Advertisement

SHARE

คัดลอกแล้ว

‘ปดิพัทธ์’ แจงยิบรายละเอียดดูงานสิงคโปร์ ใช้จริง 9 แสนบาท ต่ำกว่างบที่ตั้งไว้ พร้อมยอมรับดื่มเบียร์จริง ยันไม่กระทบงาน

นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 แถลงสรุปรายละเอียดโครงการดูงานที่ประเทศสิงคโปร์ ของสภาผู้แทนราษฎร ในวันนี้ (27 ก.ย. 66)ว่า ค่าใช้จ่ายจากงบประมาณที่ตั้งไว้ 1,493,800 บาท ใช้จริงไป 917,009.51 บาท ถือว่าใช้ต่ำกว่าที่ตั้งไว้ประมาณ 500,000 บาท

เรื่องของงบรับรองตั้งไว้ 200,000 บาท ใช้จริงไป 61,742 บาท ส่งคืนคลังจำนวน 138,257 บาท ซึ่งรายละเอียดในการใช้จ่าย หมดไปกับการรับรองใช้ใน 2 งานหลัก คืองานเลี้ยงรับรองนักศึกษาและคนทำงานไทยในสิงคโปร์ที่ได้เชิญมาหารือกันในสถานทูตไทยประจำประเทศสิงคโปร์ รวมถึงรับรอง สส.สิงคโปร์ ส่วนที่เหลือเป็นค่าใช้จ่ายเล็กๆน้อยๆ

ส่วนของรายละเอียดการดูงานอยู่ระหว่างการรวบรวมข้อมูล แต่สิ่งที่ได้จากการดูงานครั้งนี้มี 3 ประเด็นหลักๆ คือ 1. เราต้องเตรียมความพร้อมในด้านกฎหมาย การพัฒนาอุตสาหกรรมรถไฟฟ้า Electric Vehicle (EV) ในอนาคต โดยตนได้พบกับผู้ประกอบการอุตสาหกรรมรถไฟฟ้าแล้ว พบว่า หากประเทศไทยไม่เตรียมโครงสร้างทางกฎหมายรองรับ การพัฒนาอุตสาหกรรม EV ในประเทศไทยเป็นไปไม่ได้

เช่น เรายังไม่มีการตกลงกันเรื่องเบ้าชาร์จรถไฟฟ้า ทุกคนอยากมีรถไฟฟ้า แต่เรื่องกระบวนการชาร์จ ยังไม่ตกลงกัน เรื่องรูปแบบของตัวถังที่จะมีการใช้แบตเตอรี่ของทุกค่ายผู้ผลิต ซึ่งทั้งหมดต้องใช้มาตรการที่ออกแบบโครงสร้างทางกฎหมายที่เตรียมไว้ก่อน ผู้ประกอบการจึงสามารถลงทุน และสามารถที่จะดำเนินการได้ ตนจะส่งให้พรรคการเมืองต่างๆ และรัฐบาลเพื่อพิจารณา

2. เรื่องปัญหาความท้าทายของคนไทยที่ทำงานในระดับโลกที่อยู่สิงคโปร์ ที่ไม่สามารถกลับประเทศไทยได้ เนื่องจากหลายปัจจัย เช่น ระบบเศรษฐกิจที่ยังไม่พร้อม ยังไม่ดึงดูดชาวต่างชาติมาทำงานในประเทศไทย เนื่องจากไม่มีมาตรการทางภาษีในการสนับสนุน ปัญหา Open Data ยังไม่มีเพียงพอที่ทำให้บริษัทมาลงทุนในประเทศไทยได้

3. เรื่องแรงงานไทยในสิงคโปร์ จากการที่ตนได้มีโอกาสไปเยี่ยมพบว่า ในขณะที่ได้ยินการอภิปรายเรื่องปัญหาแรงงานไทยในต่างประเทศ โดยเฉพาะแรงงานไทยที่เกิดการละเมิดสิทธิมนุษยชนที่ประเทศฟินแลนด์ แต่ประเทศสิงคโปร์ไม่มีรายงานเรื่องนี้ แรงงานไทยเต็มใจและตั้งใจที่จะอยู่สิงคโปร์ แต่ต้องเป็นแรงงานที่มีทักษะสูงเท่านั้น และต้องการการสนับสนุนให้แรงงานไทยจะสามารถใช้ภาษาอังกฤษได้ดีขึ้นและมีทักษะที่ดีขึ้น เพื่อทำให้เราแข่งขันในตลาดแรงงานที่มีทักษะสูงขึ้นได้

นายปดิพัทธ์ กล่าวอีกว่า เรื่องการพัฒนาสภาฯ ให้ก้าวหน้าและโปร่งใส สภาฯ สิงคโปร์มีระบบที่ต่างกับประเทศไทยมาก และประเทศสิงคโปร์ลงทุนกับประสิทธิภาพของสภาฯ สูงมาก พบว่า สภาฯ สิงคโปร์มีขนาดเล็ก เนื่องจากประเทศเล็ก มีเจ้าหน้าที่เพียงหลักร้อยคน แต่สามารถตัดสินใจเรื่องสำคัญของประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากให้คุณภาพกับการประชุมสูงมาก

“ประชุมเต็มที่เดือนละ 1-2 ครั้ง ครั้งละ 3-4 วัน ประชาชนสามารถนั่งในสภาฯ ได้ทั้งวัน เพื่อดูเรื่องการดีเบต การเสนอญัตติ และการตัดสินใจต่างๆ ของสส. เพราะฉะนั้นในสภาชุดนี้ ผมจะมีส่วนที่ทำให้ประชาชนสามารถมานั่งดูได้”

สำหรับเรื่องเทคโนโลยีสารสนเทศ เราไม่สามารถทำ Open Parliament ได้ ถ้ายังไม่มีนโยบายคลาวด์ (Cloud) ข้อมูลที่อยู่ในสำนักประชุม สำนักชวเลข ไม่สามารถที่จะเปลี่ยนเป็นดิจิทัลให้ทันสมัยขึ้นได้ เรื่องนี้ตนจะนำเข้าสู่กรรมการ ICT ของรัฐสภา เพราะว่าการลงทุนในระบบคลาวด์จะทำให้เกิดความคุ้มค่าในอนาคต เพื่อทำให้การทำงานของสส. ทันสมัยที่สุด และสื่อมวลชนสามารถเข้าถึงเว็บไซต์ที่มีข้อมูลมากมายของสภาได้อย่างไร้รอยต่อให้ได้มากที่สุด

นอกจากนี้ นายปดิพัทธ์ ยังกล่าวถึงข้อครหาในการดูงานว่าในส่วนของคนที่ไปก็จะมีสมาชิกที่ตามไป และกลับก่อน ซึ่งสมาชิกที่ตามไป ได้แก่ นายวรภพ วิริยะโรจน์ สส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล เนื่องจากติดโควิด-19 ส่วนสมาชิกที่กลับก่อนมี 2 คน ได้แก่ นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล และนายศรัณย์ ทิมสุวรรณ สส.เลย พรรคเพื่อไทย ซึ่งทั้งคู่ติดภารกิจ แต่ได้ปรับตารางดูงานแล้ว

ผู้สื่อข่าวถามถึงภาพการดื่มเบียร์ นายปดิพัทธ์ กล่าวว่า มีความเข้าใจผิดว่า ตนไปในช่วงเทศกาลคราฟท์เบียร์ ยืนยันว่าเราไม่ได้ไป เราไปแคมป์คนงานและได้พบคนงานกว่า 30 คน พูดคุยกันเรียบร้อยแล้ว มีการเชิญชวนกันว่าไปดูสถานที่ในหอพัก ดูว่าพวกเขากินอยู่อย่างไร เราได้ไปเยี่ยมสอบถามสารทุกข์สุขดิบ จึงเกิดภาพแบบที่เห็นขึ้นมา และไม่ได้เป็นภาพในร้านอาหาร แต่เป็นภาพในโรงอาหารของไซต์คนงานอยู่แล้ว

“ผมถือกระป๋องเบียร์ และก็ชนในวงต่างๆ ทำให้พวกเขากล้าที่จะพูดคุยกับผมมากขึ้น กล้าที่จะพูดคุยเรื่องความเป็นอยู่ ทำให้เกิดบรรยากาศแลกเปลี่ยน” นายปดิพัทธ์ กล่าว

เมื่อถามว่า ยังมีคนมองว่าไม่เหมาะสม นายปดิพัทธ์ กล่าวว่า ภาพลักษณ์ของตนต้องพิสูจน์ด้วยการทำงาน ตนไม่สามารถแก้ตัวได้ เพราะก็ดื่ม แต่ก็เป็นช่วงเวลาที่เลิกงาน ชีวิตส่วนตัวพร้อมถูกตรวจสอบ และสามารถวิพากษ์วิจารณ์ได้ แต่เรื่องดังกล่าวจะถูกตรวจสอบเพื่อนำไปสู่อะไร เหตุผลของการตรวจสอบเป็นอย่างไร และตรวจสอบทุกหน่วยงานเท่าเทียมกันหรือไม่ นี่เป็นคำถามที่ตนต้องถามกลับไปยังผู้ที่ต้องการตรวจสอบ แต่หากภาพลักษณ์ของตน ไม่น่าเชื่อถือในการทำงานสภาฯ หรือไม่ทำให้เกิดความเชื่อมั่น ตนก็พร้อมรับคำวิพากษ์วิจารณ์

นายปดิพัทธ์ กล่าวด้วยว่า ส่วนที่ตนเคยกล่าวไว้ก่อนไปว่า จะไปในฐานะทูต และเกิดภาพดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ทำให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์ว่าเหมาะสมหรือไม่นั้น ตนคิดว่าการชนแก้วในทุกวาระโอกาส ตนได้เข้าพบกับเอกอัครราชทูตประจำประเทศไทย รวมถึงพบกับ สส. ของประเทศสิงคโปร์ ก็มีการดื่มไวน์กัน ซึ่งเป็นเครื่องดื่มเท่านั้น ไม่มีอะไรที่เกี่ยวข้องกับศักดิ์ศรี การที่ตนดื่มไวน์กับเจ้าหน้าที่ระดับสูง และดื่มแอลกอฮอล์กับคนไทยที่ไปทำงานในประเทศสิงคโปร์ เป็นสถานการณ์ปกติ ไม่ได้มีผลต่อภาพลักษณ์แต่อย่างใด

podcast

LATEST
OUR PICKS
HOT
กำลังโหลดบทความถัดไป...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า