‘PHILIPS’ กุญแจแห่งความสำเร็จ สู่นวัตกรรมทางการแพทย์

PHILIPS เป็นผู้ผลิตเครื่องใช้อิเล็กทรอนิกส์สัญชาติดัตช์ที่อยู่ในตลาดประเทศไทยมายาวนาน ซึ่งเราจะคุ้นหน้าคุ้นตากับการเป็นแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้า หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์มากกว่า อย่างไรก็ตาม PHILPIS เติบโตขึ้น กลายเป็นแบรนด์ที่เป็นมากกว่าเครื่องใช้ไฟฟ้าทั่วไป และ ‘เครื่องมือแพทย์’ คือหนึ่งใน core ธุรกิจที่สำคัญของแบรนด์นี้ด้วยในปัจจุบัน

‘วิโรจน์ วิทยาเวโรจน์’ ประธานและกรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟิลิปส์ (ประเทศไทย) จำกัด ได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนในหัวข้อ “กุญแจแห่งความสำเร็จของฟิลิปส์ กับนวัตกรรมทางการแพทย์ล่าสุด” รวมถึงประเด็นเรื่องเครื่องมือแพทย์ และเทคโนโลยี AI ทั้งหมด 4 ประเด็นใหญ่

[ เทรนด์ธุรกิจเครื่องมือแพทย์ และความสำคัญของเทคโนโลยี AI ]

‘วิโรจน์’ ได้เผยผลสำรวจ Future Health Index 2024 และพบว่าผู้นำด้านเฮลท์แคร์ของเอเชียแปซิฟิกส่วนมากให้ความเห็นในเรื่องด้านบริการทางการแพทย์ที่มีความล่าช้า สาเหตุหลักมาจากการขาดแคลนบุคลากร และข้อจำกัดด้านการเงิน ทำให้ผู้นำด้านเฮลท์แคร์ของภูมิภาคนี้ รวมถึง PHILIPS ต่างให้ความสำคัญในการนำเทคโนโลยี AI มาใช้เพื่อสนับสนุนการทำงานของบุคลากร

โดยได้เผยถึงนวัตกรรมทางการแพทย์ล่าสุดของ PHILIPS ที่น่าสนใจ ตัวอย่างเช่น

• MR7700 เป็นเครื่อง MRI รุ่นล่าสุดของฟิลิปส์ ลักษณะจุดเด่นที่เทคโนโลยี AI และเทคโนโลยี SmartSpeed ที่ช่วยให้สแกนได้เร็วขึ้น 3 เท่า และได้ภาพคมชัดมากขึ้น 65% และ “Philips SENSE” ที่จะช่วยให้แพทย์วินิจฉัยอาการของผู้ป่วยได้ตั้งแต่ระยะเริ่มต้น หรือจะใช้สำหรับการวิจัยทางคลินิกก็ได้
• Ingenia Ambition MR 1.5T เป็น MRI เครื่องแรกของโลกที่ลดการใช้ก๊าซฮีเลียมจาก 1500 ลิตร เหลือเพียง 7 ลิตร ด้วยเทคโนโลยี Blue Seal ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของนวัตกรรมฟิลิปส์ที่คิดค้นขึ้นมาเพื่อสร้างความยั่งยืนให้กับวงการสาธารณสุขโดยเฉพาะ
• Spectral CT 7500 เป็นเครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ที่ใช้เทคโนโลยีตรวจจับสเปกตรัม ทำให้ภาพคมชัด สามารถตั้งค่าการใช้รังสีที่เหมาะสม และสามารถตรวจวินิจฉัยได้รวดเร็วขึ้น 34% และยังสามารถใช้สำหรับตรวจผู้ป่วยได้หลากหลายมากขึ้น
• EPIQ CVx VM 11 เครื่องอัลตร้าซาวด์หัวใจรุ่นล่าสุด ที่มีฟีเจอร์ที่เพิ่มขึ้น ภาพคมชัดขึ้น และสแกนได้เร็วขึ้น ในขณะที่ให้ผลอย่างแม่นยำ และมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ก็มาพร้อมแอพลิเคชั่น AI ที่ได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยาสหรัฐอเมริกา 
• Azurion7 เครื่องตรวจสวนหลอดเลือดหัวใจรุ่นล่าสุด ที่ช่วยให้การผ่าตัดที่ซับซ้อนและง่ายขึ้นด้วยการแสดงผลภาพทั้งแบบ 2 มิติ และ 3 มิติ และเทคโนโลยี “Echo Navigator” เพื่อช่วยสนับสนุนทีมแพทย์ในการทำหัตถการสำหรับโรคหัวใจที่มีรูปร่างผิดปกติ (Structural Heart) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ 
• Zenition 90 Motorized เป็นเครื่องเอกซเรย์ฟลูโอโรสโคปเคลื่อนที่แบบซีอาร์ม โดดเด่นด้านการทำงานที่รวดเร็ว ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นและอิสระในการใช้งานให้กับศัลยแพทย์ นอกจากนี้ยังมาพร้อมเทคโนโลยีในการสร้างภาพที่จะเพิ่มประสิทธิภาพทางคลินิกได้มากขึ้นด้วยการทำงานอัตโนมัติ รวมถึงเทคโนโลยี “Philips BodySmart” ซึ่งสามารถกำหนดการปล่อยรังสีในปริมาณที่เหมาะสมกับผู้ป่วยแต่ละคน เพื่อความปลอดภัยของผู้ป่วยเด็ก
• IntelliSpace Critical Care (ICCA) สำหรับหอผู้ป่วยวิกฤต เป็นระบบสารสนเทศสำหรับเฝ้าติดตามอาการผู้ป่วย มีระบบจัดเก็บข้อมูลผู้ป่วยเพื่อส่งไปยังศูนย์ควบคุมในแผนก และมีเทคโนโลยี AI ในการประเมินแนวโน้มอาการผู้ป่วยเพื่อส่งไปแจ้งเตือนเจ้าหน้าที่ในวอร์ด โดยที่เจ้าหน้าที่ไม่จำเป็นต้องเข้าไปสัมผัสผู้ป่วยบ่อยเกินไป และไม่ต้องกรอกเอกสารให้วุ่นวายอีกด้วย
• IntelliSpace Cardiovascular (ISCV) เพื่อใช้ในการจัดเก็บข้อมูลของผู้ป่วยโรคหัวใจที่มาตรวจวินิจฉัยในโรงพยาบาล สามารถจัดเก็บข้อมูลทั้งจากเครื่องอัลตร้าซาวด์ เครื่อง MRI และอื่นๆ นำมาประมวลผล เพื่อให้แพทย์สามารถเรียกดูข้อมูลและประเมินการดูแลรักษาต่อไป โดยผู้ป่วยก็ไม่ต้องยุ่งยากในการรอผลตรวจนาน หรือต้องนำเอกสารไปแต่ละแผนก
• IntelliVue MX850 เครื่องติดตามสัญญาณชีพข้างเตียงผู้ป่วย สามารถแสดงผลได้หลากหลายฟังก์ชั่นพร้อมกัน ออกแบบมาเพื่อรองรับการใช้งานกับผู้ป่วยที่มีอาการซับซ้อน หรือต้องเข้ารับการผ่าตัด มาพร้อมออพชั่น “Visual Patient Avatar” ด้วยการแสดงผลข้อมูลผู้ป่วยในรูปแบบแอนิเมชั่น โดยใช้สีและรูปร่างแทนการแสดงผลข้อมูลแบบ Data เพื่อความสะดวกและรวดเร็วในการอ่านผล โดยเฉพาะในกรณีที่ผู้ป่วยต้องเข้ารับการผ่าตัด
• IntelliVue MX40 เครื่องติดตามสัญญาณชีพแบบสวมใส่ ออกแบบให้เหมาะสำหรับผู้ป่วยที่สามารถเดินได้ ให้สะดวกสามารถเคลื่อนย้ายเครื่องได้ด้วยตัวเอง น้ำหนักเบาและมีขนาดเล็ก สามารถใช้งานได้โดยไม่ต้องเสียบสายไฟตลอดเวลา

[ อะไรคือกุญแจแห่งความสำเร็จของฟิลิปส์ ประเทศไทย ]

ในระหว่างการให้สัมภาษณ์ ‘วิโรจน์’ ได้เผยถึงปัจจัยหลักสำคัญที่ทำให้ ฟิลิปส์ ประเทศไทย ประสบความสำเร็จได้ โดยมาจาก 3 ปัจจัยหลัก คือ 

1. นวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย และการนำเทคโนโลยี AI มาไว้ในนวัตกรรมต่างๆ อย่างเช่น เครื่องตรวจสวนหลอดเลือดหัวใจ (Philips Azurion) หรือเครื่อง Cath Lab ที่มาพร้อมเทคโนโลยี EchoNavigator และเครื่อง MR7700 พร้อมกับเทคโนโลยี Smart Speed 
2. การส่งโซลูชั่นส์ที่ครอบคลุมทั้งเครื่องมือแพทย์ และระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อการจัดเก็บข้อมูล และเชื่อมต่อกับผู้ป่วยในโรงพยาบาล หรือโรงพยาบาลในเครือ เพื่อประสิทธิภาพในการดูแลรักษาผู้ป่วยให้สะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น
3. การร่วมมือกับบุคลากรทางการแพทย์ และโรงพยาบาลชั้นนำในประเทศไทย ผ่านการจัดงานประชุมวิชาการด้านเฮลท์แคร์ เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้และความคิดเห็นต่อแนวทางการดูแลรักษาผู้ป่วย และการนำเทคโนโลยีทางการแพทย์มาใช้ ทั้งในระดับประเทศและระดับนานาชาติ  ต่อยอดการพัฒนานวัตกรรมในอนาคต

ซึ่งผลงานในปี 2023 PHILIPS สามารถทำได้เกินเป้าที่ตั้งไว้ และเติบโตแบบ ‘Double-Digit’ สำหรับในปีนี้มีแนวโน้มว่ายังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องเมื่อเปรียบเทียบครึ่งปีแรก 2023 กับครึ่งปีแรก 2024 ที่เติบโตไปมากกว่า 10% 

สำหรับไฮไลท์ผลิตภัณฑ์เด่นๆ ในปีที่ผ่านมา สามารถครองส่วนแบ่งการตลาดอยู่ใน Top 3 ในขณะที่พอร์ทโฟลิโอในกลุ่มเครื่องมือแพทย์ที่เกี่ยวข้องกับการตรวจและรักษาโรคหัวใจ (Cardiovascular Care) เป็นกลุ่มที่เติบโตมากที่สุด เช่น กลุ่มผลิตภัณฑ์ Image Guided Therapy (IGT) ที่เติบโตกว่า 40% ในปี 2023 เมื่อเทียบกับปี 2022 และกลุ่มเทคโนโลยีสารสนเทศ (Informatics) ก็เติบโตกว่า 40% ในปี 2023 เช่นกัน

[ ทิศทางตลาดเครื่องมือแพทย์ในประเทศไทย ]

เนื่องจากประเทศไทยกำลังเข้าสู่ยุคสังคมผู้สูงอายุโดยสมบูรณ์ ทำให้มีแนวโน้มของโรคไม่ติดต่อเรื้อรังเพิ่มสูงขึ้น และความต้องการบริการสาธารณสุขเพิ่มขึ้น รวมถึงนักท่องเที่ยวที่มาดูแลสุขภาพกลับมาเพิ่มขึ้นเกือบเท่ากับก่อนสถานการณ์โควิด จึงส่งผลให้ภาพรวมตลาดเครื่องมือแพทย์เพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน

ข้อมูลจากศูนย์วิจัยกรุงศรี พบว่ามูลค่าตลาดเครื่องมือแพทย์ในประเทศไทย รวมส่งออกมีมูลค่ามากกว่า 200,000 ล้านบาท และคาดการณ์ว่าในปีพ.ศ. 2566-2568 ตลาดเครื่องมือแพทย์ของไทยจะเติบโตเฉลี่ย 5.5-7.0% ต่อปี 

นอกจากทั้ง 4 ประเด็นหลักที่วิโรจน์ได้นำเสนอไป ยังมีประเด็นอื่นที่น่าสนใจอีก โดยเราสรุปไว้ดังนี้ 

• กลยุทธ์ทางธุรกิจของฟิลิปส์ ประเทศไทย ในปีนี้จะให้ความสำคัญกับการนำเสนอโซลูชั่นส์ที่ครอบคลุมทั้งด้านเครื่องมือแพทย์และเทคโนโลยีสารสนเทศ ไปพร้อมๆ กับการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดกับบุคลากรทางการแพทย์ นอกจากนี้ยังให้ความสำคัญกับบริการหลังการขาย ซึ่งเป็นจุดที่สร้างความแตกต่างให้กับเรา เมื่อเทียบกับคู่แข่ง 
• ภาพรวมของธุรกิจเฮลท์แคร์ในประเทศไทยถือว่าได้รับผลกระทบน้อยที่สุดเมื่อเทียบกับกลุ่มธุรกิจอื่นๆ ดังนั้นทางฟิลิปส์จึงยังไม่มีความกังวลในเรื่องของภาพรวมธุรกิจ หากจะมีความท้าทายน่าจะเป็นเรื่องของการจัดสรรงบประมาณในปีต่อๆ ไป ว่าจะจัดสรรมาทางสาธารณสุขลดลงหรือไม่
• เครื่องมือแพทย์ของฟิลิปส์ที่ส่งขายทั่วโลกกว่า 90% มาจากอเมริกาและยุโรป
• สัดส่วนพอร์ทโฟลิโอเครื่องมือแพทย์ของฟิลิปส์ในปัจจุบัน พอร์ท์ที่ใหญ่สุดก็จะเป็นกลุ่มเครื่องมือที่เกี่ยวกับโรคหัวใจ Cardiovascular Care ประมาณ 50%
• กลุ่มลูกค้าของฟิลิปส์ เป็นกลุ่มโรงพยาบาล โดยส่วนใหญ่เป็นโรงพยาบาลรัฐ โดยเฉพาะโรงพยาบาลที่เป็นโรงเรียนแพทย์ ประมาณ 70% และโรงพยาบาลเอกชน ประมาณ 30%

และได้ทิ้งท้ายไว้ว่า “สำหรับฟิลิปส์ ต้องถือว่าประเทศไทย ก็เป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดเมื่อเทียบในกลุ่มอาเซียน หรือประมาณอันดับ 3-4 ในกลุ่มเอเชียแปซิฟิก (APAC)”