พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกลแสดงความคิดเห็นกรณีนิสิตนักศึกษาชุมนุมและเรียกร้องต่อสถาบันฯ ชี้ 10 ข้อเรียกร้องของนักศึกษาสามารถหาทางออกได้โดยสันติวิธี ร้องสถานศึกษาต้องอดทนอดกลั้น-อย่าผลักไสผู้ชุมนุมออกจากพื้นที่ปลอดภัย
หลังการชุมนุม #ธรรมศาสตร์จะไม่ทน ที่จัดขึ้นวันที่ 10 สิงหาคม 2563 เกิดเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ตลอดวัน วันที่ 11 สิงหาคม 2563 พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ในรายการ One-On-One ของ the101.world
“จุดยืนของพรรคก้าวไกลก็คือว่าเราไม่เชื่อว่ามันจำเป็นที่จะต้องเกิดการนองเลือด หรือว่าเกิดความรุนแรงเสมอไป” พิธากล่าว “ถ้าคนที่มีอำนาจ มีปืนอยู่ในมือไม่คิดที่จะทำรุนแรงกับอนาคตของตัวเอง แต่เพิ่มความอดทนอดกลั้นของตัวเองเพื่อที่จะไม่ฆ่าอนาคตของคนที่ต่างยุคต่างสมัยของเรามันก็สามารถที่จะทำให้ประวัติศาสตร์ไม่ซ้ำรอยได้”
หัวหน้าพรรคก้าวไกลยืนยันว่าหากสังคมมีความอดทนอดกลั้นจะทำให้พูดคุยเรื่องนี้ “ได้อย่างมีสันติและอย่างสงบสุขได้” พร้อมย้ำ “จุดยืนของพรรคก้าวไกลก็ยังคิดว่า 10 ข้อที่นักศึกษาเรียกร้องมา จะชอบใจหรือไม่ชอบใจ จะทำได้หรือจะทำไม่ได้ จะถึงเวลาหรือไม่ถึงเวลาก็เป็นสิ่งที่พูดคุยได้ในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข”
นอกจากนี้ยังกล่าวว่าสถานศึกษาไม่ควรผลักผู้ชุมนุมออกจากพื้นที่ปลอดภัย “ตรงนี้มันเป็นอะไรที่อันตรายมากและสักวันหนึ่งประเทศก็จะมาถึงทางตัน”
ความเห็นของพิธา มาหลังข้อถกเถียงเรื่องความเหมาะสมของข้อเรียกร้องเกี่ยวกับสถาบันของนิสิตนักศึกษากลายเป็นประเด็นร้อนตลอดทั้งวัน พรรคกล้าของนายกรณ์ จาติกวณิชยืนยันว่าผู้ชุมนุมและรัฐต้องหาทางออกตรงกลาง โดยมีข้อแม้ว่าทางฝั่งผู้ชุมนุม “ต้องไม่จาบจ้วง ชุมนุมตามกรอบกฎหมายทำได้”
ด้านนายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์แสดงความกังวลถึง “การหมิ่นเหม่ต่อการจาบจ้วงสถาบันเบื้องสูง” อาจนำไปสู่ความขัดแย้งในสังคม
ขณะที่ The Reporters รายงานว่าคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวต่อประเด็นนี้ว่า “ไม่ควรก้าวล่วงไปถึงสถาบันพระมหากษัตริย์
ที่จะนำมาซึ่งความขัดแย้ง แตกแยกของคนในชาติ จนอาจเป็นเหตุของการรัฐประหารยึดอำนาจอีกครั้ง”