วันที่ 30 ส.ค. นายโยธิน ลพนิกร อายุ 37 ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 7 ต.หนองบัว อ.พัฒนานิคม จ.ลพบุรี พร้อมด้วยชาวบ้านหนองบัวกว่า 70 คน เดินทางไปคัดค้านการเคลื่อนย้ายองค์พระหลวงพ่อยิ้มภายในเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ภายหลังจากที่ทราบว่าพระครูปลัดวิชญ์จุฑา อินทะวะโส ประธานกองทุนหลวงพ่อวิชญ์พระซ่อมพระ โครงการบูรณะพระพุทธรูปชำรุดทั่วประเทศ ในสำนักสงฆ์ร่มโพธิ์ธรรม ต.ลาดหญ้า อ.เมืองกาญจนบุรี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ นำรถแบ็กโฮมาเคลื่อนย้ายองค์พระ
โดยหลวงพ่อยิ้ม เป็นองค์พระที่อยู่คู่กับหมู่บ้านหนองบัว ก่อนจะก่อสร้างเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ต่อมาชาวบ้านได้โยกย้ายถิ่นฐานออกไปตั้งหมู่บ้านใหม่ ส่วนหมู่บ้านและวัดจมอยู่ใต้น้ำภายในอ่างเก็บน้ำเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ มาตั้งแต่เริ่มก่อสร้างเมื่อปี พ.ศ.2537 จนเมื่อน้ำลดจึงจะปรากฏให้เห็น
นายโยธิน กล่าวว่า ก่อนหน้านี้มีหน่วยงานภาครัฐพยายามที่จะยกองค์พระขึ้นมาจากเขื่อนเพื่อนำมาบูรณะใหม่ แต่ชาวบ้านที่เคยอยู่ในสมัยวัดยังคงเดิมมีความศรัทธาได้คัดค้านให้ยังคงไว้ที่เดิม จนมีการประชุมหาข้อยุติระหว่างองค์กรบริหารส่วนท้องถิ่นร่วมกับชาวบ้าน ถึง 2 ครั้งและมีการลงมติว่าให้พระหลวงพ่อยิ้มยังคงอยู่ที่เดิมในเขื่อนป่าสัก แต่มาวันนี้กลับมารถเตรียมมาเคลื่อนย้ายพระหลวงพ่อยิ้มโดยไม่บอกให้ชาวบ้านรู้กัน ชาวบ้านจึงไม่ยินยอม
ด้านนางปรมาภร โสดา ชาวบ้านตำบลหนองบัว กล่าวว่าเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ก่อนหน้านี้ไม่ทราบว่าจะมีการย้ายพระหลวงพ่อยิ้ม จนกระทั่งมีชาวบ้านหาปลาเห็นมีรถแบ็กโฮวิ่งเข้ามา จึงโทรไปแจ้งผู้ใหญ่บ้านและชาวบ้านให้มาช่วยกันตรวจสอบซึ่งหลังทราบเรื่องจะย้ายองค์พระชาวบ้านจึงรวมตัวกันมาคัดค้าน แม้ผู้ดำเนินการพยายามที่จะยกออกโดยอ้างว่าได้รับคำสั่งจากเจ้าคณะจังหวัดลพบุรี แต่พวกเราชาวบ้านก็ไม่ยอม อยากให้อยู่แบบคงสภาพเดิม ความรู้สึกหลังน้ำลดเรายังได้เห็นหลวงพ่อยิ้ม มองเห็นหมู่บ้านเราในอดีตมันรู้สึกตื้นตันใจแม้จะไม่เห็นทุกปี
ขณะที่พระครูปลัดวิชญ์จุฑา กล่าวว่า อาตมาก็อยากจะนำองค์พระที่ชำรุดไปบูรณะซ่อมแซมให้มีความสง่างามและจะนำกลับมาประดิษฐานที่เดิม แต่เมื่อชาวบ้านไม่เห็นด้วยก็ต้องยุติเนื่องจากหากจะทำอะไรแล้วเกิดความขัดแย้งก็จะไม่ส่งผลดีกับทุกฝ่าย จากนี้อาตมาก็จะพาทีมงานกลับสำนักสงฆ์ก็ต้องปล่อยให้อยู่แบบนี้ตามที่ชาวบ้านต้องการเพราะไม่ต้องการทำงานบนความขัดแย้งกัน
สำหรับการลงไปชมบริเวณวัดเก่า นายศุภชัย มโนกร ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ กล่าวว่า ในช่วงนี้ถ้านักท่องเที่ยวจะเข้าไปพื้นที่ดังกล่าวจะต้องประสานข้อมูลกับทางเจ้าหน้าที่ก่อนเพราะว่าขณะนี้มีฝนตกลงมาระดับน้ำเริ่มสูงขึ้นทำให้การเดินทางเข้าไปบริเวณวัดหนองบัวใหญ่จะเกิดอันตรายได้เมื่อฝนตก และหากเดินเข้าไปไม่รู้จุดและระดับน้ำจะเกิดอันตราย