SHARE

คัดลอกแล้ว

โจเซฟ สติกลิตซ์ (Joseph Stiglitz)  นักเศรษฐศาสตร์ชาวอเมริกัน เจ้าของรางวัลโนเบลสาขาเศรษฐศาสตร์  กล่าวโจมตีสกุลเงินลิบรา (Libra) ของเฟซบุ๊กลงในบทความเรื่อง Why Facebook’s Libra currency gets the thumbs down ของเขาว่า เป็นสกุลเงินที่ไม่น่าเชื่อถือ และมีแต่คนโง่เท่านั้นที่จะเชื่อใจเฟซบุ๊กได้

นายสติกลิตซ์แสดงความเห็นว่า การที่เฟซบุ๊กและพันธมิตรทางการเงินตัดสินใจกระโจนเข้ามาเป็นผู้เล่นหน้าใหม่ของแวดวงทางการเงินด้วยการเปิดตัวสกุลเงิน Libra เมื่อเร็วๆ นี้นั้น อาจเป็นเพราะความอยากรู้ ความอยากลองที่จะเปิดตัวทางเลือกใหม่ของสกุลเงินขึ้นให้กับโลก เพื่อมาแทนที่ข้อเสียเปรียบของสกุลเงินแบบดั้งเดิม นั้นคือความไม่มีเสถียรภาพของเงินปัจจุบัน เช่นความไม่มั่นคงของเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจนส่งผลให้มูลค่าของเงินนั้นลดลง แต่สิ่งที่น่ากังวลในปัจจุบันนี้กลับเป็นเรื่องของเงินฝืด ไม่ใช่เงินเฟ้อ และสิ่งที่เฟซบุ๊กกำลังคิดอยู่นี้ได้เผยให้เห็นถึงข้อผิดพลาดที่สำคัญของทุนนิยมอเมริกันในศตวรรษที่ 21

เจ้าของรางวัลโนเบลสาขาเศรษฐศาสตร์ยังชี้ให้เห็นถึงปัญหาที่เกิดขึ้นกับสกุลเงินปัจจุบัน รวมทั้งการจัดการทางการเงินในตอนนี้ด้วยว่า การขาดการแข่งขันและกำกับดูแลในแวดวงธุรกิจการเงินด้วยกันเองทำให้ผู้บริโภคโดยเฉพาะในอเมริกาต้องจ่ายเงินมากขึ้นหลายเท่าจากต้นทุนที่แท้จริง สิ่งนี้เองทำให้บริษัทที่เป็นตัวกลางในการชำระเงินอย่าง Visa, Mastercard American Express และธนาคารต่างได้กำไรอย่างมหาศาลทุกปี และถึงแม้จะมีการออกข้อบัญญัติเพิ่มเติมของกฎหมายมาเพื่อกำกับดูแลค่าธรรมเนียมของการชำระเงินเมื่อปี 2010 แล้ว แต่ข้อบัญญัติดังกล่าวกลับแค่มาช่วยกำหนดเพดานอัตราสูงสุดของค่าธรรมเนียมระหว่างสถาบัน (Interchange fee) ของบัตรเดบิตเท่านั้น แต่ไม่ได้มาแก้ไขปัญหาที่ใหญ่กว่า นั้นคือค่าธรรมเนียมมหาศาลของบัตรเครดิต

ด้วยปัญหาดังกล่าวทำให้เมื่อ Libra ถือกำเนิดขึ้น หลายคนจึงหันมาสนใจธุรกิจใหม่ของเฟซบุ๊กกันอย่างมาก โดยนายสติกลิตซ์ให้ความเห็นว่า “อาจเป็นเพราะพวกเขาต้องการที่จะตัดค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นมาของแพลตฟอร์มทางธุรกรรมทางการเงินนี้ออกไป พวกเขาเชื่อว่ายิ่งมีการแข่งขันมากเท่าไหร่ จะไม่ทำให้กำไรลดลงจนเหลือศูนย์ ซึ่งเป็นข้อพิสูจน์ถึงความเชื่อของภาคธุรกิจเกี่ยวกับความสามารถในการใช้อำนาจต่อรองกับตลาด และเป็นอำนาจในการต่อรองกับการเมืองเพื่อให้มั่นใจได้ว่ารัฐบาลจะไม่เข้ามาแทรกแซงเพื่อลดกำไรเหล่านี้ลงไป”

อย่างไรก็ตาม นายสติกลิตซ์ได้ตั้งคำถามถึงความโปร่งใสของโมเดลในการดำเนินธุรกิจของ Libra ด้วยว่าอาจเป็นช่องทางสำคัญของเหล่าอาชญากรรมในการใช้เป็นช่องทางสำหรับการฟอกเงินและทำกิจกรรมที่ผิดกฎหมายได้ ซึ่งรัฐบาลควรจะปิดโครงการสกุลเงินนี้ทันที หรืออย่างน้อยที่สุด Libra ควรที่จะอยู่ภายใต้การกำกับดูแลเรื่องความโปร่งใสของธุรกิจเช่นเดียวกันกับภาคธุรกิจการเงินอื่นๆ

สุดท้ายนักเศรษฐศาสตร์ชาวอเมริกันผู้นี้เชื่อว่า จากเหตุการณ์ที่ผ่านมา ทำให้เกิดคำถามสำคัญเกี่ยวกับ “ความน่าเชื่อถือ” ของเฟชบุ๊กขึ้นโดยผู้ใช้งานต่างไม่เชื่อมั่นต่อเฟชบุ๊กมากขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากข้อมูลทางธุรกรรมใดๆ ของ Libra ที่รวบรวมเก็บเอาไว้ เฟชบุ๊กสามารถนำไปใช้วิเคราะห์เพื่อหาประโยชน์อื่นต่อได้ เช่นเดียวกับข้อมูลอื่นที่เฟซบุ๊กมีอยู่แล้วในปัจจุบัน

“เฟซบุ๊กอาจสัญญาว่าเขาจะไม่ทำแบบนั้น แต่ใครจะรู้ได้ละ….หลายครั้งด้วยกันที่ผู้นำของเฟซบุ๊กเผชิญหน้ากับเส้นทางที่ต้องเลือกระหว่างเงินและเกียรติในการรักษาไว้ซึ่งสัญญา สุดท้ายพวกเขาก็เลือกอย่างแรก และไม่มีอะไรที่ได้เงินไปมากกว่าการสร้างเงินสกุลใหม่ขึ้นมาเองแล้ว” นายสติกลิตซ์ระบุทิ้งท้าย

ที่มา: https://www.theguardian.com/business/2019/jul/02/whyfacebooklibracurrencygetsthethumbsdown

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า