ปราจีนบุรี แม่ครัวบอก “ผอ.รร.สั่ง” เอาไข่พะโล้บูดล้างน้ำต้มใหม่ให้เด็กกิน

โซเชียลแชร์ “เมนูพะโล้บูดรีไซเคิล” ที่โรงเรียนในจังหวัดปราจีนบุรี ผู้ใหญ่บ้านลุยตรวจสอบพบแม่ครัว ยืนยันเรื่องจริงลูกแม่ครัวก็ต้องกิน ซัด “ผอ.รร.” เป็นคนสั่ง

วันที่ 4 ส.ค. จากกรณีสังคมโซเชียลเปิดเผยเรื่องราวเมนูพะโล้บูด อาหารกลางวันเด็กนักเรียน โรงเรียนแห่งหนึ่งในต.วังท่าช้าง อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ผู้สื่อข่าวจังหวัดปราจีนบุรี ได้เดินทางไปที่โรงเรียนดังกล่าว พร้อมนายทศพล บุญวิทย์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 6 และเป็นที่ปรึกษาคณะกรรมการของโรงเรียน

โดยมีการสอบถามจากแม่ครัว (ขอสงวนชื่อ) ของโรงเรียน เล่าว่า เหตุการณ์ดังกล่าวที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 29 ก.ค.ที่ผ่านมา ได้มีการทำอาหารกลางวันไว้ตอนเย็น คือ ไข่พะโล้ เพื่อที่จะเป็นอาหารกลางวันให้เด็กนักเรียน ในวันที่ 30 ก.ค. แต่เช้ามาแม่ครัว พบว่า ไข่พะโล้ที่ต้มเอาไว้มีฟอง จึงได้ให้ทางโรงเรียนทราบ และ ผอ.ได้สั่งให้นำไข่พะโล้ที่บูดไปล้างน้ำและกลับมาต้มปรุงรสใหม่ เพื่อนำไปให้เด็กรับประทาน

“ไม่กล้าคัดค้าน เขาสั่งมายังไงก็ทำตามที่เขาสั่ง (นักเรียนที่กินมีเยอะไหม) ป.4 ถึง ป.6 ลูกหนูยังกิน (ไม่กลัวเหรอ?) ก็กลัวแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ กลัวกระทบต่องานก็เลยไม่กล้าพูด กลัวท้องเสีย กลัวเด็กเป็นทุกอย่างแต่ก็ต้องทำตามเขาสั่ง (ยืนยันว่าเรื่องจริง?) เรื่องจริง” แม่ครัวของโรงเรียนกล่าว พร้อมยืนยันว่า คนที่สั่งให้เธอทำคือ ผอ.โรงเรียน

ผู้สื่อข่าวได้สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม พบว่า หลังจากที่นักเรียนได้รับประทานไข่พะโล้รีไซเคิลแล้วต่างมีอาการปวดท้อง ท้องเสียอยู่หลายราย เด็กที่ได้รับประทานไข่พะโล้ในวันดังกล่าว เล่าว่า ไข่พะโล้มีรสชาติเปรี้ยวและกลิ่นเหม็นเน่า แต่ก็ต้องกินและไม่กล้าบอกครูกลัวครูตี ได้แต่พูดกันในกลุ่มเพื่อนนักเรียนหลังจากรับประทานไข่พะโล้ได้ไม่นานถึงกลับท้องเสียและวิ่งไปเข้าห้องน้ำหลายครั้ง

เด็กที่กินพะโล้และท้องเสีย

ขณะที่ ผู้ปกครองของเด็กนักเรียนส่วนใหญ่ไม่ทราบว่า เด็กไปรับประทานอะไรถึงมีอาการปวดท้องและไม่แน่ใจว่าเกิดจากอาหารของทางโรงเรียนหรือไม่ แต่มีผู้ปกครองบางรายเล่าว่า ลูกจะมาบอกว่าเมนูอาหารกลางวันที่โรงเรียนส่วนใหญ่จะซ้ำทุกวัน เช่น แกงส้มทั้งสัปดาห์

ตัวแทนผู้ปกครอง

ทั้งนี้ นายทศพล กล่าวว่า ได้รายงานเรื่องดังกล่าวไปยังนายอำเภอกบินทร์บุรีและหน่วยงานที่รับผิดชอบสถานศึกษาเบื้องต้นแล้ว และจะมีการเรียกประชุมผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด ในวันจันทร์ ที่ 5 ส.ค.นี้ ยืนยันตนไม่ยอมอย่างแน่นอน หากพบว่า มีการกระทำจริง ถือว่า เป็นการทุจริตต่อหน้าที่ จะมีการตรวจสอบข้อเท็จจริงและดำเนินตามขั้นตอนต่อไป

https://www.facebook.com/Watchdog.ACT/posts/2570446642987389