สำนักข่าวบลูมเบิร์ก (Bloomberg) รายงานถึงคดีที่อดีตผู้บริหารของบริษัทปูนซีเมนต์แห่งหนึ่งในประเทศฝรั่งเศส ทำการยื่นฟ้องศาลเพื่อให้ทางบริษัทจ่ายเงินค่าชดเชยแก่เขาเป็นจำนวน 2.1 ล้านยูโร (ประมาณ 74 ล้านบาท) โดยก่อนหน้านี้ตัวเขาได้รับการจ่ายเงินเดือนเป็นจำนวน 16,195 ยูโร (ประมาณ 570,000 บาท) ทุกเดือน ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้ทำงานอะไรเลย
จุดเริ่มต้นต้องย้อนกลับไปในการควบกิจการของสองยักษ์ใหญ่วงการปูนซีเมนต์อย่าง ลาฟาร์จ และ โฮลซิม เมื่อปี 2015 ทำให้บริษัทลาฟาร์จแจ้งต่อพนักงานว่าจะต้องทำการลดจำนวนพนักงานลง 380 ตำแหน่งทั่วโลก โดยเปิดโอกาสให้พนักงานลาออกแบบสมัครใจและจะทำการจ่ายเงินชดเชยให้
ฝ่ายโจทย์ในคดีนี้ก็คือนาย อองตวน ซีโนน ซึ่งทำงานในตำแหน่งระดับบริหารของลาฟาร์จซึ่งเป็นบริษัทสัญชาติฝรั่งเศส เป็นหนึ่งในพนักงานที่พยายามยื่นขอลาออกที่ควรมาพร้อมกับเงินชดเชย แต่กลับโดนปฏิเสธจากทางบริษัท รวมถึงโดนศาลฝรั่งเศสตัดสินให้ทางนายจ้างเป็นฝ่ายชนะคดีทั้ง 3 ครั้งอีกด้วย
เหตุผลสำคัญที่ทำให้ถูกปฏิเสธทั้งการเรียกร้องกับบริษัทและการฟ้องศาลก็คือ ในช่วงก่อนที่ข้อเสนอเรื่องการจ่ายเงินชดเชยจะออกมาเพียง 2 วัน ซีโนนได้ทำการผูกมัดตนเองด้วยการส่งอีเมลแจ้งกับทางบริษัทโดยระบุข้อความว่าตัวเขาตั้งหน้าตั้งตารอที่จะเข้ารับตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หรือ ซีอีโอ ที่สาขาของบริษัทในประเทศสิงคโปร์
และเมื่อเขาได้ไปประจำที่ประเทศสิงคโปร์ ซีโนนหวังว่าเขาจะได้บริหารทั้งสองบริษัทที่กำลังอยู่ในระหว่างการควบกิจการ แม้ว่าสาขาใหญ่ของทั้งสองบริษัทในฝรั่งเศสและสวิตเซอร์แลนด์จะรวมกันได้สำเร็จภายใต้ชื่อ ลาฟาร์จโฮลซิม แต่สำหรับที่สิงคโปร์นั้น ตามรายงานระบุว่าล้มเหลวในการควบกิจการ
ในปี 2018 ซีโนนจึงได้กลับมาที่ฝรั่งเศสและบริษัทก็ได้รับการเสนองานในตำแหน่งผู้จัดการโครงการ แต่ว่าเขาปฏิเสธตำแหน่งงานดังกล่าว โดยเขาต้องการลาออกพร้อมกับเรียกร้องสิทธิ์ในการได้เงินชดเชยตามนโยบายการควบกิจการเมื่อปี 2015 หรือเมื่อ 3 ปีก่อน และอ้างว่าเขาถูกชี้นำในการรับตำแหน่งที่สิงคโปร์ ซึ่งทางบริษัทปฏิเสธที่จะจ่ายเงินก้อนนั้น ทำให้มีการยื่นฟ้องศาลตามมาในภายหลัง
แม้ว่าเงินชดเชยจะถูกปฏิเสธ แต่ทางลาฟาร์จยังคงจ่ายเงินเดือนให้กับซีโนนตามปกติตั้งแต่นั้นมา แม้ว่าเจ้าตัวจะไม่ได้มีหน้าที่รับผิดชอบใด ๆ แล้วก็ตาม
ในที่สุดศาลอุทธรณ์ประจำกรุงปารีสมีคำพิพากษาว่าทางซีโนนไม่มีสิทธิ์ได้รับผลประโยชน์ดังกล่าว เนื่องจากได้ตอบรับการจ้างงานที่ประเทศสิงคโปร์ ทำให้สัญญาจ้างที่เขามีในฝรั่งเศสต้องถูกระงับ รวมถึงสิทธิ์ในการขอลาออกพร้อมค่าชดเชยด้วย
ในส่วนของข้ออ้างที่ว่าถูกชี้นำนั้นก็โดนศาลตีตกไปด้วยเหตุผลที่ว่าเขาอยู่ในตำแหน่งที่สิงคโปร์นานเกือบสามปีเลยทีเดียว ข้ออ้างดังกล่าวจึงฟังไม่ขึ้น รวมถึงไม่มีหลักฐานใด ๆ ที่ชี้ว่าทางลาฟาร์จมีส่วนรับผิดชอบที่ทำให้การควบกิจการในสิงคโปร์ล้มเหลว
ปัจจุบันซีโนนระบุในหน้าโปรไฟล์ LinkedIn ของเขาว่าเข้ารับตำแหน่งผู้อำนวยการของบริษัทผลิตท่อพลาสติกในฝรั่งเศส โดยทั้งสองคู่กรณีต่างปฏิเสธที่จะให้ความเห็นกับสื่อถึงคดีความที่เป็นข่าว