“พิธา” นำ 55 ส.ส.อดีตอนาคตใหม่แจง เพราะไม่ไว้วางใจจึงมาโหวต

ส.ส.อดีตพรรคอนาคตใหม่ เตรียมตั้งพรรคใหม่ยังอุบชื่อ เผยตอนนี้เหลือ 55 คน มั่นใจเหนี่ยวแน่น พร้อมชี้แจงกรณีเข้าร่วมโหวตอภิปรายไม่ไว้วางใจ 

วันที่ 28 กุมภาพันธ์ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ นำ 55 ส.ส. อดีตพรรคอนาคตใหม่ แถลงปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีรายบุคคล โดยสรุปยืนยันที่ ส.ส.ของอดีตพรรคอนาคตใหม่มาโหวตญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลเพื่อทำหน้าที่ของผู้แทนราษฎร ประชาชนส่งข้อความมาหาให้ทำหน้าที่ผู้แทนราษฎรให้เต็มที่ แม้เราจะเป็นเสียข้างน้อยแต่เรายังสู้ในสภา เชื่อจากตัวเลขผลลงมติอาจส่งผลให้มีการปรับคณะรัฐมนตรี พอใจการอภิปรายที่ได้ส่งต่อข้อมูลทำให้เกิดการตื่นตัวของประชาชน

ส.ส. แกนนำของอดีตพรรคอนาคตใหม่ กล่าวเสริมในประเด็นนี้ว่า ไม่ทราบมติของพรรคร่วมฝ่ายค้าน เนื่องจากหลังการวอล์กเอาต์จากสภาเมื่อวานไม่ได้เข้าร่วมประชุมด้วย แต่จากญัตติไม่ไว้วางใจรัฐบาล ถ้างดหรือไม่มาร่วม จะไม่สอดคล้องกับญัตติ การมาโหวตถูกต้องแล้ว

ส่วนกรณีกับพรรคเพื่อไทย เรื่องเวลาอภิปรายที่ทำให้ ส.ส.ของอดีตพรรคอนาคตใหม่ไม่ได้อภิปราย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ และ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา นายพิธา ระบุว่า ได้มีการพูดคุยกันแล้ว หาทางที่จะทำงานร่วมกันได้ในภาพใหญ่ ส่วนรายละเอียดก็เคารพซึ่งกันและกัน

ขณะที่ อดีตรองเลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ระบุว่า วันที่ 4 มีนาคม แกนนำอดีตอนาคตใหม่นัดเลี้ยงขอบคุณแกนนำพรรคฝ่ายค้านทั้งหมด ซึ่งไม่ได้เกี่ยวอะไรกับการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ยืนยันไม่ได้มีปัญหาอะไรกัน และคงมีโอกาสได้พูดคุยกันเรื่องนี้

ทั้งนี้ นายพิธา ระบุด้วยว่า ขณะนี้ ส.ส.ของอดีตพรรคอนาคตใหม่ล่าสุดมี 55 คน โดย 9 คนย้ายไปสังกัดพรรคภูมิใจไทย ส่วนอีก 1 คน คือคนที่ไม่ได้มาร่วมแถลงข่าวในวันนี้

นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ กล่าวว่า คนสำคัญคือคนที่อยู่ ต่อให้เรารู้สึกอย่างไร คนที่ไปเขาก็ไม่กลับมา

ด้านนายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ ระบุว่า น่าเสียใจที่ตนไม่มีโอกาสได้อภิปราย พล.อ.ประวิตร ในสภาไม่เช่นนั้นคะแนนที่ได้อาจไม่เท่านี้ เมื่อถามว่า กลัวหรือไม่ที่อภิปรายนอกห้องประชุมสภา ซึ่งจะไม่มีเอกสิทธิ์ ส.ส.คุ้มครอง นายรังสิมันต์ ตอบว่า เลยจุดคำว่ากลัวไปแล้ว กินเงินเดือนภาษีประชาชนเดือนละแสนกว่าบาท ต้องทำหน้าที่เต็มที่

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เช็กเสียงฝ่ายค้านไว้วางใจรัฐบาล “เพื่อไทย-เสรีรวมไทย-อดีตอนาคตใหม่”