อังกฤษชี้ วัคซีนแอสตร้าฯ-ไฟเซอร์ ป้องกันโควิดสายพันธุ์อินเดียได้ หากฉีดครบ 2 โดส

สาธารณสุขอังกฤษเปิดผลการศึกษาชิ้นใหม่ พบวัคซีนที่ใช้อยู่มีประสิทธิภาพในการป้องกันโควิดสายพันธุ์อินเดียได้ หลังฉีดครบ 2 โดสไปแล้ว 2 สัปดาห์

วันที่ 23 พ.ค. 2564 สำนักข่าวสกาย (Sky News) รายงานผลการศึกษาของสาธารณสุขอังกฤษ (Public Health England) ที่เผยว่า วัคซีนหลักที่ใช้ในสหราชอาณาจักรอย่าง แอสตร้าเซนเนก้า (AstraZeneca) และ ไฟเซอร์ (Pfizer) มีประสิทธิภาพในการป้องกันโรคจากเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์ที่ตรวจพบครั้งแรกในอินเดีย ได้ดีไม่ต่างจากสายพันธุ์ที่พบในอังกฤษ กรณีที่ได้รับวัคซีนครบทั้ง 2 โดสแล้ว

ผลการศึกษาชิ้นนี้มาจากการวิเคราะห์ตัวอย่างเชื้อจำนวน 12,675 ตัวอย่าง โดยมี 1,054 ตัวอย่างเป็นเชื้อสายพันธุ์อินเดีย ระหว่างวันที่ 5 เม.ย. – 16 พ.ค. ระบุว่า วัคซีนของไฟเซอร์สามารถป้องกันการเกิดอาการป่วยจากโควิดสายพันธุ์อินเดียได้ 88% หลังฉีดโดสที่ 2 ไปแล้ว 2 สัปดาห์ และป้องกันโควิดสายพันธุ์อังกฤษได้ 93%  

ส่วนวัคซีนของแอสตร้าเซนเนก้าป้องกันโควิดสายพันธุ์อินเดียได้ 60% และป้องกันโควิดสายพันธุ์อังกฤษได้ 66%  

อย่างไรก็ตาม หากฉีดวัคซีนยี่ห้อใดยี่ห้อหนึ่งเพียง 1 โดส จะมีประสิทธิภาพในการป้องกันโควิดสายพันธุ์อินเดียเพียง 33% เท่านั้น ในระยะเวลา 3 สัปดาห์หลังฉีด  ขณะที่สามารถป้องกันโควิดสายพันธุ์อังกฤษได้ 50%

ผลการศึกษาชิ้นนี้ ทำให้ แมตต์ แฮนค็อก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข แสดงความมั่นใจว่าจะผ่อนคลายล็อกดาวน์เพิ่มเติมในวันที่ 21 มิ.ย. ได้ตามที่วางแผนไว้ หลังทราบว่าวัคซีนที่มีอยู่นั้น สามารถรับมือกับโควิดสายพันธุ์อินเดียได้

ปัจจุบันอังกฤษกำลังเร่งฉีดวัคซีนโดสที่ 2 ให้กับกลุ่มผู้ที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป และกลุ่มที่มีโรคประจำตัว หลังจากที่ก่อนหน้านี้เคยพยายามที่จะเร่งฉีดวัคซีนโดสแรกให้มากที่สุดก่อน