Advertisement

SHARE

คัดลอกแล้ว

นายกฯ ชี้เที่ยวอโคจรเป็นบทเรียน ขอให้หยุดเสียที ยืนยันไทยไม่ได้ฉีดวัคซีนช้า แจงไทยพร้อมลดขั้นตอนเปิดทางเอกชนนำเข้าวัคซีน แต่ต่างประเทศไม่ยอม ขู่ฟ้องคนใช้ชื่อ ‘ไทยคู่ฟ้า’ ไม่เหมาะสม  

วันที่ 9 เม.ย. 2564 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แถลงภายหลังประชุมคณะกรรมการศูนย์บริหารป้องกันโควิด-19(ศบค.) ชุดเล็กร่วมกับคณะแพทย์ว่า การที่ตนบอกว่าอะไรจะเกิด มันต้องเกิดนั้น เพราะตราบใดที่ยังควบคุมสถานการณ์ไม่ได้ทั้งหมด เมื่อเกิดปัญหาก็ต้องแก้ไขกันต่อไป ไม่มีอะไรจบปุบปับ เพราะเป็นเรื่องเชื้อโรค เราต้องมองไปข้างหน้าด้วยว่า หลังโควิดแล้วอะไรจะเกิดขึ้นอีก เช่น เชื้อสายพันธุ์ใหม่ ย้ำว่าตนให้ความสำคัญทุกช่วง ซึ่งวันนี้ได้พูดคุยทำความเข้าใจกันกับหน่วยงานด้านสาธารณสุข รวมทั้งได้เชิญตัวแทนโรงพยาบาลเอกชนมาด้วย โดยหารือหลักการนำเข้าวัคซีนเพิ่มขึ้นอีกทางหนึ่ง แต่ปัญหาคือ ต้องไปแก้ไขเรื่อง อย.และเภสัชด้วย เพื่อพิจารณาการนำเข้าวัคซีน เพราะย้ำว่า เป็นการใช้ในสถานการณ์ฉุกเฉิน จึงให้ไปหาทางว่าเอาเข้ามาได้อย่างไรเพื่อเป็นวัคซีนทางเลือก วันนี้เราจึงเดินหน้าเรื่องวัคซีนทางเลือก โดยหารือกับผู้ผลิตด้วย เพราะมีหลักการหลายอย่างที่เกี่ยวข้อง ดังนั้นต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง

“ผมยินดีที่โรงพยาบาลเอกชนจำนวนมากอยากหาวัคซีนช่วยรัฐบาล  ยืนยันว่ารัฐบาลไม่เคยปิดกั้นอยู่แล้ว แต่มีปัญหาในเรื่องการนำเข้า ซึ่งเกี่ยวกับต่างประเทศด้วย ต้องไปปลดล็อคตรงนี้ ที่ผ่านมามีวัคซีนเข้ามาแล้ว 3.5 แสนโดส และในเดือนเม.ย.นี้จะเข้ามาเพิ่มเติม 1.5 ล้านโดส และจะเข้ามาตามลำดับ เว้นแต่มีปัญหาที่ต้นทาง ซึ่งควบคุมได้ยาก ส่วนจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น 300-400 ที่ทำให้ตระหนกกันนั้น ยืนยันว่าเราควบคุมได้ ย้ำว่า นายกฯ ไม่เคยทอดทิ้งใคร และยืนยันว่า น้ำยาตรวจมีเพียงพอ ไม่มีปัญหาอะไร”นายกรัฐมนตรีกล่าว

 

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า ขอให้ทุกคนเว้นไปในที่ อโคจร ซึ่งตนก็ไม่รู้ทำอย่างไร เพราะไปสั่งห้ามคนไม่ให้ไปไม่ได้ มีอย่างเดียวคือสั่งปิดสถานบริการ ซึ่งวันนี้สั่งปิดเพิ่มอีกใน 41 จังหวัด แล้วใครเดือดร้อน ซึ่งเราโทษใครไม่ได้ แต่ทุกคนต้องทำเพื่อคนไทย นายกฯ เข้ามาเพื่อแบบนี้ สงกรานต์ปีนี้ขอให้เป็นสงกรานต์ปลอดภัย เป็นแบบ New Normal นอกจากนี้ ยังมีความเป็นห่วงช่วงรอมฎอนด้วย เพราะสถานการณ์โควิดทั่วโลกยังไม่หยุด มีคนติดเพิ่มเป็นหมื่นๆ บางประเทศตายเป็นแสนๆ ส่วนเรื่องการฉีดวัคซีนนั้นอย่ามองว่าฉีดช้าหรือเร็ว ขึ้นอยู่กับจำนวนวัคซีนที่มีอยู่ หลายประเทศไม่ต้องจัดหาวัคซีนเองด้วยซ้ำ เช่น ประเทศมีรายได้ร้อย แต่เป็นการฉีดให้ทดลองก่อน แล้วเรากล้าหรือไม่ ดังนั้น ไม่ใช่ช้ากว่าเขา ถ้าวัคซีนมีฉีดได้หมด แต่เราไม่ใช่วัคซีนบริจาค ซื้อเอง เพราะเรารายได้ปานกลาง ค่อนข้างสูง ทั้งนี้ ได้ตั้งคณะทำงานโดยมี นพ.ปิยสกล สกลสัตยาทร ที่ปรึกษาศูนย์ ศบค. เป็นประธานร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข เพื่อพิจารณาจัดหาวัคซีนเพิ่มเติม และบริหารการฉีดวัคซีน โดยต้องฉีดให้ได้อย่างน้อย 45 ล้านคนทั้งประเทศ

สำหรับความเป็นไปได้ในการลดขั้นตอนการนำเข้าวัคซีนของเอกชนนั้น พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ตนพร้อมที่จะลดขั้นตอน แต่ต่างประเทศเขาไม่ยอมลด เพราะมีมาตรฐานที่ทั้งโลกต้องดำเนินการ ปัญหาหลักคือ ตอนนี้ต่างประเทศจะขายให้เราหรือไม่ เนื่องจากตอนนี้มีการแย่งวัคซีนกัน ยืนยันว่าประเทศไทยไม่ได้ดำเนินการช้าไปกว่าประเทศอื่น ซึ่งขณะนี้ยารักษาภายในประเทศนั้นเพียงพอ ส่วนวัคซีนนั้นสามารถป้องกันได้ แต่ไม่ใช่ป้องกันได้ 100% เป็นเพียงการเพิ่มภูมิต้านทานให้ติดเชื้อยากขึ้น ไม่ใช่ว่าฉีดวัคซีนแล้วจะไปในสถานที่อโคจร ไม่เช่นนั้นก็ติดอยู่ดี

ส่วนกรณีที่โรงพยาบาลเอกชนไม่รับตรวจโควิด-19 นั้น พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เกิดจากเตียงโรงพยาบาลเอกชนไม่เพียงพอ หากรับตรวจ เมื่อพบว่าติดเชื้อก็ต้องรักษา จึงต้องนำผู้ป่วยนี้ดึงออกมาอยู่ในโรงพยาบาลสนาม ยืนยันว่าขณะนี้โรงพยาบาลเอกชนสามารถตรวจได้แล้ว และมีน้ำยาเพียงพอ สำหรับแผนการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวนั้น เป็นเพียงแผน หากดำเนินการไม่ได้ก็ไม่ทำตามแผน ซึ่งหากจะบังคับใช้ได้จริงจะต้องออกมาเป็นคำสั่ง ไม่ใช่แผน อย่างไรก็ตาม แผนการเปิดประเทศไม่ใช่เปิดโล่งทั้งหมด ต้องดูด้วยว่าประเทศเพื่อนบ้านเขาเปิดหรือไม่  ทุกวันนี้ต้องย้ำเรื่องเศรษฐกิจค้าขายเป็นหลัก และต้องเตรียมวัคซีนให้พร้อมในพื้นที่ท่องเที่ยวของประเทศ  ซึ่งทำอะไรต้องเป็นกลางเสมอ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรม เท่าเทียม ไม่ใช่เพียงแค่คิดแล้วสั่งโครมๆ ลงไปเลย

สำหรับเสียงวิพากษ์วิจารณ์นักการเมืองเดินทางไปที่อโคจรนั้น พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ตนมองว่าเป็นเรื่องที่ไก่เกิดก่อนไข่ หรือไข่เกิดก่อนไก่ ใครจะไปที่ไหนมาก็รู้ตัวอยู่แล้ว รัฐบาลจะไปห้ามก็ไม่ได้ อยู่ที่ตัวบุคคล วันนี้เป็นบทเรียนพอสมควรแล้ว  ขอให้หยุดกันเสียที เพราะหากใครติดเชื้อก็ต้องรักษา ซึ่งเป็นบทเรียนว่า สถานที่อโคจรไม่ควรไป นายกฯ ก็ไม่เคยไปไหนเลยกว่า 10 ปีแล้ว ไม่เคยออกจากบ้านไปไหนเลย แต่สมัยหนุ่มๆ ก็คงคนละเรื่อง แต่ไม่ไปขนาดนี้ ทั้งนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข รวมถึงรัฐมนตรีคนอื่นๆ มีการรายงานการกักตัวเข้ามาให้ทราบ ซึ่งเขาก็โอเค และตนได้สั่งการให้ทำงานอยู่ที่บ้าน​ ประชุมผ่านระบบวีดีโอคอนเฟอร์เรนซ์​ สั่งงานผ่านแอป​พลิเคชัน​ไลน์​ ไม่ใช่​ 14 วันแล้วจะหายไปเลย ทุกคนมีความรับผิดชอบ​ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน เวลาใด ก็รับผิดชอบ

ส่วนกรณี​ที่รัฐสภามีการเลื่อนการพิจารณา​ร่างพระราชบัญญัติการออกเสียงประชามติออกไปนั้น พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ​ เพราะมีการติดเชื้อโควิด​ ซึ่งตนจะไปบังคับใครไม่ได้ เป็นเรื่องของสภา​ฯ เมื่อมีการระบาดสมาชิกก็กลัวจะติดไปด้วย​ ยืนยันว่าตนจะไม่เข้าไปยุ่งว่าร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้จะผ่านหรือไม่ผ่าน​ เพราะหลายอย่างที่เสนอผ่านรัฐบาลไปแล้วเป็นสิ่งที่เห็นชอบ และจะไปควบคุมไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นกฎหมายอะไร​ เพราะทุกคนมีความคิด ไม่ต้องไปสั่งเขา​

ขณะที่การออกมาตรการ​ของจังหวัด​เพื่อควบคุมป้องกันการแพร่ระบาดนั้น พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า มี 2 อย่างคือ จังหวัดจะจัดการพื้นที่ที่มีการระบาดอย่างไร และจะเข้าไปอย่างไร​ และอีกประการคือ คนที่จะเข้าไป​มาจากพื้นที่ใดบ้าง ต้องคำนึงด้วยว่า​ การเดินทางจากกรุงเทพมหานคร จังหวัดปลายทางจะรับหรือไม่​ ส่วนจะเพิ่มพื้นที่หรือไม่​นั้น ศบค.จะเป็นผู้แถลงชี้แจง​ ในวันนี้​สถานบันเทิงก็มีปิดตัวลง​และได้รับความเดือดร้อน​ด้วย ทั้งนี้ ตนได้สั่งตำรวจดูแลในเรื่องของอุปกรณ์การตรวจวัดแอลกอฮอล์​ในจุดตรวจด่านแอลกอฮอล์​เพื่อลดการแพร่ระบาดด้วย​ ยืนยันว่า มีการเปลี่ยนหลอดเป่าอยู่ตลอด ไม่ใช่การเป่าปี่หรือดูดแต่อย่างใด​ อย่างไรก็ตาม สำหรับกรณีที่มีการโยงสถานบันเทิงกับตึกไทย​คู่​ฟ้านั้น​ กำลังสั่งการให้ฝ่ายกฎหมายพิจารณาว่าผิดกฎหมายหรือไม่​ การใช้คำว่าไทยคู่ฟ้า​ไปทำโน้นทำนี้​คงไม่ใช่ ขอให้ระวังกันด้วย​

podcast

LATEST
OUR PICKS
HOT
กำลังโหลดบทความถัดไป...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า