ฝุ่น PM 2.5 ย้อนกลับมาสร้างปัญหาให้กับชาวกรุงเทพฯ และปริมณฑลอีกครั้ง เป็นประจำทุกปี ข้อมูลจากกรมควบคุมมลพิษ 8 ปีย้อนหลัง พบว่าช่วงเดือน ธ.ค. ถึง มี.ค. นับตั้งแต่ปี 2554 ถึง 2561 พื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝุ่น PM 2.5 สูงเกินเกินค่ามาตรฐาน (มากกว่า 50 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร) อย่างต่อเนื่องทุกๆ ปี
ทีมข่าวเวิร์คพอยท์ สืบค้นข้อมูลย้อนหลังเฉพาะเดือน ม.ค. 62 พบว่า ปีที่แล้วพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล ต้องเผชิญกับปัญหาฝุ่น PM 2.5 สูงเกินค่ามาตรฐาน ทั้งสิ้น 25 วัน จาก 31 วัน
- กทม.
มีฝุ่น PM 2.5 เกินค่ามาตรฐาน 23 วัน วัดค่า PM 2.5 ที่เกิน ได้ตั้งแต่ 51-104 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร - สมุทรปราการ
มีฝุ่น PM 2.5 เกินค่ามาตรฐาน 22 วัน วัดค่า PM 2.5 ที่เกิน ได้ตั้งแต่ 51-93 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร - สมุทรสาคร
มีฝุ่น PM 2.5 เกินค่ามาตรฐาน 25 วัน วัดค่า PM 2.5 ที่เกิน ได้ตั้งแต่ 52-134 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร - ปทุมธานี
มีฝุ่น PM 2.5 เกินค่ามาตรฐาน 17 วัน วัดค่า PM 2.5 ที่เกิน ได้ตั้งแต่ 51-88 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร - นนทบุรี
มีฝุ่น PM 2.5 เกินค่ามาตรฐาน 16 วัน วัดค่า PM 2.5 ที่เกิน ได้ตั้งแต่ 51-78 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร - นครปฐม
มีฝุ่น PM 2.5 เกินค่ามาตรฐาน 22 วัน วัดค่า PM 2.5 ที่เกิน ได้ตั้งแต่ 52-96 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร
ขณะที่ปีนี้ เริ่มต้นปี 2563 ฝุ่น PM 2.5 ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล สูงเกินค่ามาตรฐานอย่างต่อเนื่องมาแล้ว 5 วัน
โดยล่าสุดเมื่อ 12.00 น. วันนี้ (10 ม.ค. 63) วัดค่า PM 2.5 ได้สูงสุด 113 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร ที่ ต.มหาชัย อ.เมือง จ.สมุทรสาคร และที่เขตพระนคร กทม. วัดค่า PM 2.5 ได้ 112 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร อยู่ในระดับ “ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ” เป็นอันตรายต่อระบบทางเดินหายใจและหลอดเลือด
ข้อมูลจาก รายงานสถานการณ์และคุณภาพอากาศประเทศไทย กรมควมคุมมลพิษ