ฟิลิปปินส์ตั้งหน่วยงานพิจารณา ปัดฝุ่นโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ หลังไฟฟ้าในประเทศไม่เพียงพอ

รัฐบาลฟิลิปปินส์ตั้งหน่วยงานพิจารณาความเป็นไปได้ในการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานนิวเคลียร์ ซึ่งหากเห็นชอบอาจใช้โรงไฟฟ้านิวเคลียร์เดิมที่เคยได้รับเงินสนับสนุนการก่อสร้างจากสหรัฐฯ แต่ไม่เคยได้ใช้งานมาปรับปรุง

นายโรดริโก ดูเตอร์เต ประธานาธิบดีฟิลิปปินส์สั่งตั้งหน่วยงานข้ามกระทรวง เพื่อศึกษาและรวบรวมความเห็นถึงการผลิตไฟฟ้าด้วยพลังงานนิวเคลียร์ โดยจะต้องออกรายงานฉบับแรกในเดือนมกราคมปีหน้า หลังมีข้อเสนอจากรัฐมนตรีพลังงานของฟิลิปปินส์ที่เห็นว่า พลังงานไฟฟ้าจากนิวเคลียร์อาจช่วยแก้ปัญหาไฟฟ้าในประเทศที่ไม่เพียงพอได้

นายอัลฟอนโซ คูซี รัฐมนตรีพลังงานฟิลิปปินส์ ซึ่งเป็นผู้เสนอให้ฟิลิปปินส์พิจารณาการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานนิวเคลียร์มาตั้งแต่ต้นปีที่แล้วยืนยันว่า ยังมีเวลาที่ประชาชนจะถกเถียงกันถึงความเหมาะสมในการใช้พลังงานชนิดนี้ ขณะเดียวกันหากรัฐบาลอนุมัติการใช้พลังงานนิวเคลียร์จริง ทางการก็จะต้องดำเนินการศึกษาและขอคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญอย่างรอบด้านอีกครั้ง

ในความเป็นจริงแล้วรัฐบาลฟิลิปปินส์เคยสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ โดยสร้างเสร็จมาตั้งแต่ปี 2528 ตั้งอยู่ที่จังหวัดบาตาอัน ทางตะวันตกของกรุงมะนิลา เมืองหลวงของประเทศ โดยในตอนนั้นรัฐบาลของอดีตประธานาธิบดีเฟอร์ดินานด์ มาร์กอส ได้รับการสนับสนุนในการก่อสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์แห่งนี้จากรัฐบาลสหรัฐฯ

อย่างไรก็ตาม เมื่อสร้างเสร็จเกิดการลุกฮือโค่นล้มรัฐบาลมาร์กอสของชาวฟิลิปปินส์ในปีต่อมา ประกอบกับเกิดเหตุหายนะนิวเคลียร์ที่โรงไฟฟ้าเชอร์โนบิล ทำให้แผนการผลิตไฟฟ้าด้วยพลังงานนิวเคลียร์จากโรงไฟฟ้าแห่งนี้ต้องล้มเลิกไป ซึ่งตัวอาคารและระบบต่างๆ ยังคงมีอยู่ แต่ล้าสมัยไปตามกาลเวลา โดยปัจจุบันผู้ดูแลเปิดให้ผู้สนใจเข้าไปชมภานในอาคารได้

ข้อมูลระบุว่า บริษัทเวสติ้งเฮาส์ บริษัทสัญชาติอเมริกันที่เข้าไปสร้างเตาปฏิกรณ์ให้กับโรงไฟฟ้าบาตาอันล้มละลายไปแล้วเมื่อ 3 ปีก่อน อย่างไรก็ตาม หลักการของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์แห่งนี้ยังเป็นระบบที่มีการใช้งานในโรงไฟฟ้านิวเคลียร์หลายแห่งในญี่ปุ่น

แม้ไม่เคยผ่านการใช้งาน แต่อาจเรียกได้ว่า โรงไฟฟ้านิวเคลียร์บาตาอันเป็นโรงไฟฟ้านิวเคลียร์แห่งเดียวในภูมิภาคอาเซียน โดยมีกำลังผลิตไฟฟ้าเทียบเท่ากับโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ขนาดเล็ก ซึ่งนับตั้งแต่ปีที่แล้ว รัฐบาลฟิลิปปินส์เดินหน้าปรึกษาผู้เชี่ยวชาญจากทั้งเกาหลีใต้และรัสเซียถึงความเป็นไปได้ของการผลิตไฟฟ้าด้วยพลังงานนิวเคลียร์ในประเทศ ขณะเดียวกันรัฐบาลฟิลิปปินส์ยังเคยส่งรายงานด้านนโยบายนิวเคลียร์ไปยังทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ (IAEA) โดยพูดถึงแผนดำเนินงานตามกฎหมาย การทำความเข้าใจกับประชาชน ไปจนถึงแผนฟื้นฟูสาธารณูปโภคที่เกี่ยวข้อง ซึ่งน่าจะหมายถึงโรงไฟฟ้านิวเคลียร์บาตาอันที่มีอยู่แล้ว

ที่ผ่านมารัฐบาลฟิลิปปินส์พยายามแก้ไขปัญหาไฟฟ้าไม่เพียงพอในประเทศ โดยเริ่มเปิดให้ภาคเอกชนเข้าไปลงทุนด้านการผลิตไฟฟ้า แต่ก็ต้องประสบปัญหาเนื่องจากการลงทุนผลิตไฟฟ้าใช้เงินลงทุนสูง ทำให้ภาคเอกชนไม่สนใจเท่าที่ควร ขณะที่แนวทางการผลิตไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ยังถูกบางกลุ่มคัดค้าน เช่นสมาชิกวุฒิสภาริซา ฮอนติเวรอส ที่มองว่าพลังงานนิวเคลียร์ไม่ใช่เทคโนโลยีแห่งอนาคต แต่เป็นเทคโนโลยีในอดีต พร้อมย้ำว่า ฟิลิปปินส์มีทรัพยากรในประเทศมากพอที่จะนำมาใช้ผลิตพลังงาน และรัฐบาลควรให้ความสำคัญกับการใช้พลังงานทดแทนมากกว่า