“เราคือผู้สูญเสียจริง เราไปเผาทิ้งเป็นผงธุลี แต่เราบริจาคและให้ชีวิตใหม่กับคนอื่นต่อไปได้อีกหลายชีวิต”
นายสุดใจ บำรุงจิต เล่าถึงความรู้สึกต่อการตัดสินใจครั้งสำคัญ ในการบริจาคอวัยวะลูกชาย นายสิทธิกรกฤตย์ บำรุงจิต หรือ น้องเอิร์ธ วัย 16 ปี หลังประสบอุบัติเหตุทางถนน และแพทย์วินิจฉัยว่า เกิดภาวะสมองตาย ไม่สามารถทำการรักษาต่อไปได้
สุดใจ เล่าถึงความเป็นมาก่อนที่จะได้บริจาคอวัยวะของลูก เนื่องจากได้เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ เพราะโรงพยาบาลในพื้นที่ จ.ชลบุรี ไม่สามารถทำการรักษาได้แล้ว และหลังพาลูกชายไปรักษา แพทย์ได้เข้ามาคุยกับครอบครัวว่า อาการน้องเอิร์ธไม่ดีขึ้น หากทำการรักษาต่ออาจจะทำให้เสียชีวิตเร็วขึ้น ครอบครัวจึงตัดสินใจกันว่าจะไม่ถอดเครื่องช่วยหายใจและรอให้น้องสิ้นลมไปเอง
ขณะเดียวกัน แพทย์ก็ได้ปรึกษาพ่อว่าขอบริจาคอวัยวะ เพื่อนำไปปลูกถ่ายให้กับผู้ป่วยที่รอรับการผ่าตัด ซึ่งนายสุดใจก้ได้ตอบตกลงทันที เพราะเห็นว่านี่จะเป็นการทำบุญครั้งใหญ่ และครั้งสุดท้ายของลูกชาย
“ผมตอบเลยว่า โอเค ผมตัดสินใจบริจาค เดี๋ยวผมไปขอน้องก่อน แล้วก็โทรปรึกษาปู่คนหนึ่ง ก็ไปบอกกับน้องว่า น้องเอิร์ธครับ หนูจะไปแล้วนะ หนูจะไปอีกภพหนึ่งแล้วนะ บอกว่าพ่อจะขออวัยวะนะ คุณหมอเขาขอ ขออวัยวะ หัวใจ ตับ ไต 2 ข้าง เอาไปให้ชีวิตใหม่กับคนอื่น ก็เลยโทรหาปู่เขา บอกว่าปู่ น้องเอิร์ธไม่ไหวแล้วนะ หมอขอบริจาคอวัยวะให้เขาไหม ปู่เขาก็ว่าให้เขาไป เพราะว่าเผาทิ้งก็ไม่มีประโยชน์ พอก้านสมองตายครั้งแรก คุณหมอก็เตรียมทีมที่เราบริจาคให้เขา จะมีนักศึกษาหมอที่ว่ามาทำความสะอาดหัวใจ มาทำความสะอาดตับ คือเต็มเตียงของน้องเลย คือเตรียมพร้อม วันนั้นญาติมาเยี่ยมกันร้องไห้ ก็คือเราสูญเสียจริง แต่มันก็เป็นบุญของเขาจริงๆ แล้วเราไม่เคยรู้มาก่อนในเรื่องของการบริจาคอวัยวะ แต่คุณหมอได้มาอธิบายกับเราว่า ช่วยชีวิตเขานะ เพราะว่าทางสภากาชาดไทย เขาบอกว่ามีคนรออวัยวะเยอะ ประมาณ 6,000-7,000 ราย น่าจะเป็นกุศลและเป็นบุญกับที่เราได้ให้ชีวิตผู้อื่นต่อไป มันเป็นกุศลและเป็นบุญของน้องจริงๆ “
หลักจากนี้ครอบครัวบำรุงจิตตั้งใจว่าจะไปลงชื่แสดงความจำนงขอบริจาคอวัยวะ ให้กับทางสภากาชาดไทย หวังให้อวัยวะของตัวเอง ได้ต่อลมหายใจให้กับผู้อื่น
“ครอบครัวเรา ครอบครัวบำรุงจิต ก็คือ ผมนายสุดใจ บำรุงจิต นางธัญญา บำรุงจิต กับตัวน้องก็คือ นายสิทธิกรกฤตย์ บำรุงจิต น้องเอิร์ธ ที่ได้ทำการบริจาคอวัยวะในครั้งนี้ เป็นบุญกุศลของตัวน้องเอง กับพี่น้องวงศ์ตระกูล อยากประชาสัมพันธ์เชิญชวนพี่น้องเพื่อนๆ หรือว่าทั้งประเทศมาร่วมกันบริจาคอวัยวะ เพื่อให้ชีวิตใหม่ต่อผู้อื่น อันนี้สำคัญจริงๆ ครับ เรื่องแบบนี้ถ้าไม่เกิดกับครอบครัวใครจะไม่รู้ คือเราเป็นผู้สุญเสียจริง ลูกเราเสียชีวิตไปแล้ว เราไปเผาทิ้งเป็นผงธุลี แต่เราบริจาคและให้ชีวิตใหม่ของคนอื่นต่อไปได้อีกหลายชีวิต”