SHARE

คัดลอกแล้ว

 “เหมือนคนที่ไม่เคยเดินไปตรงหน้าผา พอไปถึงแล้วมันวาบหวิว อันนั้นคือความรู้สึกของตัวเอง เจอบทหนังปุ๊บ หวิวทุกครั้งที่เลยอ่ะ เพราะเป็นคนที่ไม่ค่อยจำบท รู้สึกว่ามันน่ากลัว”

นี่คือคำพูดเปรียบเปรยของ พลพล พลกองเส็ง นักร้องนักดนตรีเสียงนุ่มที่ครองใจคนไทยมายาวนานจากเพลง คนไม่สำคัญ และคนเดินถนน เป็นต้น ถึงการหันมาแสดงภาพยนตร์เป็นครั้งแรกในหนังเรื่อง มิสเตอร์ดื้อ กันท่าเหรียญทอง โดยเขารับบท

พลพลรับบท เฮียเคี้ยง ในหนังตลกมิสเตอร์ดื้อ

เจ้าของร้านราดหน้าที่มีลูกสุดแสนจะดื้อ ถือเป็นประสบการณ์ที่ทั้งสนุก ท้าทาย และหนักหนาสาหัสมากๆ ต่างกันอย่างสุดขั้วเมื่อเทียบกับการร้องเพลงที่เขาอยู่กับมันมาทั้งชีวิต

 “ถ้าพูดถึงเพลง มันเป็นสิ่งที่เราทำประจำ เป็นอาชีพของเรา ทำซ้ำทุกวัน ร้องเพลงคนไม่สำคัญ เป็นหมื่นรอบ ร้องจนไม่ต้องนึกถึงเนื้อเพลงแล้ว ร้องไปเลย ไม่ต้องมานึกว่าเราจะทำหน้ายังไงให้เข้ากับเพลงนี้ มันเป็นธรรมชาติไปแล้ว แต่หนังเนี่ย พออ่านบทปุ๊บ เราจะต้องเป็นคนนี้ เป็นคนที่เราไม่คุ้นเคย พอเล่นได้แล้วก็ผ่านไป พอตอนใหม่ก็เป็นบทใหม่แล้ว ซึ่งมันไม่ต้องเป็นบทเดิม เหมือนที่เราต้องร้องเพลงซ้ำ มันก็เลยยากตรงนี้” ยอดนักร้องเสียงนุ่มตัดพ้อ

 

 แต่เมื่อตกปากรับคำว่าจะเล่นหนังแล้ว เขาก็ต้องทุ่มเทกับมันให้สุดฝีมือ สมกับความเป็นมืออาชีพ แม้ว่าตัวละครที่เขาต้องปะทะคารมด้วยจะเป็น ดื้อ ลูกชายผู้แสนจะโคตรดื้อ และความดื้อทำเอาเขาแทบถอดใจ “ในหนังลูกดื้อมาก ไม่ได้ดั่งใจสักอย่าง ไม่ตั้งใจเรียน จะทำแต่สิ่งที่ตัวเองชอบอย่างเดียวเลย ดื้อมาก”

แต่ในอีกด้านหนึ่ง ความดื้อของเจ้าดื้อ ก็อาจไม่ได้มีต้นตอมาจากไหนไกล เพราะมาจากตัวของเขานี่แหละ “ความดื้อนั้นอาจจะมาจากเชื้อพ่อในเรื่องครับ พ่ออาจเป็นคนดื้อมาก่อนเลยทำให้ลูกดื้อไปด้วย เขาดื้อในสิ่งที่ตัวเองอยากทำ ลูกอยากจะวิ่งแข่งเพื่อไปเป็นตัวแทนประเทศ พ่อก็จะห้ามบอกว่าให้ไปตั้งใจเรียนเถอะ อยากเอาสมบัติที่ตัวเองมีคือวิชาราดหน้าให้กับลูกแต่ว่าเขาไม่อยากได้ ดื้อมาก เป็นมุมมองให้กับวัยรุ่นดูแล้วกันว่า บางทีดื้อก็ได้ดีก็มี แต่ถ้าดื้อมาก บางสิ่งบางอย่างมันก็ทำร้ายชีวิต และครอบครัว”

 ท่ามกลางความเป็นหนังตลกขายความโปกฮา มิสเตอร์ดื้อ กันท่าเหรียญทอง ยังพูดถึงความสำคัญของครอบครัว ซึ่งในชีวิตจริง พลพล ก็เป็นคุณพ่อเช่นกัน เขามีลูกชาย 1 คนเหมือนในเรื่อง แต่เขาบอกว่าโชคดีมากที่ลูกไม่ได้ดื้อขนาดนี้ และแนวทางการเลี้ยงลูกก็ไม่เหมือนในเรื่องเช่นกัน โดยเฉพาะเรื่องการอยากให้ลูกเป็นหรือไม่เป็นในสิ่งที่ตัวเองคาดคิด

 “พ่อแม่รุ่นใหม่น่าจะเข้าใจอะไรง่ายๆ เพราะเราจะเห็นสภาพสังคมตอนนี้แล้วแบบว่า ถ้าเราเป็นหมอ เราอยากให้ลูกเราเป็นหมอ เราอยากให้เขาเป็นได้ แต่เขาจะเป็นได้หรือเปล่าอีกเรื่องหนึ่ง ซึ่งไม่ควรบังคับลูก เพราะว่าเด็กทุกคนไม่เหมือนกัน เด็กจะมีความชอบส่วนตัวของเขา เช่น ถ้าพ่อเป็นหมอ แต่ลูกอาจชอบดนตรี ชอบกีฬา ก็ต้องสนับสนุนเขา สนับสนุนในทางที่เขาทำได้น่าจะดีกว่า”

ยอดนักร้องเสียงนุ่มเล่าย้อนความหลังในอดีตว่าที่เขาเติบโตมาได้ไกลถึงเพียงนี้ เพราะการสนับสนุนในลักษณะคล้ายกันจากพ่อแม่ด้วย “บ้านพี่ค่อนข้างยากจนเพราะว่ามีลูก 10 คน พี่เป็นคนสุดท้อง จะอยู่กับคุณพ่อคุณแม่นานสุด นานกว่าพี่ๆ ในขณะที่เรายังมีหน้าที่รับผิดชอบที่บ้านเยอะ พ่อแม่ยังให้อิสระเราไปเล่นดนตรี เล่นกีฬา ทำให้มีอาชีพเล่นดนตรีตั้งแต่สมัยมัธยม พอจบก็มาเป็นดุริยางค์ทหารบก พ่อสนับสนุนเลย ให้รับราชการด้วยและเป็นนักดนตรีด้วย พอทำเสร็จเราก็มีทางเลือกของตัวเอง ได้เล่นดนตรี จนมีโอกาสมาทำอัลบั้ม เป็นหนทางที่ขรุขระมาเรื่อยๆ ในช่วงที่พี่เล่าเนี่ย พี่ใช้เวลานานมากประมาณ 20 ปีในการต่อสู้ในกรุงเทพ ทำให้เรามาเจอการออกเทป ก็โชคดีไปอีกทางหนึ่ง มันส่งผลตั้งแต่เริ่มแรกที่พ่อแม่สนับสนุน ทำให้เราได้มาทางนี้”

การเล่นหนังเรื่อง มิสเตอร์ดื้อ กันท่าเหรียญทอง ทำให้ พลพล ได้หวนกลับไปคิดถึงช่วงเวลาในวัยเด็ก สมัยที่อยู่กับครอบครัว นึกถึงความสัมพันธ์ระหว่างเขากับพ่อขึ้นมา ก็หวังว่าหนังเรื่องนี้น่าจะทำให้ทุกคนได้หวนคิดถึงครอบครัวตัวเองในวัยเด็กขึ้นมาบ้าง ไม่มากก็น้อย

 

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า