Advertisement

SHARE

คัดลอกแล้ว

‘ศิริกัญญา’ ขอบคุณ ‘เศรษฐา’ เห็นคุณค่าสภาฯ มาตอบกระทู้ถามสดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ถามเกิดอะไรขึ้นกับ ‘ดิจิทัลวอลเล็ต’ กันแน่ เปลี่ยนไปมา จี้ให้ตอบเก็บงบกลางปี 67 ไว้ใช้หรือไม่ พร้อมถามคนไทยได้อะไรเพิ่มสัดส่วนต่างชาติซื้ออสังหาฯ อัดเอื้อนายทุน ด้าน นายกฯ ร่ายยาวแจงเปลี่ยนเกณฑ์เงินหมื่นเพื่อให้โดนใจประชาชน ยันไม่ได้ขายชาติแต่ต้องศึกษาระยะยาว ลั่นไร้ผลประโยชน์ทับซ้อน ประกาศทิ้งท้าย รัฐบาลนี้จะวิ่งสู้เพื่ออนาคต สู้แรงค้านที่ไร้อนาคต

ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร วันที่ 11 กรกฎาคม 2567 ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานการประชุม พิจารณากระทู้ถามสดด้วยวาจา ของน.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล ตั้งกระทู้ถาม นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี 3 ข้อเกี่ยวกับโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต, มาตรการพยุงค่าครองครองชีพประชาชนในระยะสั้น และผลจากมาตรการกระตุ้นธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งวันนี้ นายเศรษฐา เดินทางเข้าสภาฯ มาตอบกระทู้ดังกล่าวด้วยตนเอง

ภาพ พรรคก้าวไกล

โดย น.ส.ศิริกัญญา เริ่มด้วยการกล่าวว่า วันนี้ต้องขอบคุณท่านนายกรัฐมนตรีที่ยังอุตส่าห์เห็นคุณค่าของสภาผู้แทนราษฎร ยังคงยึดถือการตรวจสอบถ่วงดุลจากฝ่ายนิติบัญญัติ และยังเคารพต่อหลักการว่ารัฐสภาเป็นผู้ทรงอำนาจสูงสุด ท่านได้ตอบรับมาตอบกระทู้สด เวลา 7 โมงครึ่งเมื่อเช้านี้ ดิฉันก็ขอแสดงความขอบคุณ และขอให้ครั้งนี้ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ท่านมาตอบกระทู้สดของพรรคฝ่ายค้านที่ใหญ่ที่สุด แต่นี่จะไม่ใช่ครั้งสุดท้าย วันอาทิตย์หน้าท่านเคลียร์ตารางไว้ได้เลย เพราะว่าเราได้เตรียมข้อมูลที่จะถามท่านนายกรัฐมนตรีเอาไว้แล้ว หรือถ้าอาทิตย์หน้าเคลียร์ตารางไม่ทัน ว่าท่านว่างพฤหัสไหนแจ้งเรามาได้เลยเราพร้อมที่จะอำนายความสะดวก

คำถามแรก เป็นคำถามที่ฮอตมาก หลังการแถลงของรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เรื่องดิจิทัลวอลเล็ต ที่จะต้องนำมาถาม เพราะมีประชาชนสอบถามกันมามากมายเรียกว่าอินบ๊อกซ์แทบพังว่า มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่กับดิจิทัลวอลเล็ต เมื่อวานนี้มีการปรับแก้เงื่อนไข มีเงื่อนไขเพิ่มเติมเข้ามามากมาย เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาตลอดเวลา มือถือจากเดิมที่บอกว่าซื้อได้ เมื่อวานนี้ย้ำอีกครั้งแล้วว่าซื้อไม่ได้ ส่วนปุ๋ยวันก่อนบอกซื้อไม่ได้วันนี้บอกซื้อได้แล้ว แล้วก็มีเงื่อนไขประหลาดเกี่ยวกับเครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ บอกว่าจะใช้ซื้อไม่ได้ คนไทยผลิตเองก็เยอะ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องปรับอากาศ ตู้เย็น พัดลม และที่สำคัญที่สุดที่น่ากังวล คือ การปรับลดเป้าหมายจาก 50 ล้านคน เหลือ 45 ล้านคน โดยอ้างว่า คนที่จะมีสิทธิ์จะไม่มาลงทะเบียน 10% และอาจจะไม่ยืมเงิน ธ.ก.ส.แล้ว เท่ากับว่ามีเงินที่จะแจกเพียงแค่ 450,000 ล้านบาท แต่มีคน 50 ล้านคน และต้องใช้เงิน 500,000 ล้านบาท

คำถามคือในขณะนี้งบประมาณมีไม่พอแล้วใช่หรือไม่ ทำให้หามาได้แค่เพียง 450,000 ล้านบาท งบจากปี 67 ที่เคยจะใช้ 170,000 ล้านบาท ตอนนี้เหลือเพียง 165,000 ล้านบาท ที่เหลือจะใช้จากงบ ปี 68 จำนวน 285,000 ล้านบาท แล้วอย่างนี้ถ้าสุดท้ายมีผู้ลงทะเบียนครบ 50 ล้านคนจะทำอย่างไร จะยังได้รับสิทธิ์อยู่หรือไม่ แล้วอีก 5 หมื่นล้านจะเอาเงินที่ไหนมาใช้ หรือจะใช้เงินคงคลัง ทั้งนี้ตกลงโครงการดิจิทัลวอลเล็ตจะมีการใช้งบกลางของปี 67 หรือจะไปบริหารจัดการอย่างไร จะใช้เงินทุนสำรองจ่ายที่อยู่ในอำนาจของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังหรือไม่

ภาพ สำนักโฆษกฯ ทำเนียบรัฐบาล

นายเศรษฐา ลุกขึ้นตอบกระทู้ โดยกล่าวว่า ขอยืนยันว่าให้ความสำคัญกับสภาฯ นิติบัญญัติ ไม่ได้ประสงค์ที่จะหลีกเลี่ยง แต่มีภารกิจแน่น เห็นว่าท่านน้อยใจจะไม่ถาม ตนก็ต้องพยายามมาตอบให้ได้ แน่นอนครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งสุดท้าย และพยายามได้จะพยายามมาอย่างต่อเนื่อง คำถามแรกเรื่องดิจิทัลวอลเล็ต ที่จะมีการแถลงวันที่ 24 กรกฎาคม ที่ยังมีการเปลี่ยนแปลงเล็กๆ น้อยๆ เรื่องสินค้านั้น ก็เป็นตัวบ่งบอกอย่างหนึ่งว่ารัฐบาลเราได้ฟังความคิดเห็นของพี่น้องประชาชน  จะใช้ซื้ออะไรได้ อะไรไม่ได้ก็เป็นเรื่องหนึ่งที่เราจะต้อง  ก่อนที่โครงการจะสำเร็จเป็นรูปธรรมจริงๆ เราก็ต้องรับฟังความคิดเห็นทั้งประชาชน และผู้ประกอบการ รวมทั้งฝ่ายค้าน จะมีการพูดคุยตลอดเพื่อปรับปรุงให้โดนใจประชาชน และถูกจุดประสงค์ เป้าหมายหลักของโครงการเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ส่วนเรื่องของงบประมาณต่างๆ งบกลางที่ถามมาเรากันไว้ 43,000 ล้านบาท ขณะที่งบ 450,000 ล้านบาท ซึ่งลงมาจาก 500,000 ล้านบาทนั้น เราดูจากสถิติเก่าจากโครงการที่เกิดขึ้นในรัฐบาลเก่า แต่เราก็พยายามเตรียมงบประมาณให้เต็มที่ มั่นใจวันที่ 24 กรกฎาคมนี้จะมีความชัดเจนมากขึ้น ทั้งงบประมาณ และรายละเอียดสินค้า

จากนั้น น.ส.ศิริกัญญา ได้กล่าวว่า พอนายกฯ ตอบว่าจะใช้งบกลาง ปี 67 เพื่อทำดิจิทัลวอลเล็ต ก็ทำให้ปริศนาทุกอย่างกระจ่างขึ้น เพราะตั้งแต่ท่านบริหาราชการแผ่นดินมา กว่า 10 เดือน เรามีข้อสังเกตว่างบกลาง ปี 67 แทบไม่ได้อนุมัติใช้เงิน ทั้งที่มีปัญหาของประชาชนหลายเรื่องที่รอการแก้ไข แต่กลับไม่มีอะไรออกมาเลย เพราะท่านต้องเก็บเงินก้อนนี้ไว้ใช้ดิจิทัลวอลเล็ต ที่ต้องถามและกังวล เพราะมีปัญหาที่เร่งด่วนกว่าการกระตุ้นเศรษฐกิจ คือปัญหาค่าครองชีพของประชาชน ราคาสินค้าแพงขึ้นไม่ได้ลดลงตามเงินเฟ้อ สัปดาห์ที่ผ่านมา โรงงานปิดกิจการจำนวนมาก นับเฉพาะช่วงที่ท่านเข้ามารับตำแหน่งปิดไปแล้ว 1,217 โรง มากกว่าเปิดแค่นิดเดียว คือเปิด 1,264 โรง คำถามก็คือมีการของบกลางไปช่วยพยุงราคาน้ำมัน 6,500 ล้านบาท แต่ท่านไม่อนุมัติ ทั้งๆ ที่ไม่ได้ใช้ ท่านมีแนวโน้มที่จะมีมาตรการช่วยเหลือค่าครองชีพประชาชนโดยที่ไม่ต้องรอดิจิทัลวอลเล็ตหรือไม่

นายเศรษฐา ร่ายยาวโดยตอนหนึ่งกล่าวว่า ขอยืนยันว่าเรามีการใช้งบกลางดูแลเรื่องค่าน้ำมันและค่าไฟ และอีกหลายเรื่อง อาทิ ภาคเกษตร หากยังมีข้อสงสัยคราวหน้าจะนำรายละเอียดเกี่ยวกับการใช้งบกลางมาแถลงอีกครั้ง เรามีการเห็นต่างกันเยอะเรื่องเศรษฐกิจวิกฤติหรือไม่ ท่านก็ทราบดีว่า 10 ปีที่ผ่านมา GDP เราโตต่ำต้อยเหลือเกิน คนที่รวยแล้วก็รวยอีก คนจนก็ต่ำต้อยไปเรื่อยๆ การปิดตัวของโรงงาน เรามีการปรับตัวช้ามากในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา นี่จึงเป็นเหตุผลที่ตนต้องเดินทางไปต่างประเทศ เพื่อพูดคุยและเจรจากับภาคธุรกิจให้เข้ามาลงทุนในประเทศไทย เรื่องการท่องเที่ยวแบกเศรษฐกิจอยู่ในปัจจุบัน ขณะที่ภาคอุตสาหกรรมตกหมด คนไม่มีกินไม่มีใช้ จึงเป็นที่มาว่าทำไมถึงต้องเป็นดิจิทัลวอลเล็ต ถ้าเป็นเงินใหม่ใส่เข้าไปในระบบ ลองจินตนาการดูแล้วกันว่า โรงงานเหล่านี้จะผลิตสินค้าออกมาขายประชาชนหรือไม่ เกิดการผลิต เกิดการจ้างงาน ประชาชนก็เริ่มมีความหวัง

ทั้งนี้หลังนายเศรษฐา ชี้แจงจบ น.ส.ศิริกัญญา ได้กล่าวต่อว่า การไม่ได้ตอบ คำถามที่ดิฉันถาม ก็เท่ากับเป็นการยืนยันว่าจะไม่มีมาตรการที่จะพยุงค่าครองครองชีพประชาชนในระยะสั้นเฉพาะหน้านี้ รวมไปถึงก็จะไม่มีการไปแก้ปัญหาเรื่องที่มีโรงงานปิดกิจการ เอสเอ็มอี (SME) ล้มหายตายจากแน่นอนวิเคราะห์ถูกวินิจฉัยโรคถูกหมดเลยแต่ว่าทางออกยังมืดมนไปแปดด้านเพราะว่ายังไม่เห็นเป็นรูปธรรมตอนนี้โดยที่ไม่ต้องรอดิจิทัลวอลเล็ต หรือรอให้นักลงทุนมาลงทุน เพราะจะแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้อย่างไร

ถ้างบไม่พอที่จะมาช่วยในช่วงนี้ ตนมีข้อเสนอ รัฐบาลสามารถสร้างแรงจูงให้ท้องถิ่น นำเงินสะสมของตัวเองออกมาใช้เป็นโครงการลงทุนขนาดเล็ก ให้เกิดการจ้างงาน ซึ่งเงินสะสมนี้มีอยู่จริง เป็นฝากไม่ต่ำกว่า 20,000 ล้านบาท ถ้ารัฐบาลออกครึ่งหนึ่ง ท้องถิ่นออกครึ่งหนึ่ง แก้ไขแหล่งน้ำ น้ำประปา รับรองว่าน่าจะทำให้เศรษฐกิจฐานรากมีชีวิตชีวาขึ้นมาได้ โดยไม่ต้องรอดิจิทัลวอลเล็ตออกมา ที่ผ่านมามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจทำไปหลายเรื่อง พุ่งเป้าไปที่ชนชั้นกลาง คนรวย ส่วนเรื่องปุ๋ยคนละครึ่งก็มาตอนที่เกษตรกรลงเงินไปแล้ว และที่สำคัญเน้นไปที่อสังหาริมทรัพย์เยอะมาก 7 มาตรการทั้งลดค่าธรรมเนียมโอน บ้านเล็กไปถึงบ้านหรู ขอสอบถามผลเป็นอย่างไร และที่สำคัญมาตรการเพิ่มสัดส่วนต่างชาติ 99% ถือทรัพย์อิงสิทธิ รัฐมนตีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย (ชาดา ไทยเศรษฐ์) ยืนยันกับสภาฯ ว่า นายกฯ สั่งให้ทำ เราไม่ต้องมาพูดเรื่องขายชาติหรือไม่ขายชาติ แต่ถ้าหากทำจริง ปล่อยขายคอนโดที่ถือทรัพย์อิงสิทธิให้ต่างชาติได้ทั้งตึกเลย ผลกระทบราคาอสังหาริมทรัพย์แพงขึ้น แน่นอนมีกลุ่มหนึ่งที่จะได้ประโยชน์ แต่ประชาชนที่จะได้ผลกระทบที่ยังไม่มีบ้านที่อยู่อาศัยก็จะไม่มีเงินซื้อที่อยู่อาศัยได้แล้วหรืออาจต้องไปเช่าบ้านต่างชาติแทน แล้วสุดท้ายคนไทยจะได้อะไรจากมาตรการนี้ สัดส่วนที่จะกลายมาเป็นเกิดผลต่อเศรษฐกิจคืออะไร

นายเศรษฐา ได้กล่าวตอบคำถามว่า การกระตุ้นเศรษฐกิจจะทำอย่างต่อเนื่อง ดูแลชายแดนไม่ให้มีสินค้าเกษตรเถื่อนเข้ามา บางอย่างไม่ต้องใช้งบประมาณ การใช้นโยบาย ประสานงาน ฝ่ายความมั่นคง กระทรวงการคลัง ศุลกากร ทหาร กอ.รมน. ก็มีส่วนทำให้รายได้ของประชาชนสูงขึ้น ส่วนเรื่องทรัพย์อิงสิทธิ 99% อย่างที่ท่านพูดไป ก็มีการเสนอให้มีการศึกษาเรื่องนี้เกิดขึ้น เพราะมีการเชื่อมโยงกันหลายๆ อย่าง ก็เป็นเรียกร้องจากต่างประเทศอยากให้พิจารณาเพิ่มระยะเวลา จาก 30 ไปเป็น 99 ปี

“ไม่ใช่การขายชาติหรอกครับ ก็เป็นเรื่องการศึกษาว่าจริงๆ แล้วเหมาะสมหรือเปล่าที่จะทำ เพราะฉะนั้นตรงนี้ก็ฝากไว้ให้ เรามาต้องดูกัน ถ้าเกิดทำแล้วมันจะส่งผลระยะยาวให้กับโครงสร้างเศรษฐกิจไทย ก่อให้เกิดการลงทุนระหว่างประเทศสูงขึ้นหรือเปล่า ก็ขอยืนยันว่าจริงๆ แล้วต้องมีการศึกษา และตั้งใจทำให้ซื่อสัตย์สุจริต ปราศจากเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อน ทุกๆ ประการ ไม่ได้มีการกดดันใครทั้งสิ้น”

“ยืนยันนะครับภายใต้การนำของผมเองก็ เราจะวิ่งสู้เพื่ออนาคต แล้วก็พรรคร่วมฯ ทุกๆ พรรค ที่อยู่ในรัฐบาลเราก็จะ ช่วยกันวิ่งสู้ต่อไปเพื่อ ปัจจุบันที่ดีกว่านะครับ ก็จะต้องสู้กับแรงค้านที่ไร้อนาคตครับ ขอบคุณครับ” นายเศรษฐา กล่าวทิ้งท้าย

‘ดิจิทัลวอลเล็ต’ ไม่แตะงบ ธ.ก.ส. แล้ว อนุฯ เคาะเงื่อนไขเพิ่มซื้อ เครื่องใช้ไฟฟ้า-โทรศัพท์มือถือ ไม่ได้

podcast

LATEST
OUR PICKS
HOT
กำลังโหลดบทความถัดไป...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า