นายกฯ แจง เจ้าหน้าที่จำเป็นใช้มาตรการสากลหลังม็อบใช้ความรุนแรง ยืนยันถ้าใครละเมิดกฎหมายต้องดำเนินการ

นายกฯ แจง เจ้าหน้าที่จำเป็นใช้มาตรการสากลหลังม็อบใช้ความรุนแรง วอนสื่อนำเสนอข่าวสองทาง ยืนยันไม่ละเมิดผู้ชุมนุม แต่ถ้าใครละเมิดกฎหมายต้องดำเนินการ กำชับดูแลสวัสดิการตามระเบียบราชการให้ตำรวจที่เสียชีวิตอย่างเต็มที่

วันที่ 1 มี.ค. 2564 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงการชุมนุมของกลุ่ม REDEM ที่บริเวณหน้าบ้านพักเมื่อวานนี้ (28 ก.พ. 2564) ที่มีเหตุความรุนแรงเกิดขึ้นว่า สื่อก็เห็นแล้วว่าเป็นความรุนแรง ดังนั้นต้องเสนอข่าวทั้ง2ทาง ไม่ใช่บางสื่อเสนอข่าวเจ้าหน้าที่ตำรวจใช้ความรุนแรงเพียงข้างเดียว แต่ภาพอีกฝ่ายกลับไม่นำมาออกเลย แบบนี้บ้านเมืองอยู่ไม่ได้ ขอร้องสื่อทุกสื่อด้วย ซึ่งตนก็ติดตามอยู่ว่าทำไมออกข่าวข้างเดียวว่าตำรวจใช้ความรุนแรง ท่านไม่ดูก่อนหน้าที่จะเกิดการชุมนุม มีความรุนแรงเกิดขึ้น แรกๆ ก็โอเคเป็นไปตามปกติของเขา ท่านก็รู้อยู่แล้วเขาพูดจาอะไร ก็เป็นเรื่องที่เขาทำถูกทำผิดก็ไปว่ากันตามกฎหมาย แต่มีการใช้ความรุนแรงเกิดขึ้น และมีการรุกเข้ามาในพื้นที่ของตำรวจ รุกเข้ามาในพื้นที่ที่เป็นพื้นที่หวงห้าม และมีการใช้กำลังทำร้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจ เขาก็จำเป็นต้องใช้มาตรการตามมาตรฐานสากล ถ้าเราไม่ทำแบบนี้จะอยู่กันอย่างไรประเทศชาติบ้านเมือง

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า ขอให้ทุกคนรวมทั้งสื่อต่างๆ ยึดถือบ้านเมืองเป็นหลัก ตนไปบังคับไม่ได้อยู่แล้ว เพียงแต่ขอร้องว่า ทำอย่างไรให้บ้านเมืองของเรามีความสงบและเคารพกฎหมาย เป็นไปตามกฎหมายของบ้านเมือง แค่นั้นเอง ไม่ว่าจะเป็นประชาธิปไตยแบบใดก็ตาม ต้องมีกฎหมายเพียงแค่นั้น ขณะเดียวกันก็มีการปฏิบัติดูแลคุ้มครองสิทธิในการสู้คดีอะไรต่างๆ  ยืนยันว่าไม่ได้ละเมิดอะไรผู้ชุมนุม แต่หากผู้ชุมนุมละเมิดกฎหมายก็เป็นเรื่องที่เจ้าหน้าที่ต้องดำเนินการ ดังนั้น ขอให้เห็นใจตำรวจบ้างที่ทำงานหนัก อดทน และยังได้รับความรุนแรงที่เกิดขึ้นจนทำให้บาดเจ็บเสียหาย การทำลายข้าวของและทรัพย์สินราชการนั้นทำได้หรือไม่ หากเป็นการชุมนุมโดยสงบก็ว่ากันไป ซึ่งการชุมนุมสงบหรือไม่สงบกฎหมายจะเป็นตัวตัดสินอยู่แล้ว

ด้านนายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์แสดงความเสียใจกรณี ร.ต.อ.วิวัฒน์ สินเสริฐ สังกัด สน.ธรรมศาลา ซึ่งปฎิบัติหน้าที่ควบคุมฝูงชนในเหตุการณ์การชุมนุมเมื่อวันที่ 28 ก.พ. 2564 เกิดอาการหัวใจหยุดเต้นและเสียชีวิตในเวลาต่อมา ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีกำชับให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และผู้บังคับบัญชาทุกระดับ ดูแลสวัสดิการตามระเบียบทางราชการอย่างเต็มที่ และให้กำลังใจไปยังครอบครัวผู้เสียชีวิต ที่สำคัญ จะต้องใส่ใจเรื่องสภาพความพร้อมของร่างกายและจิตใจก่อนปฏิบัติหน้าที่ด้วย ทั้งนี้ ไม่มีใครอยากให้เกิดกรณีเช่นนี้ขึ้น ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายเจ้าหน้าที่หรือผู้ชุมนุมก็ตาม ขอให้ผู้ที่จะชุมนุมตระหนักถึงเรื่องนี้ให้มาก ทุกคนมีสิทธิชุมนุมได้ แต่ต้องอยู่ภายใต้กฎหมาย และไม่ละเมิดสิทธิผู้อื่น หรือใช้ความรุนแรง หรือยั่วยุให้เกิดความแตกแยกในสังคม รวมทั้งฝากความห่วงใยถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนาย ขอให้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความอดทน ระมัดระวัง ปฏิบัติตามหลักยุทธวิธีสากล โดยคำนึงถึงความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนและตนเองเป็นสำคัญ