รมช.คมนาคม ขอเวลาไม่เกิน 90 วัน ได้คำตอบปมปรับสายรถเมล์ ‘ศุภณัฐ’ ซัดโดนยัดข้อมูลมั่ว

‘สุรพงษ์’ รมช.คมนาคม ขอเวลา 90 วัน ได้คำตอบเรื่องการปรับสายรถเมล์ เจอ ‘สส.ศุภณัฐ’ ซัดถูก กรมการขนส่งฯ ให้ข้อมูลมั่ว เปลี่ยนโซนสี-หมายเลขวิ่งรถ ทำคนกรุงป่วน

ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร โดยมีนายพิเชษฐ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2 ทำหน้าที่ประธานการประชุม มีการพิจารณากระทู้ถามสดของนายศุภณัฐ มีนชัยนันท์ สส.กทม. พรรคก้าวไกล ตั้งกระทู้ถามสด นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม โดยมอบหมายให้นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รมช.คมนาคม ในฐานะกำกับดูแลกรมการขนส่งทางบก เรื่องปัญหาการจัดสายรถเมล์ใหม่ที่มีการปรับเลข

นายศุภณัฐ กล่าวโดยสรุปว่า เรื่องนี้ทำให้ประชาชนสับสน ทั้งๆ ที่กรมการขนส่งทางบก เคยทำประชาพิจารณ์แล้ว ประชาชนไม่เห็นด้วย ดังนั้นจึงขอถามว่า ทราบหรือไม่ว่าเลขสายใหม่ของรถเมล์และเลขสายใหม่ที่นายสุริยะ รมว.คมนาคม ออกแบบมา ประชาชนไม่เอาและไม่ตอบโจทย์ ซึ่งถ้าทราบจะยกเลิกกลับไปใช้แบบเดิมหรือไม่

ด้าน นายสุรพงษ์ ชี้แจงว่า การวิ่งรถนั้นแบ่งเป็นโซนสี โดยภายในโซน เมื่อขึ้นไปแล้วหลง ก็จะสามารถกลับมาจุดเดิม ซึ่งเป็นการวิ่งรถกันภายในโซนสีเท่านั้น ส่วนรหัสในการเดินรถยอมรับว่า รัฐบาลเข้ามาทีหลังและพยายามศึกษาและแก้ไข ถ้าเสียงสะท้อนส่วนใหญ่ ออกมาเป็นอย่างไรคงจะมีคณะกรรมการขนส่งกลางมาดำเนินการ ส่วนการที่จะเปลี่ยนกลับไปกลับมา ตนไม่แน่ใจว่าจะเป็นผลดีหรือไม่ หรือจะเพิ่มการประชาสัมพันธ์ให้กับประชาชนเข้าใจ คาดว่าไม่เกิน 90 วันจะได้คำตอบ

จากนั้น นายศุภณัฐ ได้กล่าวว่า แผนที่ที่นายสุรพงษ์ นำประกอบการชี้แจงในสภาฯ กรมขนส่งทางบกวางยา เขียนเลขโซนสีผิด “เลข 2 อยู่ขวามือของกรุงเทพฯ จะเป็นตะวันตกได้อย่างไร มันเขียนผิดและผิดมานานแล้ว 1 ไปเขียนว่าโซนทิศเหนือจริงๆ ต้องตะวันตก 2 อยู่ขวามือคือทิศเหนือ แต่กรมขนส่งทางบกทำผิด แล้วเอามายัดในสไลด์ของรัฐมนตรี มั่วครับ” ขณะเดียวกันรถเมล์วิ่งไป-กลับ เลขโซน เป็นตัวเลขที่ไม่มีประโยชน์สำหรับประชาชน แนะนำว่า ให้เปลี่ยนเลขสายรถเมล์ หากมีการเปลี่ยนเส้นทางเล็กน้อยก็ควรใช้เลขเดิม แต่ถ้าเปลี่ยนเส้นทางมาก จึงค่อยเปลี่ยนเลขใหม่จะดีกว่า ยังมีการลดรอบวิ่ง รวมทั้งการปฏิรูปรถเมล์ก็ทำให้เกิดปัญหา อยากให้รัฐบาลอุดหนุนรถเมล์และเพิ่มจำนวนรถ ไม่ใช่สนใจแต่รถไฟฟ้า

“รถเมล์สามารถทำตัวเองให้เป็น Feeder วิ่งถนนรอง วิ่งเส้นเลือดฝอย เพื่อดันคนเข้ามาสู่ระบบรางได้ แต่ปัจจุบันต้องบอกว่าหลายสถานที่รถไฟฟ้าก็ไม่มีรถเมล์เหมือนกัน ประชาชนหลายคนกัดฟันครับ ผ่อนรถเดือนละเป็นหมื่น บางคนถูกบีบให้ไปเช่าคอนโดเดือนหมื่นสองหมื่น เพื่อให้อยู่ใกล้กับสถานีรถไฟฟ้า เพราะรถเมล์ของเรามันแย่จริงๆ ครับและทุกวันผมเห็นแต่ข่าว ท่านรัฐมนตรี รัฐบาลสนใจแต่รถไฟฟ้า จะให้เงินชดเชยขนาดไหนท่านก็โอ้โหเต็มที่จริงๆ ครับ แต่กับรถเมล์ไม่เห็นมีพูดถึง มีเหรอครับจะชดเชยรถเมล์ จะอุดหนุนรถเมล์ไม่มีครับ แค่จะหารถใหม่สภาพดีๆ ยังไม่หากันเลยครับ จะเพิ่มจำนวนรถก็ไม่มีครับ ทุกวันนี้บางคันรอเป็นชั่วโมง ถ้าเปรียบเทียบเงินลงทุนรถไฟฟ้า 1 สาย ลงทุนรถเมล์ได้ทั้งกรุงเทพฯ นะครับ ซื้อใหม่ยกชุด เผลอๆ ทั้งประเทศนะครับแต่ไม่ทำครับ ผมไม่เข้าใจ ท่านมองคนใช้รถเมล์เป็นพลเมืองชั้นสอง หรือไงครับถึงไม่สนใจครับสนใจแต่รถไฟฟ้า” สส.ศุภณัฐ กล่าวตอนหนึ่ง

นายสุรพงษ์ กล่าวด้วยว่า รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจ ต่อไปรถเมล์ จะเป็นพระเอกในกทม. จะกลายเป็นรถอีวี (EV) วันนี้ระบบล้อระบบรางจะสัมพันธ์กัน ต่อไปรถ ขสมก. จะหายไปจากถนนหลายพันคัน เส้นทางการวิ่งก็จะปรับเปลี่ยนหลายเส้นทาง วันนี้รัฐบาลทำงานครึ่งปี พยายามวางแผนนำปัญหาเก่ามาปรับ มาเชื่อมโยงทำให้เกิดการบูรณาการร่วมกัน ประเทศไทยจะเห็นการเปลี่ยนแปลงระบบขนส่งของประเทศไทย โดยเฉพาะขนส่งสาธารณะ ขนส่งมวลชน ส่วนในต่างจังหวัด เราได้กระจายอำนาจให้ท้องถิ่นมาร่วมจัดการเดินรถได้ วันนี้มีการเชื่อมโยงแบบบูรณาการ ต่อไปบทบาท บขส. จะลดลง ถ้ารถไฟรางคู่และรถไฟความเร็วสูงเสร็จ ส่วนเรื่องหมายเลขรถเมล์ ตนไม่ได้ยืนยันว่า เราทำถูกหรือทำผิดและไม่ได้นิ่งนอนใจ พร้อมรับฟังความคิดเห็นทุกด้าน