เปิดรายชื่อผู้ได้รับวัคซีน ‘ไฟเซอร์’ รอบต้นเดือนส.ค. กว่า 4 เเสนโดส

กระทรวงสาธารณสุขมีหนังสือด่วนที่สุด เรื่อง ขอส่งสำเนาหนังสือการจัดส่งวัคซีนไฟเซอร์ รอบต้นเดือนสิงหาคม2564 สำหรับบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข สาระสำคัญแจ้งถึงนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดทุกจังหวัด พร้อมแนบสำเนาหนังสือนำส่งวัคซีนโควิด-19 รายจังหวัด จำนวน 1 แผ่น ระบุว่า

ตามที่กระทรวงสาธารณสุข โดยกรมควบคุมโรคได้รับมอบหมายจากรัฐบาลให้ดำเนินการจัดหาและจัดส่งวัดซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 สำหรับให้บริการฉีดวัคซีนแก่ประชากรที่อาศัยอยู่ในประเทศไทยเพื่อป้องกันและควบคุมการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กระทรวงสาธารณสุข ขอจัดส่งวัคชีนวัคซีนไฟเซอร์รอบต้นเตือนสิงหาคม 2564 สำหรับบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขเพื่อลดการป่วยรุนแรงและอัตราการเสียชีวิต และปกป้องระบบสาธารณสุขของประเทศ

จึงขอให้คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดพิจารณาเร่งรัดการให้วัคซีนกับกลุ่มเป้าหมาย แบ่งเป็น 2 ประเภท ดังนี้

ประเภทที่ 1 บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขด่านหน้าทุกคนที่ต้องสัมผัสผู้ป่วยโควิด-19 จากการปฏิบัติงานทั่วประเทศ รวมทั้งนักศึกษาและเจ้าหน้าที่ที่ต้องสัมผัสผู้ป่วยโควิดจากการปฏิบัติงาน เช่น แผนกผู้ป่วยนอก แผนกผู้ป่วยใน คลินิกทางเดินหายใจ ห้องฉุกเฉิน แผนกผู้ป่วยวิกฤต โรงพยาบาลสนาม เจ้าหน้าที่ห้องปฏิบัติการ เจ้าหน้าที่สอบสวนโรค เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานในสถานที่กักกัน หรือปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้องกับภารกิจการดูแลผู้ป่วยโควิด 19 อื่นๆ ตามการพิจารณาของสถานพยาบาล/หน่วยงานต้นสังกัด โดยมีหลักการให้วัคซีน ดังนี้

1.1 บุคลากรที่ได้รับวัคซีน Snovac หรือ Sinopham ครบ 2 เข็ม อย่างน้อย 1 เดือนพิจารณาให้ วัคซีนไฟเซอร์ กระตุ้น 1 เข็ม

1.2 บุคลากรที่ได้รับวัคซีนใดๆ มาแล้วเพียง 1 เข็ม พิจารณาให้วัคซีนไฟเซอร์ป็นเข็มที่ 2 โดยกำหนดระยะห่างระหว่างโดส ตามชนิดของวัคซีนเข็มที่ 1 เป็นหลัก

1.3 บุคลากรที่เคยติดเชื้อโควิด-19 และไม่เคยได้รับวัคซีน พิจารณาให้วัคซีนไฟเซอร์ 1 เข็ม โดยมี ระยะห่างจากวันที่พบการติดเชื้ออย่างน้อย 1 เดือน

ประเกทที่ 2 บุคลากรที่ไม่เคยได้วัดซีนใดๆ มาก่อน พิจารณาให้วัคซีน Pfizer 2 เข็ม ห่างกัน 3 สัปดาห์ ทั้งนี้เนื่องจากวัคซีนจะเก็บอยู่ในอุณหภูมิ 2-8 องศาเซลเซียส ได้เพียง 1 เดือน

ดังนั้น กระทรวงสาธารณสุขจะส่งวัคซีนไฟเซอร์ สำหรับผู้รับฉีดวัคซีนคนเข็ม 2 ในกลุ่มเป้าหมายประเภท 6 ประมาณกลางเดือนสิงหาคม 2564 และหากจังหวัดได้ตรวจสอบว่ามีบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขที่มีคุณสมบัติตามกลุ่มเป้าหมายประเภทที่ 1 และ 2 เพิ่มเติมสามารถแจ้งขอรับการสนับสนุนวัคซีนเพิ่มเติมได้ที่กรมควบคุมโรค อนึ่งในกรณีที่มีวัคซีนเพียงพอสามารถจัดสรรให้กับกลุ่มเป้าหมายอื่นๆ ได้ตามที่คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดจะเห็นสมควร

นพ.สุระ วิเศษศักดิ์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะประธานคณะทำงานด้านบริหารจัดการการให้บริการวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ยืนยันว่าเป็นเอกสารจริง แต่ที่ตั้งข้อสังเกตว่าจำนวนวัคซีนอีกกว่า 2 แสนโดสหายไปไหนนั้น ไม่ได้หายไปไหน แต่ยังอยู่ในคลังรอจำนวนบุคลากรใหม่ที่จังหวัดจะแจ้งเพิ่มเติม หรือสำรองให้บุคลากรทางการแพทย์และด่านหน้าที่มีชื่อตกหล่น นอกจากนี้แล้วยังต้องกันวัคซีนไว้สำหรับเข็ม 2 สำหรับผู้ที่ฉีดไฟเซอร์เป็นเข็ม 1 ไปแล้ว ระหว่างวันที่ 4-6 สิงหาคมนี้ บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขด่านหน้าใน 76 จังหวัด จะได้รับการจัดสรรวัคซีนไฟเซอร์ล็อตบริจาคจากประเทศสหรัฐอเมริกา ไปยังหน่วยบริการ เพื่อฉีดเป็นบูสเตอร์โดส หรือ เข็ม 3 กระตุ้นภูมิคุ้มกันให้กับบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขด่านหน้าทุกระดับของหน่วยบริการ เบื้องต้น จะส่งไปจำนวน 50-70% ของบุคลากรกลุ่มเป้าหมายที่ได้ลงชื่อตามความสมัครใจไว้ในแต่ละหน่วยบริการ โดยการจัดสรรรอบนี้ กทม.ได้รับจำนวน 120,000 โดส และต่างจังหวัด 76 จังหวัด จำนวน 322,800 โดส หากพื้นที่ไหนได้รับวัคซีนแล้ว สามารถฉีดได้เลย และ แต่ละโรงพยาบาลสามารถเช็กรายชื่อบุคลากรฯ ที่ประสงค์รับวัคซีนได้เพื่อความโปร่งใส ขณะที่ประชาชนก็ตรวจสอบข้อมูลได้เช่นกันกับกรมควบคุมโรค

ขณะที่วันนี้พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษก ศบค. รายงานสถานการณ์การโควิด-19 พร้อมเปิดเผยว่า ได้มีการกระจายวัคซีนไฟเซอร์สำหรับบุคลากรทางการแพทย์ไปยังโรงพยาบาลต่างๆ ในกรุงเทพฯ ได้แก่ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์, โรงพยาบาลศิริราชฯ, โรงพยาบาลรามาธิบดี, โรงพยาบาลศิริราช ปิยมหาราชการุณย์, โรงพยาบาลราชวิถี และสถาบันบำราศนราดูร

นอกจากนี้วัคซีนไฟเซอร์ยังถูกส่งให้กับโรงพยาบาลพื้นที่ต่างจังหวัด อาทิ โรงพยาบาลพุทธโสธร จ.ฉะเชิงเทรา, โรงพยาบาลพระปกเกล้า จ.ชลบุรี, โรงพยาบาลสมุทรปราการ, โรงพยาบาลนครนายก, โรงพยาบาลสระบุรี และโรงพยาบาลระยอง

ผู้ช่วยโฆษก ศบค. กล่าวว่า วัคซีนจะนำไปฉีดวัคซีนให้กลุ่มนักเรียนไทยที่จำเป็นจะต้องเดินทางไปศึกษาต่อต่างประเทศด้วย ดังนั้นขอให้ผู้ที่เข้าข่ายที่จะได้รับวัคซีนไฟเซอร์นี้ แสกน QR Code เพื่อลงทะเบียนจากนั้นจะมี Mail และ SMS ยืนยันนัดหมายการฉีดวัคซีนกลับไปที่เบอร์โทรศัพท์ ขอให้ศึกษารายละเอียด และรีบลงทะเบียนโดยด่วน

ที่มา https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=2543502765793186&id=410961215714029&sfnsn=mo