OnlyFans แซงหน้า Pornhub แค่ 2 ปี รายได้กว่า 500 ล้านเหรียญ

OnlyFans ออกมาเผยรายได้กว่า 500 ล้านเหรียญในช่วงสองปีที่ผ่านมา จากผลกำไรที่เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งมาจากจำนวนผู้ใช้และครีเอเตอร์ที่เพิ่มขึ้นสูงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่มีการแพร่ระบาดของโควิด-19

ในรายงานประจำปีของ OnlyFans เผยว่า ผลกำไรก่อนหักภาษีเพิ่มขี้นจาก 61 ล้านดอลลาร์ เป็น 433 ล้านดอลลาร์ หรือมากกว่าปีที่แล้วถึง 7 เท่า และรายได้เพิ่มขึ้นจาก 358 ล้านดอลลาร์ เป็น 932 ล้านดอลลาร์

โดย Leonid Radvinsky เจ้าของแพลตฟอร์ม OnlyFans ได้รับเงินปันผล 284 ล้านดอลลาร์ในปี 2021 และ 233 ล้านดอลลาร์ในปีนี้

ส่วนจำนวนผู้ใช้ OnlyFans เพิ่มขึ้นมากกว่าสองเท่า จำนวนครีเอเตอร์เพิ่มขึ้นมากกว่า 33% และรายได้ของครีเอเตอร์ก็เพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวจากปีที่แล้วด้วย

[ แพลตฟอร์มที่ได้รับความนิยมทั้งผู้ใช้และครีเอเตอร์ ]

OnlyFans อนุญาตให้ครีเอเตอร์สามารถขายภาพ คลิปวิดีโอ หรือบทความ โดยผู้ใช้จะต้องเสียค่าสมาชิกรายเดือนที่ 4.99-49.99 ดอลลาร์ เพื่อปลดล็อกให้สามารถรับชมคอนเทนต์ รวมถึงส่งข้อความพูดคุยกับครีเอเตอร์ได้

ซึ่งครีเอเตอร์สามารถกำหนดราคาได้ โดยแพลตฟอร์มจะหักรายได้จากครีเอเตอร์เพียง 20% และครีเอเตอร์ได้รับเงินถึง 80%

ในปี 2021 ที่ผ่านมา ผู้ใช้ OnlyFans ใช้จ่ายเงินเกือบ 4.8 พันล้านดอลลาร์บนแพลตฟอร์ม สาเหตุส่วนหนึ่งที่ OnlyFans ได้รับความนิยมมากขนาดนี้ เป็นเพราะอนุญาตให้ครีเอเตอร์ผลิตเนื้อหาโดยไม่ต้องพึ่งพาโฆษณา หรือมีข้อเสนอส่งเสริมการขาย

ถึงแม้ OnlyFans จะมีคอนเทนต์ที่หลากหลาย แต่คอนเทนต์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดก็คือ คอนเทนต์วาบหวิว ที่ทำให้ผลกำไรของ OnlyFans แซงหน้า MindGeek อาณาจักรความบันเทิงสำหรับผู้ใหญ่ที่อยู่เบื้องหลัง Pornhub และ YouPorn เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ก่อนหน้านี้ เคยมีข่าวว่า OnlyFans จะลดเนื้อหาวาบหวิวลงก็ตาม แต่ด้วยกระแสต่อต้านจากผู้ใช้ ทำให้ทางแพลตฟอร์มตัดสินใจระงับการเปลี่ยนแปลงนโยบายในอีกหนึ่งสัปดาห์ต่อมา

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา OnlyFans ได้พยายามสร้างแบรนด์ที่เป็นกระแสหลักมากขึ้น โดยอ้างว่ามีครีเอเตอร์ที่ไม่ขายเนื้อหาเกี่ยวกับเรื่องเพศมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ทางแฟลตฟอร์มยังไม่ได้เปิดเผยตัวเลขเกี่ยวกับการแจกแจงรายได้

OnlyFans ยังบอกด้วยว่า ในปีนี้ ทางแพลตฟอร์มจะให้ความสำคัญกับการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ การควบคุมเนื้อหา รัฐสัมพันธ์ และการโปรโมทบริการสตรีมวิดีโอใหม่อย่าง OFTV

ที่มา : 

https://www.ft.com/content/2a934864-b82e-41ae-9d67-c37bc6829b61

https://www.bbc.com/news/business-62754943