สธ. เร่งสอบสวนสาเหตุการเสียชีวิต หลังฉีดวัคซีนไฟเซอร์เข็มแรก เบื้องต้นเข้าเกณฑ์กลุ่มผู้ป่วยเรื้อรัง มีน้ำหนักตัวมาก เสี่ยงปัญหาสุขภาพ
วันที่ 30 ส.ค. 2564 นพ.เฉวตสรร นามวาท ผอ.กองควบคุมโรค และภัยสุขภาพในภาวะฉุกเฉิน กรมควบคุมโรค กล่าวว่า กรณีที่มีผู้เสียชีวิตหลังได้รับการแดวัคซีนไฟเซอร์ ภายใน 24 ชั่วโมง เกิดขึ้นที่ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ซึ่งข่าวที่มีการนำเสนออาจจะมีความคลาดเคลื่อนว่า วัคซีนเข็มที่ 3 จากข้อเท็จจริงเป็นการฉีดวัคซีนในกลุ่มผู้ป่วยเรื้อรัง มีโรคประจำตัว กรณีที่มีผู้เสียชีวิตพบว่าเป็นผู้ที่มีน้ำหนักมาก และมีความเสี่ยงด้านสุขภาพ ได้รับการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ เข็มที่ 1 โดยขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิต
ขณะที่การสอบสวนสาเหตุการเสียชีวิต อยู่ในขั้นตอนการเก็บข้อมูลสุขภาพ ข้อมูลการฉีดวัคซีน เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิต และคณะผู้เชี่ยวชาญเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์จากการฉีดวัคซีน จะพิจารณาร่วมกันและมีข้อสรุปที่ชัดเจนว่าการเสียชีวิตมีความเกี่ยวข้องกับวัคซีนหรือไม่
นพ.เฉวตสรร กล่าวอีกว่า ส่วนความกังวลของสตรีตั้งครรภเรื่องการฉีดวัคซีน ขอให้ไว้ใจความปลอดภัยของวัคซีนทุกตัวที่องค์การอนามัยโลกรับรองสามารถฉีดได้ไม่ต้องกังวลเรื่องผลข้างเคียง มีความปลอดภัยต่อลูกในครรภ์ จึงขอให้หญิงตั้งครรภ์อายุครรภ์ 12 สัปดาห์ขึ้นไปมารับวัคซีนโดยเร็ว นอกจากนี้ ยืนยันว่าไทยมีวัคซีนเพียงพอฉีดให้กับปะชาชน ทั้งวัคซีนหลัก 124 ล้านโดส เมื่อรวมกับวัคซีนทางเลือก ซิโนฟาร์ม และโมเดอร์นา ภายในปี 2564 จะมีวัคซีนมากถึง 140 ล้านโดส และภายในเดือน ธ.ค. ทั่วประเทศจะได้รับวัคซีนเข็มแรก ครอบคลุม 70% ของจำนวนประชากร
สำหรับวัคซีนบูสเตอร์โดส เข็มที่ 3 สำหรับประชาชนทั่วไป คาดว่า ในเดือน พ.ย. 2564 ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงจะได้รับบูสเตอร์โดส จากนั้นในเดือน ธ.ค. 2564 วัคซีนเข็มที่ 3 จะกระจายได้ทั่วประเทศ แต่ยังคงขอความร่วมมือทุกคนป้องกันตัวเองให้สุงสุดตามมาตรการ เพราะโควิดสายพันธุ์เดลตา วัคซีนทุกชนิดที่มีอยู่อาจป้องกันได้ไม่ดีพอ
