SHARE

คัดลอกแล้ว

วันที่ 14 ต.ค. ที่สนามบินสุวรรณภูมิ นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยถึงความคืบหน้าในส่วนของกระทรวงเกษตรฯ ที่จะผลักดันให้มีการแบนสารเคมีทางการเกษตรในการประชุมคณะกรรมการวัตถุอันตราย วันที่ 22 ต.ค.ว่า ขณะนี้ได้ทำหนังสือชี้แจง มติ 9 ต่อ 0 แบน 3 สารพิษ คือ พาราควอต คลอร์ไพริฟอส และไกลโฟเซต ส่งไปให้ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์แล้ว เมื่อวันที่ 10 ต.ค. ที่ผ่านมา รวมถึงประสานกับปลัดกระทรวงเกษตรฯ ให้ทำหนังสือส่งให้กับปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นประธานในที่ประชุมมติสารพิษ

ส่วนของกระทรวงเกษตรฯ ได้กำชับ ผู้ที่จะเข้าไปประชุมในคณะกรรมการวัตถุอันตรายว่า ในเมื่อคุณรับผิดชอบในการลงมติครั้งนี้ ซึ่งเป็นมติของกระทรวงเกษตรฯ ก็ต้องลงตามมติตามที่ส่งไป และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างๆ ก็ต้องกำชับว่า ท่านมีนโยบายอย่างไร กับกรรมการวัตถุอันตรายในส่วนของกระทรวงของท่าน เรื่องนี้ก็จะดูง่ายขึ้น

ส่วนที่มีข้อกังวลว่าข้าราชการในคณะกรรมการวัตถุอันตราย อาจจะไม่ฟังรัฐมนตรีนั้น นางสาวมนัญญา ระบุว่า เป็นไปไม่ได้ที่จะไม่ฟัง ในส่วนของกระทรวงเกษตรฯ ทั้ง 4 คน คงไม่ต้องกังวลแล้ว คิดว่าเป็นเสียงเดียวกันหมด แต่ผู้ทรงคุณวุฒิก็ต้องไปว่ากันอีกที เพราะเราไม่สามารถไปกำหนดได้ พร้อมแสดงความมั่นใจว่าขณะนี้แบนได้ 90% ซึ่งในวันที่ 22 ต.ค. ตนก็จะไปติดตามมติคณะกรรมการวัตถุอันตรายด้วยตนเอง

” จริงๆแล้วผู้ทรงคุณวุฒิ ท่านก็ไม่ได้วิเศษวิโสมาจากไหน ท่านก็เป็นพี่น้องประชาชนชาวไทย ท่านก็ต้องฟังเสียงพี่น้องชาวไทย ทุกคนต้องเปิดหน้าถามว่าจะเอาไว้เพื่ออะไร ต้องไปถามผู้ทรงคุณวุฒิ แต่คิดว่าผู้ทรงคุณวุฒิก็ต้องฟังเสียงประชาชน ถามว่าหนักใจไหม ถ้าเขายังเป็นคนไทยอยู่ สัญชาติไทย เชื้อชาติไทย อยู่ในประเทศไทย ท่านก็ต้องฟังเสียงของประชาชน แต่ถ้าท่านไม่ใช่คนไทย ไม่ได้กินใช้อยู่กับคนไทย ท่านก็ตีตั๋วออกไปนอกประเทศได้เลย” รมช.มนัญญา กล่าว

เมื่อถามว่า มองว่าเป็นการยื้อหรือไม่นั้น นางสาวมนัญญา ประกาศว่าวันที่ 22 ต.ค.นี้ เรื่องนี้ต้องจบ ซึ่งตนได้เตรียมเรียนนายกรัฐมนตรีในวันที่ 17 ต.ค.ในที่ประชุมสภาผู้แทน ว่ากระทรวงมีมติตามบัญชาของท่าน รวมถึงส่งหนังสือให้กับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ทั้งนี้ส่วนตัวมั่นใจว่าไม่มีพลิกโผ บอกได้เลยว่าถ้ามีการพลิกโผหรือมีการเปลี่ยนแปลง ฟันธงได้เลยว่าคุณต้องรับอะไรมาแน่

เมื่อถามว่ารับอะไรนั้นหมายถึงอะไรนั้น นางสาวมนัญญา ย้อนถามว่ารับอะไรที่ทำให้คนเราเปลี่ยนไปได้ แต่บอกไว้เลยว่า ไม่ว่าคุณจะล็อบบี้อย่างไร หรือจะทำอย่างไร หรือจะใช้คนมาแอนตี้ตน ในการเดินทาง บอกได้เลยว่า ขอให้เลิกคิด บอกได้เลยว่าหยุดเถอะค่ะ อย่าทำอะไรแบบนั้นมันดูไม่ดี

สำหรับเรื่องของสารทดแทนนั้น จริงๆ เกษตรอินทรีย์และวิถีชีวิตของชาวไทยก็มีอยู่แล้ว เรื่องสาร 3 ตัวนี้ ผู้ที่นำเข้าก็เริ่มสับเปลี่ยนนำเข้าน้อยลง ซึ่งก็จะมีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบสต็อกของวัตถุอันตรายหลังจากแบนอีกขั้นตอนด้วย

เมื่อถามกรณีที่หากไม่สามารถคุมเสียงข้าราชการในกระทรวงตนเองให้แบนสารเคมีได้ รัฐมนตรีต้องรับผิดชอบด้วยการลาออกหรือไม่ นางสาวมนัญญา กล่าวว่า ในส่วนของตนเองคงไม่มีการลาออก เพราะมีหนังสือเน้นย้ำข้าราชการกระทรวงเกษตรที่อยู่ในคณะกรรมการวัตถุอันตรายแล้วว่าห้ามทำผิดไปจากมติ แต่ส่วนรัฐมนตรีกระทรวงอื่น คงต้องสั่งหนังสือกำชับไปยังข้าราชการในสังกัดของตนเอง

ทั้งนี้ คณะกรรมการวัตถุอันตราย ตามโครงสร้างปัจจุบันที่จะเป็นผู้ตัดสินใจแบน 3 สารที่ใช้ในการเกษตร มี 29 คนประกอบด้วย 1.ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม 2.อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม 3.เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม 4.ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ 5.ผู้แทนกระทรวงกลาโหม 6.เลขาธิการสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ 7.ผู้แทนกระทรวงคมนาคม 8.อธิบดีกรมขนส่งทางบก 9.อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน 10.อธิบดีกรมการค้าภายใน

11.อธิบดีกรมการแพทย์ 12.อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ 13.เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา 14.อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ 15.อธิบดีกรมประมง 16.อธิบดีกรมปศุสัตว์ 17.อธิบดีกรมวิชาการการเกษตร 18.อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร  19.ผู้แทนสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ

20.ผู้ทรงคุณวุฒิสาขาวิชากฏหมาย 21.ผู้ทรงคุณวุฒิสาขาวิชาเคมี 22.ผู้ทรงคุณวุฒิสาขาวิชาเกษตรศาสตร์ 23.ผู้ทรงคุณวุฒิสาขาวิชาวิศวกรรมศาสตร์ 24.ผู้ทรงคุณวุฒิสาขาวิชาวิทยาศาสตร์

25.ผู้แทนองค์การสาธารณประโยชน์ด้านเกษตรกรรมยั่งยืน 26.ผู้แทนองค์การสาธารณประโยชน์ด้านการจัดการปัญหาวัตถุอันตรายในท้องถิ่น 27.ผู้แทนองค์การสาธารณด้านสิ่งแวดล้อม 28.ผู้แทนองค์การสาธาณประโยชน์ด้านคุ้มครองผู้บริโภค (คนที่ 1) 29.ผู้แทนองค์การสาธาณประโยชน์ด้านคุ้มครองผู้บริโภค (คนที่ 1)

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า