เลือกตั้ง 62 | เปิดชื่อพรรคการเมืองแปลกตา หลายคนไม่รู้จัก

นอกจากพรรคใหญ่ที่เราเห็นกันจนคุ้นตาในหน้าสื่อ จริงๆแล้วการเลือกตั้งครั้งนี้มีพรรคเข้าร่วมกว่า 104 พรรค ทีมข่าวเวิร์คพอยท์คัดสรรพรรคชื่อแปลกมาให้ดูกัน

1. พรรคคนธรรมดาแห่งประเทศไทย (คธท-Commoner Party)

ก่อตั้งโดยนายธนพร ศรียางกูร อดีตนายกสมาคมรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เมื่อปี 2557

โดยเคยให้สัมภาษณ์ที่มาของชื่อพรรคกับ TCIJ ว่า “เราไม่อยากให้คาดหวังว่าเราเป็นพระศรีอาริย์หรือผู้วิเศษที่จะมาขจัดปัดเป่า แต่อย่างให้มองว่าเราเป็นเหมือนกับพี่น้องประชาชนทั่วไป ผมอยากจะรับจ้างท่าน”

สำหรับการเลือกตั้งคร้งนี้ พรรค “คนธรรมดา” ชูนโยบายเท่าเทียมทั่วไทย เปลี่ยนแปลงโครงสร้างเพื่อแก้ปัญหาความยากจน ขับเคลื่อนการประมงอย่างยั่งยืน คืนกัญชาให้สวนหลังบ้าน จัดตั้งเขตส่งเสริมการชุมนุมเพื่อสนับสนุนให้ทุกการชุมนุมได้รับการรับฟัง

2. พรรคเงินเดือนประชาชน (งตช.-People Wage Party)

พรรคเงินเตือนประชาชนก่อตั้งตั้งแต่ปี 2552 โดยนายอิ่นแก้ว กานต์แก้ว เป็นหัวหน้าพรรค เคยถูกยุบพรรคเมื่อปี 2553 แล้วรื้อฟื้นอีกครั้ง
ปัจจุบันนางสาวกาญชนา เทียนแก้วเหรัญญิกพรรค ทำหน้าที่แทนหัวหน้าพรรค

จากการสืบค้นพบว่าเพจเฟซบุ๊กชื่อเดียวกับพรรคมีการประกาศยุติการเล่นการเมือง ผู้สื่อข่าวเวิร์คพอยท์ติดต่อจากเบอร์โทรศัพท์ที่พรรคแจ้งกับกกต.พบว่าเลขหมายไม่เปิดให้บริการ ทั้งนี้พรรคยังมีรายชื่ออยู่ในรายชื่อพรรคการเมืองที่ยังดำเนินการอยู่ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2561

3. พรรคไทยมหารัฐพัฒนา (ท.ม.ร.พ.-Thai Maharat Pattana Party)

ก่อตั้งครั้งแรกตั้งแต่ปี 2553 ปัจจุบันมีนายเชือก โชติช่วยเป็นหัวหน้าพรรค

พรรคกล่าวว่า ต้องการทำให้ประเทศไทยเป็น “ปิ่นนานาอารยประเทศ” คือเป็นชาติที่เจริญรุ่งเรืองและเป็นที่รักของชาติต่าง ๆ พร้อมชูสโลแกน “เศรษฐกิจและจิตใจ” ต้องได้รับการพัฒนาควบคู่กันโดยใช้หลักพระพุทธศาสนา

4. พรรคถิ่นกาขาว (พถกข.-Thinkakhao Party)

ไม่นานมานี้อาจจะได้ยินวลี “นารีขี่ม้าขาว” กันหนาหู ชื่อพรรคนี้มีที่มาเดียวกัน

พรรคถิ่นกาขาวจดทะเบียนตั้งแต่ปี 2555 โดยนายวิบูลย์ แสงกาญจนวนิช ผู้แต่งหนังสือ “อรรถปริวรรต”

คำว่า “ถิ่นกาขาว” ปรากฎครั้งแรกในหนังสือ “ปัญญาไทย 1” ของมหาอำมาตย์ตรีพระยาทิพโกษา (สอน โลหะนันท์) ซึ่งเป็นฉบับที่ ม.ล.พระมหาสว่าง เสนีย์วงศ์ รวบรวมในปี พ.ศ.2493 เป็นการทำนายชะตาเมืองว่าเมื่อเวลาล่วงไปจะมี 1.มหากาฬ 2.พาลยักษ์ 3.รักมิตร (รักบัณฑิต) 4.สนิทธรรม 5.จำแขนขาด 6.ราษฎร์โจร (ราชโจร) 7.ชนร้องทุกข์ 8.ยุคทมิฬ 9. ถิ่นตาขาว (ถิ่นกาขาว) และ 10.ชาวศิวิไลซ์

ปัจจุบันหัวหน้าพรรคคือ ดร.ชุมชฏาธาร หาญณรงค์ ประธานศูนย์ส่งเสริมคุณธรรมและจริยธรรมจังหวัดเชียงราย ชูนโยบายแก้ปัญหาสังคมด้วยพระธรรม ในพระพุทธศาสนา

5. พรรคคลองไทย (คล.ท.-Klong Thai Party)

พรรคคลองไทยเพิ่งก่อตั้งใหม่ ๆ ปีนี้ โดยมีนายสายันห์ อินทรภักดิ์ อดีตรองผู้ว่าฯตรังเป็นหัวหน้าพรรค

ชื่อพรรคคลองไทย เนื่องจากพรรคตั้งใจผลักดันประเด็นขุดคลองคอดกระ ซึ่งเป็นการสืบสานแนวพระราชดำริของสมเด็จพระนารายห์มหาราชและพระมหากษัตริย์อีกหลายพระองค์ เพื่อประโยชน์ทางเศรษฐกิจของชาติ

นอกจากนี้ยังชูนโยบายบริหารประเทศโยเน้นการสืบสานปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวงรัชกาลที่ 9 แก้ปัญหาราคาพลังงาน ปัญหาที่ทำกินและอื่น ๆ อีกมากมาย

6. พรรคพลังรัก ( พลร.-Powerful Love Party ) 

ก่อตั้งโดย พ.ต.ภรัณ กิตติวัฒน์ หัวหน้าพรรคซึ่งเป็นอดีตทหาร มีเลขาธิการคือนาย ขจร ภูพาน อดีตผู้นำองค์กรคริสตจักรสายธารชีวิต และมูลนิธิหมื่นทวีฟ้าสดใส

สาเหตุที่ใช้ชื่อพรรคพลังรัก หัวหน้าพรรคให้เหตุผลที่เลือกชื่อพรรคผ่านเพจเฟซ

บุ๊กว่า “เชื่อว่าหากทุกคนในชาติมีความรักซึ่งกันและกัน ความขัดแย้งต่างๆจะหาย จะไม่มีสีเสื้อต่างๆออกมาเดินประท้วงบนถนน เมื่อเรารักชาติ ทุกคนจะมุ่งมั่นเอาประโยชน์ของชาติเป็นที่ตั้งมากกว่าประโยชน์ส่วนตน เมื่อคนเรามีความรักต่อบุคคลอื่นในชาติ เหตุร้ายๆก็จะลดลง ทุกคนจะเคารพในสิทธิ ของผู้อื่นมากขึ้น การเอาเปรียบการเห็นแก่ตัวจะลดลง ที่กล่าวมาทั้งหมด…เป็นเพียงตัวอย่างเล็กๆเท่านั้น เชื่อเถิดครับ พลังของความรัก นั้นยิ่งใหญ่”

ที่ผ่านมาพรรคนี้แสดงจุดยืนในการปราบยาเสพติดและคอร์รัปชัน ส่งเสริมการพัฒนาชุมชนเพื่อสร้างคนให้เป็นผู้ให้ สร้างความเป็นอยู่มุ่งสู่ 4.0 สร้างสังคมที่น่าอยู่มุ่งสู่ชาติพันธุ์

หมายเหตุ: บทความนี้ตีพิมพ์ครั้งแรกเดือนกุมภาพันธ์ 2562