จากมาตราการจำกัดการใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืช 3 ชนิด ได้แก่ พาราควอต คลอไฟรีฟอส และไกลโฟเสต ที่คณะกรรมการวัตถุอันตรายได้มีความเห็นชอบ เมื่อวันที่ 5 เม.ย.62 กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ออกประกาศเกี่ยวกับข้อบังคับในการใช้สารทั้ง 3 ชนิด โดยมีผลบังคับใช้วันที่ 30 ต.ค.62 ซึ่งเกษตรกรผู้ใช้จำเป็นต้องศึกษาข้อกำหนดในประกาศนี้
อันดับแรก เกษตรกรต้องขอขึ้นทะเบียนเป็นผู้ปลูกที่ใช้สารเคมี โดยพืชที่อนุญาตให้ใช้ ยาฆ่าหญ้าพาราควอต และไกลโฟเสต ได้แก่ อ้อย ยางพารา ปาล์ม ข้าวโพด มันสำปะหลัง ไม้ผล ส่วนพืชที่อนุญาตให้ใช้ยาฆ่าแมลง คลอไพรีฟอส ได้แก่ ไม้ดอก พืชไร่ และไม้ผล (เฉพาะหนอนบริเวณลำต้นเท่านั้น)
เมื่อได้รับการลงทะเบียนเป็นเกษตรกรผู้ปลูกพืชแล้ว ต้องเข้ารับการอบรม และเข้ารับการทดสอบการใช้สารเคมี โดยสามารถสอบถามข้อมูลการลงทะเบียนและอบรม ได้ที่ สำนักงานเกษตรอำเภอ ทั่วประเทศ
ผู้ที่จะสามารถซื้อสารเคมีทั้ง 3 ชนิด จากร้านที่ได้รับอนุญาต จะต้องใช้บัตรประชาชนเพื่อแสดงตัวตนต่อผู้ขายก่อน โดยจะซื้อได้จำกัด เท่ากับปริมาณพืชและพื้นที่ปลูกเท่านั้น
ที่สำคัญห้ามใช้สารเคมี กับพืชผัก สมุนไพร และใช้บริเวณพื้นที่เพาะปลูกที่เป็นพื้นที่ต้นน้ำ และ พื้นที่สาธารณะ โดยเด็ดขาด
โดยมีข้อแนะนำที่ควรปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด คือ ขณะทำการผสมและพ่นสาร ต้องสวมใส่อุปกรณ์ป้องกันอันตราย และใช้อุปกรณ์พ่นที่เหมาะสม
หากเป็นการว่าจ้างบุคคลอื่นในการฉีดพ่นสารเคมี ผู้รับจ้างรายนั้นๆ ก็จะต้องเข้ารับการอบรมการใช้สารเคมีและมีใบอนุญาตเท่านั้น