SHARE

คัดลอกแล้ว

สรุปการแถลงข่าว จัดตั้ง ‘รัฐบาลประชาธิปไตยของประชาชน’ ที่นำโดย นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล โรงแรมโอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพ ซึ่งเริ่มต้นการแถลงข่าวในเวลาประมาณ 10.29 น. พร้อมหัวหน้าพรรค 7 พรรคการเมืองร่วมรัฐบาลกับพรรคก้าวไกล ประกอบด้วย

– นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย

– คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย

– พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย

– นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ

– นายปิติพงษ์ เต็มเจริญ หัวหน้าพรรคเป็นธรรม

– นายเชาวฤทธิ์ ขจรพงศ์กีรติ หัวหน้าพรรคพลังสังคมใหม่

– นายวสวรรธน์ พวงพรศรี หัวหน้าพรรคเพื่อไทรวมพลัง

นายพิธา กล่าวโดยสรุปถึง 8 พรรคการเมืองข้างต้นว่า จากผลคะแนนไม่เป็นทางการ มีจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร รวมกัน 313 คน

“พวกเราทุกพรรคขอขอบคุณทุกเสียงที่ประชาชนมอบให้ เสียงของประชาชนทุกเสียงคือเสียงแห่งความหวัง คือเสียงแห่งการเปลี่ยนแปลง รัฐบาลชุดใหม่จะทำหน้าที่อย่างซื่อสัตย์ต่ออำนาจของประชาชน และเราจะเป็นรัฐบาลของคนไทยทุกคน”

ทุกพรรคประกาศ จัดตั้ง ‘รัฐบาลประชาธิปไตยของประชาชน’ ร่วมกัน ดังนี้

1. ทุกพรรคเห็นชอบที่จะสนับสนุนหัวหน้าพรรคก้าวไกล คือ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ตามเสียงข้างมากจากผลการเลือกตั้ง

2. ทุกพรรคจะจัดทำข้อตกลงร่วม หรือ MOU ในการจัดตั้งรัฐบาล เพื่อแสดงถึงแนวร่วมในการทำงานร่วมกัน และวาระร่วมของทุกพรรคและจะแถลงต่อสาธารณชน วันที่ 22 พ.ค. ที่จะถึงนี้ เพื่อแก้ไขวิกฤติทางการเมือง เศรษฐกิจและสังคม

3. ทุกพรรคจะจัดตั้งคณะทำงานเพื่อเปลี่ยนผ่านรัฐบาล เพื่อเตรียมความพร้อมให้สามารถบริหารราชการแผ่นดินต่อจากรัฐบาลเดิมได้อย่างไร้รอยต่อด้วยความเคารพในเสียงข้างมากของประชาชน

นายพิธา ให้ความเชื่อมั่นว่า การจัดตั้งรัฐบาลประชาธิปไตยของประชาชนจะเกิดขึ้นอย่างแน่นอนและโดยราบรื่น จำนวน 313 เสียง มีความเพียงพอและเป็นความปกติของระบอบประชาธิปไตย ขณะนี้คณะทำงานทั้ง 2 ทีม ได้แก่ คณะเจรจาและคณะเปลี่ยนผ่านอำนาจ ได้เตรียมการวางแผนในหลายรูปแบบว่า จะมีฉากทัศน์ใดเกิดขึ้นบ้าง แต่ละฉากทัศน์จะบริหารจัดการอย่างไร เพื่อลดความเสี่ยงจากความไม่แน่นอนในการจัดตั้งรัฐบาล รวมถึงพิจารณาว่า จุดยืนและนโยบายของทุกพรรคการเมือง จะทำงานร่วมกันอย่างไรโดยยึดประชาชนเป็นที่ตั้ง กระบวนการทั้งหมดจะคำนึงถึงเสถียรภาพของรัฐบาลและการมีส่วนร่วมของทุกพรรคการเมือง เพื่อให้การจัดตั้งรัฐบาลสำเร็จลุล่วง ทุกพรรคการเมืองสามารถสานต่อนโยบายที่ได้สัญญาไว้กับประชาชน

ยืนยันมั่นใจว่าจะจัดตั้งรัฐบาลได้ ในรายละเอียดคณะทำงานเจรจาจะดำเนินการ ส่วนตัวเลขตนได้ให้กรอบไว้ว่า ให้รัฐบาลมีเสถียรภาพ ในขณะเดียวกันก็ไม่เสียดุลในการบริหาร เพราะฉะนั้นต้องหาจุดตรงกลาง

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีรายงานเรื่องการพูดคุยต่อรองเรื่องกระทรวงแล้วโดยเฉพาะกับพรรคเพื่อไทย นายพิธา ยอมรับว่า มีการพูดคุยกัน แต่อย่างที่บอกว่าไม่ได้เน้นกระทรวง ทบวง กรมอะไร แต่เน้นที่วาระ นโยบายของทุกพรรค ที่มานั่งตรงนี้เพราะวาระเราใกล้เคียงกันสามารถแสวงจุดร่วม สงวนจุดต่าง แสวงจุดร่วมในนโยบายสำคัญ วิธีการอาจจะแตกต่างกันก็ค่อยมาพูดคุยกัน แล้วถ้าเราสามารถตกผลึกกันได้ เรื่องกระทรวงว่าใครจะคุมกระทรวงไหนเป็นเรื่องที่ปลายเหตุ แต่ถ้าเกิดจากการเอากระทรวงขึ้นมาตั้งประชาชนจะไม่ได้ประโยชน์อะไร

เมื่อถามถึงกรณีมี ‘นักร้อง’ ร้องเรียนหลายคดีแล้ว นายพิธา ตอบว่า ไม่กังวลแต่ก็ไม่ประมาท เข้าใจดีว่าเรื่องของการเมืองมีมิติไหนบ้าง เราต้องพร้อมรับให้ได้ทุกมิติ แน่นอนเราต้องแยกว่า เมื่อเราเป็นบุคคลสาธารณะเราต้องยอมรับการตรวจสอบ แต่เมื่อมีมูลเหตุจูงใจทางการเมืองก็ต้องพร้อมเตรียมรับผลกระทบที่ได้เกิดขึ้น

กรณีความเห็นของ ส.ว. หลายคนที่ออกมาแสดงจุดยืนว่าจะโหวตนายกฯ ตามเสียงข้างมากของสภาผู้แทนราษฎรนั้น นายพิธา ได้กล่าวขอบคุณ และระบุว่า เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องส่วนตัวของใคร แต่เป็นเรื่องของระบบประชาธิปไตย ถือเป็นนิมิตรหมายดีที่ประเทศไทยกำลังเข้าสู่ระบอบประชาธิปไตยที่ประชาชนเป็นผู้มีอำนาจสูงสุด

สำหรับจุดยืน ม.112 นายพิธา ระบุ คิดว่าก่อนเลือกตั้ง ก็มีการดีเบตมีการพูดคุยเรื่องนี้เยอะแล้ว แต่ละพรรคก็มีความชัดเจน ในเรื่องจุดยืนมาตรา 112 พื้นที่นี้คงไม่เหมาะที่จะชี้แจง ส่วนจุดยืนของพรรคภูมิใจไทยก็คงเป็นเรื่องของพรรคภูมิใจไทย ทางพรรคก้าวไกลและพรรคร่วมรัฐบาลทั้ง 8 พรรค ที่อยู่ตรงนี้ มีจุดยืนในการจัดตั้งรัฐบาล และมีความชัดเจน มีเอกภาพ มีความคืบหน้าเป็นที่น่าพอใจ

[หัวหน้าพรรค 7 พรรคการเมือง แสดงจุดยืนสนับสนุน ‘พิธา’ พร้อมตอบกรณี ม.112]

ภาพจาก พรรคก้าวไกล

นพ.ชลน่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวโดยสรุปว่า พรรคเพื่อไทยยินดีสนับสนันคุณพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของประเทศ และร่วมกันจัดตั้งรัฐบาลความหวัง ความฝันของพี่น้องประชาชนให้ได้ ขอยืนยันจะเป็นครั้งที่ 100, 500 หรือ 600 ก็ยืนยัน เพราะกระแสปั่นเยอะเหลือเกิน ส่วนการเข้าร่วมรัฐบาล เราไม่ได้เป็นผู้เสนอเงื่อนไข แต่ยกให้พรรคแกนนำเป็นผู้เสนอ ซึ่งได้ผ่านการจัดทำ MOU มาให้ทุกพรรคช่วยกันดู แต่ละพรรคก็ดูว่า อะไรที่รับได้อะไรที่ควรจะปรับแก้ อะไรที่เห็นว่ามันไปไม่ได้ด้วยกันเลย แต่ในร่างนั้นไม่ได้ผูกมัดอะไรมากมาย เพื่อไทยก็เสนอเข้าไปตรงนี้ เช่น เรื่องมาตรา 112 ถ้าเราลงนาม MOU ร่วมกัน หมายความว่า มีข้อตกลงที่สรุปจบแล้ว ซึ่งก็เป็นเงื่อนไขที่เราเสนอให้พรรคแกนนำ ประเด็นนี้หัวหน้าพรรคก้าวไกล เลยตอบชัดได้ว่า ถึงขั้นตอนนี้ไม่เป็นประเด็นที่จะทำให้เราไม่ร่วมกันกรณี มาตรา 112 เพราะมีข้อตกลงร่วมที่ทุกคนเห็นทางออกร่วมกันได้

ในนามของเพื่อไทย เราจะร่วมกันผลักดันให้มีคะแนนในที่ประชุมร่วมรัฐสภา 376 เสียงให้ได้ เราเป็นพรรคร่วมการจัดตั้งรัฐบาล ทุกฝ่ายก็มีหน้าที่ที่ต้องช่วยกัน ไม่ได้ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของพรรคแกนนำอย่างเดียว อาจจะมีความเข้าใจที่ว่า พรรคแกนนำเป็นผู้ดำเนินการหมายถึงเริ่มการ แต่เมื่อทำงานด้วยกันแล้ว ทุกฝ่ายต้องช่วยกัน  ขอยืนยันเรามั่นใจว่า เราจะมีเสียง 376 เสียง เพื่อเลือกนายกรัฐมนตรีและเข้าสู่กระบวนการจัดตั้งคณะรัฐมนตรี และรัฐบาลของประชาชน

ภาพจาก พรรคก้าวไกล

คุณหญิงสุดารัตน์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย กล่าวโดยสรุปว่า  เราสนับสนุนที่ทุกฝ่ายเดินตามครรลองประชาธิปไตย และยึดหลักการประชาธิปไตย เมื่อพรรคก้าวไกล ได้ฉันทามติจากประชาชนเป็นอันดับ 1 พรรคไทยสร้างไทย เรายกมือสนับสนุนให้คุณพิธาเป็นนายกฯ ถ้าประเทศไม่หลักจะเกิดความวุ่นวาย ส่วนข้อตกลงนโยบายต่างๆ ยังไม่ได้เริ่มนับหนึ่ง แต่หลังจากวันนี้ก็จะมีการตั้งคณะทำงานร่วมกันในการทำนโยบาย

“ขอยืนยันสำหรับพวกเรา เรามองเห็นว่าการทำนโยบายที่ได้ให้สัญญาประชาคมของประชาชนนั้นสำคัญกว่าการมาแบ่งตำแหน่งแบ่งกระทรวง ดิฉันคนหนึ่งละค่ะถ้าจะต้องมาร่วมรัฐบาล เพราะต้องมาแบ่งกระทรวง แล้วก็ไปทำมาหากินกันเนี่ย ดิฉันไม่จำเป็นต้องมาเป็นรัฐบาล แต่เราอยากจะผลักดันสิ่งที่เราก็เห็นว่าประชาชนยากลำบากมาแก้ไขให้สำเร็จ อยากเห็นประเทศเดินหน้า อยากให้ประเทศไทยไปยืนหนึ่งบนแผนที่การแข่งขันโลก ไม่ใช่อยู่อย่างที่ผ่านมา 8-9 ปีที่ผ่านมา เราต้องการให้ไทยไปยืนอยู่บนแผนที่การแข่งขันโลกให้ได้”

ในประเด็น มาตรา 112 วันนี้ทุกคนมีจุดยืน และได้พูดชัดเจนทุกเวที หน้าที่ของพรรคการเมืองทุกพรรคตามรัฐธรรมนูญ คือรักษาชาติ ศาสน์ กษัตริย์ไว้ ดังนั้นการที่จะทำอะไรแล้วไปเกิดการกระทบ แล้วทำให้สถาบันเกิดความเสื่อมเสีย หน้าที่ของทุกพรรคการเมืองต้องปกป้อง ส่วนประเด็นของการที่มีผู้มีอำนาจมาใช้ประเด็น 112 ในการที่กลั่นแกล้งหรือทำร้ายบุคคลก็คงจะต้องมีการมาพิจารณา แต่ประเด็นเรื่องของการทำให้มาตรา 112 ปกป้องสถาบันได้อย่างดี และไม่เป็นเครื่องมือให้กับใครที่มีอำนาจในการทำร้ายคนอื่นเป็นหลักการ พวกเรายืนยันปกป้องสถาบัน และไม่ต้องการให้ใช้มาตรา 112 ไปทำร้าย แต่ละคนแต่พรรคมีจุดยืน ไม่ใช่แค่มาตรานี้มาตราเดียว ปัญหาประเทศมีมากมายหลายเรื่องต้องคุยกัน

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย กล่าวโดยสรุปยืนยันการสนับสนุน พิธา เป็นนายกฯ  ส่วนประเด็นอื่นยังไม่ถึงเวลาที่จะตอบคำถาม และถึงแม้จัดตั้งรัฐบาลร่วมกันแล้ว ถ้ามีทิศทางใดสนับสนุนได้ก็สนับสนุนอย่างเต็มที่ แต่ถ้ามีอะไรที่มีปัญหาก็ต้องคิดทบทวนกันอีกครั้งหนึ่ง

นายวันมูหะมัดนอร์ หัวหน้าพรรคประชาชาติ กล่าวโดยสรุปว่า ด้วยความเคารพต่อคะแนนของประชาชน ในตัดสินใจเลือกตั้งในระบอบประชาธิปไตยที่ผ่านมา พรรคประชาชาติจึงขอสนับสนุนคุณพิธา ในการจัดตั้งรัฐบาล และยินดีให้ความร่วมมือในการจัดตั้งรัฐบาลในครั้งนี้ทุกประการ อยากเรียกร้องทุกฝ่าย โปรดเคารพต่อการตัดสินใจของประชาชนในประเทศนี้ ถ้าไม่เคารพเราจะติดกับดักปัญหาเดิมๆ ที่จะไม่สามารถก้าวไปข้างหน้าอย่างสง่างาม  ทุกฝ่ายรวมทั้งวุฒิสมาชิก โปรดคำนึงถึงประชาชนให้มากว่า เขาตัดสินใจอย่างไร เพื่อเราจะได้เดินไปข้างหน้า ปัญหาวิกฤติมีมากมายพอสมควรแล้วทั้งระดับประเทศ ระดับภูมิภาค และระดับโลก เราไม่อาจจะอยู่ปัญหาเดิมๆ ได้ เราจะรักใครชอบใครไม่ว่า แต่เราต้องรักประชาชนก่อน ถ้าเราไม่รักของประชาชน เชื่อว่าปัญหาเดิมๆ ก็จะมาอีก

“ผมอยากให้พี่น้องประชาชนได้ให้กำลังใจพวกเรา เพื่อเราจะทำงานให้ประเทศได้รอดพ้นจากวิกฤติในครั้งนี้ให้ได้ เราไม่อาจจะทำงานเฉพาะแค่ 5-6 พรรคนี้ได้ ประชาชนจะต้องอยุ่เบื้องหลังของความสำเร็จทั้งหมด ผมยืนยันครับว่าสิ่งที่หัวหน้าพิธาพูดเป็นสิ่งที่เราตัดสินใจร่วมกัน และแน่นอนวันนี้อาจจะไม่มีรายละเอียด ที่เป็นปัญหาข้างคาใจ แต่วันที่ 22 ท่านจะเห็นแสงของความก้าวไปข้างหน้าจะมาถึงในไม่ไกลจากนี้ไปเราตั้งใจ ตั้งใจจริงๆ”

ภาพจาก พรรคก้าวไกล

นายปิติพงษ์ หัวหน้าพรรคเป็นธรรม กล่าวโดยสรุป พรรคเป็นธรรมสนับสนุนมติประชาชน มติมหาชน ที่ให้ฉันทานุมัติมอบให้พรรคก้าวไกล ซึ่งนำโดยท่านหัวหน้าพรรค คุณพิธาเป็นนายกฯ เพราะฉะนั้น 1 เสียงของพรรคเป็นธรรมจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงจากคำพูดนี้ การดำรงการเมืองใหม่ของพรรคเป็นธรรมไม่มีการต่อรอง ส่วนเรื่อง ม.112 พรรคเป็นธรรม มีจุดยืนที่ได้ประกาศไปแล้ว ทุกอย่างจะตกผลึกเป็น MOU ด้วยกัน ส่วนคุณสมบัติของว่าที่นายกฯ ตนคิดว่าพรรคก้าวไกลและคุณพิธา สามารถผ่านวิกฤติได้ ถ้ามีความเป็นธรรมให้กับเขา

“ขอความกรุณา กกต. ด้วยว่า ท่านพิจารณาตรงไปตรงมาตามหลักฐาน หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้วยพิจารณาตาม หลักเกณฑ์และมีมาตรฐานสากลที่คนยอมรับกันไม่ใช่ให้ความไม่ยุติธรรมกับเขา” หัวหน้าพรรคเป็นธรรม

ส่วนเรื่อง ส.ว. เชื่อว่า ส.ว. มีคุณวุฒิ และวุฒิภาวะ ในการที่รู้ว่าควรจะต้องใช้เสียงไปในทิศทางใด ฝากสมาชิกรัฐสภาทั้ง 500 คน ช่วยตระหนัก ให้ลงลึกว่าวันนี้สังคมปัจจุบันนี้ เขาต้องการเปลี่ยนถ่ายจากรัฐบาลเดิมมาเป็นรัฐบาลใหม่ เราต้องช่วยประคับประคองนี้ ส่วนความขัดแย้งไปว่ากันในสภา

นายเชาวฤทธิ์ หัวหน้าพรรคพลังสังคมใหม่ กล่าวโดยสรุป มองเห็นความศรัทธาและประชามติที่ประชาชนเลือกพรรคก้าวไกล 14 ล้านเสียง เพราะประชาชนอยากให้คุณพิธามาเป็นนายกฯ ตนป็นพรรคเล็ก พรรคใหม่ ก็อยากจะให้การเมืองเดินไปในระบบประชาธิปไตย คือพรรคที่มีเสียงข้างมากจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งก็อยู่ 2 พรรคคือก้าวไกลกับเพื่อไทย ที่จะเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล สังคมทุกวันนี้มีความเหลื่อมล้ำเป็นอย่างมาก อยากให้มาร่วมกันสร้างสังคมใหม่ โดยให้คุณพิธา เป็นแกนนำในการขับเคลื่อนเพื่อให้เกิดการลดความเหลื่อมล้ำ มาร่วมลดความขัดแย้งกันดีหรือไม่ เรามาสร้างประเทศไทย สร้างสังคมใหม่ไปด้วยกันดีหรือไม่ โดยให้คุณพิธา เป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 30

ปิดท้ายด้วย นายวสวรรธน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทรวมพลัง ย้ำอุดมการณ์ทางการเมืองเรื่องความเป็นประชาธิปไตย ซึ่งพรรคเพื่อไทยรวมพลัง ได้มา 2 เสียงจังหวัดอุบลราชธานี พร้อมสนับสนุนให้นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกรัฐมนตรี เพื่อตั้งรัฐบาลให้มีเสถียรภาพสร้างความเชื่อมั่นให้กับประเทศต่อไป


 

My Country Talks ร่วมกับสำนักข่าว TODAY ขอเชิญผู้ที่มีความสนใจ เข้าร่วมกิจกรรม World Talks ที่จะชวนคนจากหลากหลายพื้นที่ของโลกมาแลกเปลี่ยนไอเดีย เรื่องราว มุมมอง ผ่านการสนทนาแบบ 1:1

ผู้เข้าร่วมจะได้รับโอกาสพูดคุยกับผู้ที่มาจากต่างวัฒนธรรม ต่างบริบท ต่างแนวคิด โดยคัดจากการตอบคำถามในแง่มุมต่างๆ

หากท่านสนใจเข้าร่วม สามารถเริ่มต้นจากการตอบคำถามด้านล่างนี้ หรือเข้าไปที่ https://www.theworldtalks.org/invite

*คำถามและบทสนทนาเป็นภาษาอังกฤษ

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า