SHARE

คัดลอกแล้ว

ศาลชั้นต้นสั่งจำคุก “สมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์”  2 ปี จำเลยอีก 4 คนคนละ 1 ปี ไม่รอลงอาญา คดีพันธมิตรบุกสถานีโทรทัศน์ NBT เมื่อปี 51 “ปอง-อัญชลี” เผยปลงอะไรจะเกิดก็ต้องเกิด

วันที่ 12 กุมภาพันธ์ ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลอาญานัดฟังคำพิพากษาคดีที่กลุ่มแนวร่วมพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย หรือ “พธม.” คดีบุกรุกสำนักงานสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย หรือ NBT หมายเลขดำอ.1033/61 ที่พนักงานอัยการคดีอาญา 4 เป็นโจทก์ฟ้อง นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์, น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก, นายภูวดล ทรงประเสริฐ, นายยทธิยง ลิ้มเลิศวาที และนายชิติพัทธ์ ลิ้มทองกุล ร่วมกันเป็นจำเลยที่ 1-5 ในความผิดฐาน “ร่วมกันบุกรุกมั่วสุม สร้างความวุ่นวายในบ้านเมือง อั้งยี่ ซ่องโจรฯ”

จากกรณีเมื่อระหว่างวันที่ 22-25 สิงหาคม 2551 จำเลยกับพวก ร่วมกันประชุมวางแผน ระดมคนจำนวนมาก มีอาวุธปืนและมีด จากสะพานมัฆวานรังสรรค์ แล้วทำลายทุบประตูทางเข้า-ออก ด้านหน้าติดกับถนนวิภาวดี-รังสิต จนพังลงมา ก่อนบุกรุกเข้า สำนักงานสถานี NBT และสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย ถนนวิภาวดีฯ กรุงเทพฯ เพื่อบังคับให้หยุดการนำเสนอข่าวและเชื่อมต่อสัญญาณ สถานีโทรทัศน์เอเอสทีวีและเคเบิ้ลทีวีแทน โดยได้ทำลายประตูหน้าต่าง ตัดสายไฟฟ้าตู้ระบบควบคุมไฟฟ้า โทรศัพท์ ระบบคอมพิวเตอร์ กล้องวงจรปิดฯ จนเสียหายใช้การไม่ได้ รวมมูลความค่าเสียหาย 612,198 บาท

อัญชะลี ไพรีรัก

น.ส.อัญชะลี กล่าวก่อนเข้ารับฟังคำพิพากษาว่า ได้เตรียมหลักทรัพย์ในการยื่นประกันตัวมาด้วย สำหรับคดีนี้กลุ่มของตน 1-5 คนที่จะมาฟังคำพิพากษาในวันนี้เป็นคดีที่อัยการเรียกฟ้องเพิ่มภายหลังเมื่อไม่กี่ปีมานี้ ส่วนรายละเอียดในคดีให้ทีมทนายความดำเนินการทั้งหมด โดยตนเองไม่ทราบถึงรายละเอียด ส่วนนายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำพันธมิตรก็ได้ติดต่อให้กำลังใจมาตลอด ตนกล่าวกับตัวเองว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ต้องเกิด เราไม่สามารถหลีกเลี่ยงความจริงได้ เมื่อถึงเวลาศาลพิเคราะห์ว่า คดีนี้ไม่เป็นการฟ้องซ้ำกับคดีที่มีการยื่นฟ้องแกนนำกลุ่มพันธมิตร เนื่องจากเป็นความผิดคนละข้อหา

ทั้งนี้ ศาลพิเคราะห์จากข้อเท็จจริงในคำพิพากษาศาลฎีกาคดีนักรบศรีวิชัย 85 คน บุกสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย ว่ามีการเข้าไปในสถานีดังกล่าวจริง ทั้งจำเลยทั้ง 5 คนให้การในฐานะพยาน ประกอบกับมีพยานบุคคล พยานหลักฐาน ยืนยันว่าเห็นจำเลยทั้ง 5 คน กระทำความผิดประกอบกับการนำสืบของตำรวจที่สืบสวนมาตั้งแต่การชักชวนปราศัยบนเวทีปราศรัยที่สะพานมัฆวานรังสรรค์ เชื่อว่าเป็นการกระทำความผิดต่อเนื่องกันที่จำเลยอ้างว่าเป็นการพากลุ่มผู้ชุมนุมกลับไปที่เวทีปราศรัยฟังไม่ขึ้น ส่วนความผิดฐานเป็นอั้งยี่ซ่องโจร เนื่องจากพยานหลักฐานโจทก์นำสืบไม่ชัดเจนว่าจำเลยทั้ง 5 คน มีการสมคบคิดอย่างไร

ศาลจึงพิพากษาจำคุก จำเลยทั้ง 5 คน ในความผิดฐานร่วมกันบุกรุกเข้าไปในบริเวณและอาคารสำนักงานสถานี NBT สั่งจำคุกนายสมเกียรติ เป็นเวลา 2 ปี ส่วนจำเลยที่เหลืออีก 4 คน จำคุกคนละ 1 ปี โดยไม่รอลงอาญา พร้อมทั้งยกฟ้องข้อหาอั้งยี่ซ่องโจรกับจำเลยทั้งหมด ขณะที่จำเลยทั้ง 5 คน ยื่นเรื่องประกันตัวเพื่อเตรียมอุทธรณ์ต่อสู้คดีต่อไป

ต่อมาศาลมีคำสั่งอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวจำเลยทั้ง 5 ระหว่างอุทธรณ์คดี โดยตีราคาประกันในส่วนของ นายสมเกียรติจำเลยที่ 1 วงเงิน 300,000 บาท ส่วนจำเลยที่ 2-5 ตีราคาประกันคนละ 200,000 บาท ซึ่งคดีจะครบกำหนดการยื่นอุทธรณ์ภายในวันที่ 12 มี.ค.นี้

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า