2 ส.ส.จันทบุรี รับสภาพถูกอนาคตใหม่ขับ ชี้พรรคสุดโต่ง-ไม่เป็นประชาธิปไตย

จากกรณีที่พรรคอนาคตใหม่มีมติขับ 4 ส.ส.ออกจากพรรค ประกอบด้วย​ น.ส.ศรีนวล บุญลือ ส.ส.เชียงใหม่, น.ส.กวินนาถ ตาคีย์ ส.ส.ชลบุรี ,พ.ต.ท.ฐนภัทร กิตติวงศา ส.ส.จันทบุรี และ นายจารึก ศรีอ่อน ส.ส.จันทบุรี ซึ่งทั้ง 4 คนต้องหาพรรคใหม่สังกัดใน 30 วัน เพื่อรักษาสถานภาพ ส.ส.ไว้

วันที่ 17 ธ.ค. นายจารึก ศรีอ่อน และ พ.ต.ท.ฐนภัทร กิตติวงศา 2 ส.ส. จันทบุรี ให้สัมภาษณ์ เปิดใจกับรายการ Workpoint Today โดยนายจารึก กล่าวว่า ยอมรับว่าเป็นบุญคุณของพรรคที่ช่วยให้ได้เป็น ส.ส. แต่คะแนนที่ได้ส่วนหนึ่งมาจากการที่ตนหาเสียงมา 7-8 ปี ในนามพรรคเพื่อไทย แต่ภายหลังพรรคแจ้งว่าเขตนี้ไม่ส่ง ตนจึงต้องหาพรรคอยู่ใหม่ ซึ่งพรรคอนาคตใหม่มาเชิญไปอยู่ด้วย ตนได้ฟังมุมมองของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรค เห็นว่าเป็นคนเก่งจึงได้มาร่วมงานกัน

ฝ่ายค้านเดินออก ไม่ขอร่วมนับองค์ประชุมด้วย / ภาพ ภาณุมาศ สงวนวงศ์ Thai News Pix

ส่วนสาเหตุที่ตนโหวตสวนมติพรรคในเรื่อง พ.ร.ก.โอนอัตรากำลังพลและงบประมาณบางส่วนของกองทัพบก กองทัพไทย กระทรวงกลาโหม ไปเป็นของหน่วยบัญชาการถวายความปลอดภัยรักษาพระองค์ ตนเคยชี้แจงแล้วคงไม่ขอพูดอีก ส่วนครั้งสุดท้ายในเรื่องญัตติตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาผลกระทบคำสั่ง คสช.และมาตรา 44 ครั้งแรกตนก็โหวตร่วมกับพรรคจนเป็นฝ่ายชนะ แต่เมื่อมีการให้นับคะแนนใหม่และฝ่ายค้านวอล์กเอ้าต์หลายครั้ง ตนไม่เห็นด้วยเพราะเมื่อมีสภาแล้วก็อยาให้สภาทำงานได้ บางทีก็โมโหนึกในใจว่ามีสภาแล้วทำไมไม่แก้กันในสภา

นายจารึก กล่าวต่อว่า สำหรับพรรคการเมืองที่จะไปสังกัดตนคงไปอยู่พรรคเล็กๆ เพราะไปอยู่พรรคใหญ่เดี๋ยวจะถูกหาว่ารับกล้วย จะพิสูจน์ว่าไม่ได้ถูกซื้อตัว แต่ทำเพื่อประชาชน อะไรไม่เกิดประโยชน์จะไม่ยอม ซึ่งตอนนี้ยังหาพรรคไม่ได้ แต่มีคนติดต่อมาเยอะเหมือนกัน อาจจะไปเป็น ส.ส.คนเดียวของพรรคนั้น แต่ยืนยันว่าจะไม่ร่วมรัฐบาล ถ้ารัฐบาลทำดีก็จะสนบัสนุน ถ้าไม่ดีก็ไม่ อาจจะเป็นฝ่ายค้านอิสระ

นายจารึก กล่าวด้วยว่า สำหรับคนที่วิจารณ์ตนก็ไม่เป็นไร ขอเรียนว่า จะทำให้ดีที่สุดเพื่อประชาชน ไม่ทำเพื่อใคร ต้องการสร้างประโยชน์ให้ประเทศชาติประชาชน

ด้าน พ.ต.ท.ฐนภัทร กิตติวงศา ส.ส.จันทบุรี อีกคนกล่าวว่า เมื่อมติพรรคออกมาชัดเจน ต้องปรึกษากับทีมงานกับผู้ใหญ่ที่สนับสนุนอย่างจริงจัง ตอนนี้ยังไม่มีพรรคชัดเจน แต่พรรคที่จะย้ายไปร่วมต้องแสดงตัวตนของเราได้ ออกความคิดเห็นมีสิทธิมีเสียงทำงานได้ อย่างเป็นประชาธิปไตย

สำหรับปัญหาที่แยกทางจุดเริ่มต้นเป็นน้ำผึ้งหยดเดียว ตอนสวนมติครั้งแรก ได้คุยแล้วว่าเรื่อง พ.ร.ก.โอนอัตรากำลังพลฯ ตนโหวตไปตามพรรคไม่ได้ แต่จากนั้นปีนเกลียว ฝืนๆ กันมา แสดงถึงความไม่เป็นประชาธิปไตย

พ.ต.ท.ฐนภัทร กล่าวว่า คะแนนเสียงที่ได้มา มั่นใจเป็นคะแนนของตนครึ่งหนึ่ง เพราะตอนที่ตนเคยลงเลือกตั้งกับพรรคเล็กพรรคหนึ่งก็ได้มาหมื่นกว่าคะแนน และตอนรับราชการก็ทำงานด้านสังคม ด้านมวลชนมา เป็นสารวัตรป้องกันปราบปราม ส่วนที่เหลือมาจากพรรคก็จริงแต่ก็มีเรื่องพรรคใหญ่อีกพรรคถูกตัดสิทธิด้วย อย่างไรก็ตามตนให้เครดิตพรรคและหัวหน้าพรรค ถ้าไม่ได้พรรคก็คงไม่ได้เป็น ส.ส. แต่ไม่ใช่ทั้งหมด

เมื่อถามถึงแนวทางในการเลือกพรรคที่จะสังกัด พ.ต.ท.ฐนภัทร กล่าวว่า ตนมองไปที่เรื่องผลประโยชน์ประชาชน พรรคไหนจะช่วยเหลือได้ เป็นองค์ประกอบพิจารณา จ.จันทบุรี มีเรื่องการดูแลเรื่องการท่องเที่ยว เรื่องอุโมงค์ทางลอด ถ้าอยู่ฝ่ายรัฐบาลก็ขอรับการสนับสนุนง่ายขึ้น ถ้าค้านสุดโต่งก็จะตัดสิทธิ์โอกาสประชาชน

อย่างไรก็ตาม การเป็นข่าวถูกขับทำให้มีองค์ประกอบว่าทำให้พรรคอื่นลังเลใจหรือไม่ เพราะพรรคที่รับเข้าไปถูกมองไม่ดี ทางออกอีกทาง คือ การอยู่พรรคเล็กหรือค้านอิสระ ขอให้ทำงานได้อิสระ ฝ่ายไหนทำดีก็สนับสนุน

สำหรับข้อกล่าวหาเรื่องงูเห่า ถ้าบอกว่า งูเห่าคือคนที่สวนมติพรรคตนก็ยอมรับว่ามีเหตุผลที่ต้องเป็นงูเห่าแต่ไม่ใช่รับเงินแน่นอน

ชมบทสัมภาษณ์ นาทีที่ 44 เป็นต้นไป 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

• ศรีนวล เปิดใจรับมติถูกอนาคตใหม่ขับ เผยชาวบ้านบอกให้ย้ายไปภูมิใจไทย