อนุทินคาใจถูกตัดโควตา ก.วัตถุอันตราย – ปชป.ยัน เฉลิมชัย ร่วมแบนสารพิษ

วันที่ 5 ต.ค. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข โพสต์เฟซบุ๊กภาพป้ายของสถานพยาบาลในเครือกระทรวงสาธารณสุข ที่ร่วมแสดงพลังต่อต้าน 3 สารพิษทางการเกษตร คือ พาราควอต, ไกลโฟเซต และคลอร์ไพริฟอส พร้อมระบุข้อความ ว่า

“จุดยืนของกระทรวงสาธารณสุขเกี่ยวกับการใช้สารเคมีทางการเกษตร ปรากฏการณ์การพร้อมใจขึ้นป้ายต่อต้านการใช้สารเคมีของโรงพยาบาลในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข ขอชื่นชมครับ คุณหมอลุยเอง”

ทั้งนี้ ต่อมานายอนุทิน ได้โพสต์ ข้อความอีกครั้ง ถึงรายชื่อ คณะกรรมการวัตถุอันตรายชุดใหม่ตาม พ.ร.บ.วัตถุอันตราย(ฉบับที่ 4) 2562 ที่จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 27 ต.ค.นี้ ว่าไม่ปรากฏรายชื่อตัวแทนจากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และกรมการแพทย์ ที่ปรากฏข่าวว่ามีจุดยืนเรื่องแบนสารพิษอันตราย ซึ่งตนกำลังหาตัวผู้อยู่เบื้องหลังการตัดชื่อตัวแทนของทั้ง 2 หน่วยงานออกไป

ทั้งนี้ คณะกรรมการวัตถุอันตายชุดใหม่ 27 คน ประกอบด้วย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม, ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม, อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม, ปลัดกระทรวงเกษตร, อธิบดีกรมประมง, อธิบดีกรมปศุสัตว์, อธิบดีกรมวิชาการเกษตร, อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ, ปลัดกระทรวงสาธารณสุข, เลขาธิการ อย., ปลัดกระทรวงพลังงาน, อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน, อธิบดีกรมขนส่งทางบก, อธิบดีกรมเจ้าท่า, ผู้ทรงคุณวุฒิ 8 ท่าน, ผู้แทนกรมการค้าต่างประเทศ, ผู้แทนกระทรวงกลาโหม, ผู้แทนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ, ผู้แทนสำนักงานปรมาณูเพิ่อสันติ, อธิบดีกรมศุลกากร

ราเมศ รัตนะเชวง

ด้านนายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีการยกเลิกใช้สารเคมี 3 ชนิดว่า ในเรื่องนี้นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีความชัดเจนกับเรื่องดังกล่าวมาตั้งแต่ต้น แต่กลับมีกระบวนการบิดเบือนข้อเท็จจริงเพื่อทำลายความน่าเชื่อถือของเลขาธิการพรรค และพรรคประชาธิปัตย์ แม้ขณะนี้จะมีข้อมูลที่เป็นข้อเท็จจริงชัดกระจ่างแล้ว ดังนั้นกลุ่มที่บิดเบือนข้อเท็จจริงก็ควรหยุดการกระทำที่ไม่ใช่ลูกผู้ชายเสียที

เฉลิมชัย ศรีอ่อน

“คนชื่อนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เป็นคนที่อยู่กับประชาชนมาอย่างยาวนาน เรื่องใดที่เกิดประโยชน์กับประชาชน เรื่องใดที่มีผลกระทบต่อประชาชนทำให้ประชาชนเดือดร้อนเสียหาย คนชื่อนายเฉลิมชัยอยู่ข้างประชาชนเสมอ เมื่อสารเคมีดังกล่าวมีผลกระทบต่อประชาชน ก็ต้องการดำเนินการยกเลิกการใช้สารเคมีดังกล่าวอย่างแน่นอน และขณะนี้ก็อยู่ในขั้นตอนตามที่กฎหมายกำหนดแล้ว ขอให้หยุดบิดเบือน หยุดใส่ร้าย แล้วเดินหน้าสู่การแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนและประเทศ พวกเราต้องช่วยกันปลดปล่อยปัญหาของประชาชน เปรียบเสมือนปัญหาที่อยู่ในกรงขังอาจจะขังได้แค่ตัว เมื่ออยู่นอกกรงขังแล้ว เราก็ต้องขังใจให้อยู่กับหลักการความถูกต้องและความเป็นจริงโดยยึดหลักประโยชน์ของประชาชนเป็นที่ตั้งจะดีกว่า” นายราเมศ กล่าว

ทั้งนี้ เฟซบุ๊ก มูลนิธิชีววิถีหรือ ไบโอไทย โพสต์เฟซบุ๊ก เมื่อวันที่ 4 ต.ค. ว่า ภายใต้บทบาทหน้าที่และโครงสร้างของคณะกรรมการวัตถุอันตรายฉบับใหม่กระทรวงที่เกี่ยวข้องสำคัญกับการแบนหรือไม่แบนสารเคมีกำจัดศัตรูพืชที่มีความเสี่ยงสูง 4 กระทรวงเท่านั้น ซึ่งได้วิเคราะห์ว่า กระทรวงอุตสาหกรรม ซึ่งมีนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ เป็นรัฐมนตรี, กระทรวงสาธารณสุข ภายใต้การนำของนายอนุทิน ชาญวีรกูล และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งมี นายวราวุธ ศิลปอาชา เป็นรัฐมนตรี มีความชัดเจนเรื่องแบนสารพิษ

แต่ได้ตั้งข้อสังเกตถึงกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่มี นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เป็นรัฐมนตรี โดยระบุว่า “นายเฉลิมชัย ได้มอบอำนาจให้นางมนัญญา ไทยเศรษฐ์ เป็นผู้กำกับดูแลกรมวิชาการเกษตร ซึ่งเป็นหน่วยงานตรงที่มีหน้าที่ดูแลการใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืช ขณะนี้นายเฉลิมชัย ได้ประกาศแล้วว่าเขาเองไม่สนับสนุนการใช้สารพิษทั้ง 3 ชนิดดังกล่าว แต่ก็สร้างความคลางแคลงใจต่อประชาชน เมื่อมีหนังสือทางการของกระทรวงเกษตรฯที่ส่งไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอ้างว่านายเฉลิมชัยสนับสนุนให้มีการจำกัดการใช้ แทนที่จะสนับสนุนบทบาทของนางมนัญญาซึ่งแสดงบทบาทอย่างชัดเจนว่าต้องการแบนสารพิษดังกล่าวให้บรรลุผลภายในสิ้นปี ตามมติของผู้ตรวจการแผ่นดิน และเส้นตายที่กระทรวงสาธารณสุขในสมัย นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาธร และคณะทำงาน 4 กระทรวงหลัก ตั้งแต่ต้นปี 2560”