เปิดเกณฑ์ใหม่ ฉีด ‘วัคซีนไฟเซอร์’ ให้บุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้า

สธ. ยืนยันไม่มี ‘วีไอพี’ ได้ฉีดไฟเซอร์ (Pfizer) ก่อน เปิดแผนใหม่ กระจายวัคซีนให้หมอ พยาบาล ครอบคลุม นักศึกษาแพทย์ กู้ภัย สัปเหร่อ

หลังเกิดกระแสคัดค้านหลักเกณฑ์กระจายวัคซีนไฟเซอร์ (Pfizer) จำนวนกว่า 1.5 ล้านโดส ที่รัฐบาลสหรัฐอเมริกา บริจาคให้ไทย เนื่องจากมีรายละเอียดการกำหนดหลักเกณฑ์การได้รับวัคซีนไฟเซอร์ในส่วนของบุคลากรทางการแพทย์ อาทิ ไม่ให้เริ่มเข็ม 1, ให้เป็นเข็มกระตุ้นเท่านั้น รวมถึงได้รับวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าแล้ว จะไม่ได้รับไฟเซอร์

ล่าสุด วันที่ 2 ส.ค. 2564 เวลา 11.00 น. นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข แถลงว่า วัคซีนไฟเซอร์ (Pfizer) ที่ไทยได้รับจากรัฐบาลสหรัฐอเมริกา คือ 1,503,450 โดส เป็นตัวเลขทางการที่มีการแถลงโดยสถานทูตสหรัฐฯ ซึ่งเมื่อวันที่ 1 ส.ค. 64 ในการประชุมคณะอนุกรรมการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค ครั้งที่ 4/2564 ได้ออกคำแนะนำ การฉีดวัคซีนไฟเซอร์ให้บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข มีมติดังนี้

“บุคลากรทางแพทย์และสาธารณสุขด่านหน้าทุกคนที่ต้องสัมผัสผู้ป่วยโควิดจากการปฏิบัติงานทั่วประเทศ ทั้งนี้รวมถึงนักศึกษาและเจ้าหน้าที่ที่ต้องสัมผัสผู้ป่วยโควิดจากการปฏิบัติงานหรือการเรียนการสอนที่ต้องสัมผัสผู้ป่วยจริง เช่น แผนกผู้ป่วยนอก แผนกผู้ป่วยใน คลินิกทางเดินหายใจ ห้องฉุกเฉิน แผนกผู้ป่วยวิกฤต โรงพยาบาลสนาม เจ้าหน้าที่ห้องปฏิบัติการ เจ้าหน้าที่สอบสวนโรค เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน ในสถานที่กักกัน หรือปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้องกับภารกิจการดูแลผู้ป่วยโควิด-19 อื่นๆ ตามการพิจารณาของสถานพยาบาล /หน่วยงานต้นสังกัด”

โดยมีหลักเกณฑ์ในการให้วัคซีน ดังนี้

1. บุคลากรที่ได้รับวัคซีน ซิโนแวค (Sinovac) หรือ ซิโนฟาร์ม (Sinopharm) ครบ 2 เข็ม พิจารณาให้วัคซีน ไฟเซอร์ (Pfizer) กระตุ้น 1 เข็ม

2. บุคลากรที่ได้รับวัคซีนใด ๆ มาแล้วเพียง 1 เข็ม พิจารณาให้วัคซีน ไฟเซอร์ เป็นเข็มที่ 2 โดยกำหนดระยะเวลาห่างระหว่างโดส ตามชนิดของวัคซีนเข็มที่ 1 เป็นหลัก

3. บุคลากรที่ไม่เคยได้วัคซีนใดๆ มาก่อน พิจารณาให้วัคซีนไฟเซอร์ 2 เข็ม ห่างกัน 3 สัปดาห์

4. บุคลากรที่เคยติดเชื้อโควิดและไม่เคยได้รับวัคซีน พิจารณาให้วัคซีนไฟเซอร์ 1 เข็ม โดยมีระยะห่างจากวันที่พบการติดเชื้ออย่างน้อย 1 เดือน

ส่วนบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขที่เคยได้รับวัคซีน ดังต่อไปนี้ ดังต่อไปนี้ 1. วัคซีน ซิโนแวค เข็มแรกและวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า เข็มที่ 2 / หรือ 2. วัคซีน แอสตร้าเซนเนก้า 2 เข็ม/ หรือ 3. วัคซีน ซิโนแวค 2 เข็ม และได้รับเข็มกระตุ้นด้วย แอสตร้าเซนเนก้า 1 เข็ม คณะอนุกรรมการฯ พิจารณา ขณะนี้ยังไม่แนะนำให้วัคซีนไฟเซอร์เป็นเข็มกระตุ้น เพราะบุคลากรดังกล่าวยังมีภูมิคุ้มกันอยู่ในระดับสูงเพียงพอ เนื่องจากเพิ่งฉีดวัคซีน อย่างไรก็ตาม บุคลากรกลุ่มนี้ให้ขึ้นทะเบียนรายชื่อไว้ และจะมีการพิจารณาข้อมูลวิชาการ และดำเนินการให้วัคซีนไฟเวอร์ ตามข้อมูลวิชาการ และจำนวนวัคซีนที่จะเข้ามาเพิ่มในระยะต่อไป

ขณะที่ นพ.สุระ วิเศษศักดิ์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข ยืนยัน วัคซีนไฟเซอร์ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมาย บุคลากรแพทย์และสาธารณสุข ทั้งในหน่วยบริการ และภาคโรงพยาบาลสนาม บุคลากรที่บริการผู้ป่วยทั่วไปที่มีเสี่ยงจะรับเชื้อ ส่วน อาสาสมัครกู้ภัย หรือพนักงานเก็บศพ อยู่ในกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขในโควต้า 7 แสนนี้ด้วย ส่วนในกลุ่มอื่น ๆ ที่ห่วงว่าจะตกหล่นหรือไม่ ให้ประสานสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด ส่วนกรุงเทพฯ ประสานสำนักอนามัย ส่งข้อมูลมาที่กรมควบคุมโรคได้ ซึ่งถ้าวัคซีนไฟเซอร์เหลือ คณะกรรมการฯจะหารืออีกครั้งว่าจะเกลี่ยอย่างไร

ทั้งนี้ นพ.โอภาส อธิบดีกรมควบคุมโรค ตอบคำถามกรณีกระแสข่าวมีกลุ่ม “วีไอพี” ได้ฉีดวัคซีนไฟเซอร์ก่อนแล้ว ว่า “วัคซีนเราเพิ่งได้รับมาลงเครื่องบินที่สนามบินสุวรรณภูมิ ตอนตี 4 ของวันที่ 30 ก.ค. 2564 จากนั้นมีการเข้าไปเก็บที่ศูนย์คลังวัคซีนฯ ซึ่งต้องเก็บที่อุณหภูมิ ลบ 70 องศาเซสเซียส ขณะนี้วัคซีนทั้งหมดก็ยังเก็บอยู่ตรงนั้น ยังไม่ได้มีการกระจายออกไป เนื่องจากต้องมีระบบควบคุมอุณหภูมิ ดังนั้นกระแสข่าวที่ว่ามีกลุ่มบุคคลได้รับวัคซีนไฟเซอร์ จากที่ไหน อย่างไร ยืนยันว่า ไม่ใช่วัคซีนของกระทรวงสาธารณสุขที่มีการจัดสรรในรอบนี้”

ด้าน พล.อ.ต.นพ.อิทธพร คณะเจริญ เลขาธิการแพทยสภา กล่าวว่า ในส่วนสมาชิกแพทยสภาที่ลงทะเบียนรับวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า เป็นเข็ม 3 ประมาณ 200 คน ถ้าต้องการปรับเปลี่ยนวัคซีน ให้เข้าไปแจ้งที่กล่องข้อความ เพจเฟซบุ๊กของแพทยสภาจะดำเนินการแจ้งปรับเปลี่ยนให้