ไม่ใช่แค่คนทั่วไปอย่างเราๆ ที่กังวลเรื่องความสามารถของ AI ล่าสุด ประธานาธิบดีสหรัฐ โจ ไบเดน ก็ออกมาพูดเรื่องนี้ โดยเขากล่าวในงานประชุม President’s Council of Advisors on Science and Technology (PCAST) ว่ายังคงเป็นที่จับตามองว่าปัญญาประดิษฐ์ (AI) เป็นอันตรายหรือไม่ และเน้นย้ำว่า บริษัทเทคโนโลยีมีหน้าที่รับผิดชอบในการตรวจสอบให้แน่ใจ ว่าผลิตภัณฑ์ของตนปลอดภัยก่อนที่จะเผยแพร่สู่สาธารณะ
อย่างไรก็ตาม ไบเดน ยังมองเห็นข้อดีและความเป็นไปได้ที่ AI จะช่วยโลกได้ แต่สิ่งสำคัญคือต้องจัดการกับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นกับสังคม ความมั่นคงของประเทศ และเศรษฐกิจ
ก่อนหน้า ไบเดน ก็มีผู้ทรงอิทธิพลในหลายวงการออกมาแสดงความกังวลเกี่ยวกับ Generative AI ตั้งแต่ ยูวัล โนอาห์ แฮรารี ผู้เขียนหนังสือ เซเปียนส์ มองว่า AI จะยิ่งทวีความเป็นภัยคุกคามต่อมนุษย์ การสร้าง AI ที่มีความสามารถที่ยิ่งใหญ่ อาจสร้างความเสี่ยงต่อการล้มเหลวของมนุษย์ การสูญเสียอำนาจอย่างถาวร และการเสียชีวิตได้ในอนาคต
ยูวัล ยังเข้าร่วมลงชื่อเรียกร้องให้ Open AI, Microsoft, Google ชะลอการพัฒนา AI หรือระบบที่ทรงพลังกว่า GPT-4 ไปอย่างน้อย 6 เดือน เพื่อให้มนุษย์ตั้งหลักได้ทัน และยังเรียกร้องให้มีกฎหมายเข้ามา take action มากกว่านี้
Open AI ชี้แจงแนวทางเพื่อความปลอดภัยของ AI
เมื่อสังคม ส่งเสียงสะท้อนและความตื่นตัวมากขึ้น ผู้ให้กำเนิด GPT อย่าง Open AI ก็ต้องออกมาชี้แจง
Open AI รู้ดีว่า AI มาพร้อมกับความเสี่ยง หลังจากเสร็จสิ้นการเทรนโมเดล GPT-4 ทางบริษัทก็ใช้เวลากว่า 6 เดือน เพื่อดูว่ามันมีปลอดภัยก่อนที่จะเผยแพร่ นอกจากนี้ Open AI ยังบอกด้วยว่าเปิดรับการใช้กฎหมาย กฎระเบียบในการทำให้แน่ใจว่ามันปลอดภัย และยินดีทำงานร่วมกับรัฐบาล
การใช้งานในโลกแห่งความเป็นจริง ยังทำให้ Open AI สามารถพัฒนานโยบายที่เหมาะสม เพื่อต่อต้านพฤติกรรมเสี่ยง และเพื่อเป็นการปกป้องเด็ก แนะนำว่าผู้ใช้งานอายุต่ำกว่า 18 ปี ยังไม่ควรใช้ ChatGPT หรืออายุมากกว่า 13 ขึ้นไป แต่ต้องอยู่ในความดูแลของผู้ปกครอง
ส่วนประเด็นความเป็นส่วนตัวของข้อมูลนั้น Open AI บอกว่า ข้อมูลและโมเดลภาษาที่ใช้เทรน AI เป็นข้อมูลสาธารณะ บริษัทไม่ใช้ข้อมูลเพื่อขายบริการ โฆษณา หรือสร้างโปรไฟล์ของผู้คน แต่ข้อมูลเพื่อทำให้โมเดลมีประโยชน์มากขึ้น โดยเฉพาะการสนทนาในประเด็นต่างๆ
“เราเชื่อว่าสังคมต้องมีเวลาในการอัปเดตและปรับตัวให้เข้ากับ AI ที่มีความสามารถมากขึ้น” Open AI กล่าว
หลากหลายเหตุผล ที่คนกังวลเกี่ยวกับ AI
มีหลายเหตุผลที่ทำให้คนอย่างเราๆ กังวลเกี่ยวกับ AI ที่เห็นชัดเจนคือ เรากลัวตกงาน เรากลัวการถูกแทนที่ด้วยเครื่องจักร และทำให้เราหมดคุณค่าในตลาดแรงงานไป
แต่เมื่อมองลึกลงไปยังมีอีกหลายอย่างที่ทำให้ AI โดยเฉพาะ Generative AI ถูกตั้งคำถาม หลักๆ คือเรื่องการประมวลผลข้อมูล มีข้อมูลประเภทใดบ้างที่นำไปให้เครื่องจักรเรียนรู้ ข้อมูลนั้นเท็จจริงแต่ไหน มี bias หรือให้ความสำคัญกับฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเกินไปหรือไม่ และข้อมูลนั้น เป็นข้อมูลส่วนบุคคลหรือข้อมูลเซนซิทีฟมากน้อยแค่ไหน
ไปจนถึงกรณีสุดโต่งที่ว่า ถ้า AI ถูกนำไปใช้ในทางที่จงใจสร้างความเสียหายแก่ชีวิต และทรัพย์สินของมนุษย์ ผลกระทบของมันจะร้ายแรงและตีวงกว้างได้เพียงใด
ในประเด็นข้อมูลส่วนบุคคลนี้ บางประเทศอย่างอิตาลี ก็เลือกที่จะแบนการใช้งาน GPT ไปเลย จนกว่า Open AI ผู้สร้าง GPT จะให้ความแน่นอนได้ว่า ข้อมูลที่นำไปประมวลผลนั้นถูกกฎตามความเป็นส่วนตัวของข้อมูล
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง
- ยูวัล โนอาห์ แฮรารี ผู้เขียนหนังสือ เซเปียนส์ มอง AI อนาคตมนุษย์จะสูญเสียการเข้าถึงความเป็นจริง https://workpointtoday.com/yuval-noah-harari-ai-opinion/
- นักวิชาการ คนดังวงการไอที เรียกร้องชะลอการพัฒนา AI หรือระบบที่ทรงพลังกว่า GPT-4 อย่างน้อย 6 เดือน ให้มนุษย์ได้รับมือความเสี่ยง https://workpointtoday.com/academics-famous-people-in-the-it-industry-call-for-slowing-down-ai-development/