ฟิลิปปินส์เผยแผ่นดินไหวที่จังหวัดอาบรา มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 4 ราย และได้รับบาดเจ็บกว่า 60 ราย

ความคืบหน้าเหตุการณ์แผ่นดินไหวทางตอนเหนือของฟิลิปปินส์ในช่วงเช้าของวันนี้ ล่าสุดทางการเผยตัวเลขผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 4 ราย และได้รับบาดเจ็บมากกว่า 60 ราย

จากการเปิดเผยของสถาบันภูเขาไฟวิทยาและแผ่นดินไหววิทยาแห่งฟิลิปปินส์ (PHIVOLCS) เหตุการณ์แผ่นดินไหวดังกล่าวเกิดขึ้นที่จังหวัดอาบราทางตอนเหนือ เมื่อเวลา 08.43 น. ตามเวลาท้องถิ่น (07.43 น. ในไทย) วัดความรุนแรงได้ 7.0 แมกนิจูด โดยในช่วงแรก PHIVOLCS รายงานความรุนแรงของแผ่นดินไหวอยู่ที่ 7.3 แมกนิจูด และศูนย์กลางแผ่นดินไหวอยู่ที่เมืองลากังกิลัง ต่อมารายงานฉบับใหม่ได้เปลี่ยนศูนย์กลางแผ่นดินไหวมาเป็นเมืองทายุม และเกิดขึ้นที่ระดับความลึก 17 กิโลเมตร

แรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหวสามารถรับรู้ได้ในหลายพื้นที่บนเกาะลูซอนหลัก ซึ่งรวมถึงเขตมหานครมะนิลา โดยอาคารสูงมีการสั่นไหว การขนส่งทางรถไฟถูกระงับดำเนินการ พนักงานในสำนักงานหลายแห่งรวมถึงทำเนียบประธานาธิบดีต่างตื่นตระหนกและวิ่งหนีออกจากอาคาร อีกทั้งแรงสั่นสะเทือนยังสามารถรับรู้ได้ในหลายจังหวัด อาทิ อีโลโคสซูร์ ปังกาซีนัน นูเอวาวิซคายา บูลาคัน ลากูนา และคาวีเต

ขณะที่ความเสียหายจากแผ่นดินไหวครั้งนี้ เบนจามิน อบาลอส รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยของฟิลิปปินส์ ได้ออกมายืนยันว่าพบผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 4 ราย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บมากกว่า 60 ราย อีกทั้งยังทำให้เกิดดินถล่ม และสร้างความเสียหายให้กับอาคารบ้านเรือนจำนวนมาก

โจเซฟ เบอร์นอส นายกเทศมนตรีเมืองลาปาซของจังหวัดอาบรา ระบุว่าแผ่นดินไหวส่งผลกระทบครั้งใหญ่ต่ออาบรา โดยบ้านเรือน อาคาร และโครงสร้างพื้นฐานที่สร้างด้วยคอนกรีตต่างได้รับความเสียหายหลายแห่ง รวมถึงอาคารบางส่วนของมหาวิทยาลัยอาบรา

แรงสั่นสะเทือนยังก่อให้เกิดความเสียหายต่อโครงสร้างเก่าแก่นับศตวรรษในเมืองวีกัน จังหวัดอีโลโคสซูร์ ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่อเรื่องสถาปัตยกรรมยุคอาณานิคมสเปนและเอเชียที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้ บนชายฝั่งตะวันตกของเกาะลูซอน

เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นเมืองบาเกียวทางตอนเหนือของฟิลิปปินส์ ระบุว่าถนนเคนนอน ซึ่งเป็นถนนสายสำคัญที่เชื่อมเมืองบาเกียวกับกรุงมะนิลา ได้ปิดการสัญจรขณะมีการประเมินความเสียหาย

ด้านโรส เบียทริกซ์ ครูซ-แองเจเลส เลขาธิการฝ่ายสื่อมวลชนของประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ ระบุว่าเฟอร์ดินานด์ โรมวลเดซ มาร์กอส ประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ มีกำหนดเดินทางไปยังภูมิภาคที่ได้รับผลกระทบในวันพุธ (27 ก.ค.)

เรนาโต โซลิดัม หัวหน้าสถาบันฯ เตือนว่าแผ่นดินไหวครั้งนี้อาจก่อให้เกิดอาฟเตอร์ช็อกหลายครั้ง โดยเขากระตุ้นประชาชนและเจ้าหน้าที่รัฐท้องถิ่นเฝ้าระวังสถานการณ์ ตรวจสอบอาคารเพื่อหารอยร้าว และระวังดินถล่ม โดยเฉพาะเมื่อฝนตก พร้อมเรียกร้องชาวบ้านเดินทางออกจากพื้นที่เสี่ยงเกิดเหตุดินถล่ม

ทั้งนี้ ฟิลิปปินส์เผชิญเหตุแผ่นดินไหวบ่อยครั้ง เนื่องจากตั้งอยู่ในบริเวณที่เรียกว่า “วงแหวนแห่งไฟ” ของมหาสมุทรแปซิฟิก โดยเมื่อวันที่ 16 ก.ค. 1990 เกิดเหตุแผ่นดินไหวความรุนแรง 7.8 แมกนิจูด บริเวณทางตอนเหนือของเกาะลูซอน ส่งผลให้เกิดพื้นดินแตกร้าวเป็นระยะทาง 125 กิโลเมตร ทอดยาวจากจังหวัดออโรราไปยังนูเอวาวิซคายา คร่าชีวิตผู้คนไปราว 1,200 ราย และสร้างความเสียหายต่ออาคารและบ้านเรือนหลายแห่ง