน เรามั่นใจว่าองค์ความรู้และความเข้าใจอันแข็งแกร่งของพันธมิตรในการพัฒนา วัน ออริจิ้น สุขุมวิท 24 จะช่วยสร้างประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมให้แก่ผู้เข้าพักและผู้ใช้บริการได้