“วราวุธ” ยกเกาหลีใต้แก้ฝุ่น PM 2.5 เล็งใช้ยาแรง “อนุทิน” เสนอเอกชนนำร่องทำงานที่บ้าน

รัฐมนตรีกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มาตรการแก้ฝุ่น PM 2.5 ที่เข้มงวด ทำไม่ได้เพราะยังไม่เป็นภาวะฉุกเฉิน

วันที่ 14 มกราคม นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ระบุว่า จะหายาที่แรงขึ้นเพื่อเสนอคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติและคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาเพื่อแก้ปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5

โดยอยากชี้แจงให้ประชาชนทราบว่า ปัญหา PM 2.5  ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร 72 เปอร์เซ็นต์ มาจากยานพาหนะ แบ่งเป็นรถบรรทุกกว่า 20 เปอร์เซ็นต์ อีก 20 เปอร์เซ็นต์มาจากรถกระบะ  ภาคอุตสาหกรรม 18 เปอร์เซ็นต์ ส่วนที่เหลือมาจากรถยนต์ประเภทอื่นๆ ต้องถามสังคมว่า หากรัฐบาลออกมาตรการเข้มงวดจะรับได้หรือไม่

(วราวุธ ศิลปอาชา)

นายวราวุธ ยังไม่เปิดเผยมาตรการเข้มงวดหรือยาแรง ที่จะออกมาเพื่อจัดการปัญหาฝุ่น PM 2.5 และย้ำว่า ต้นเหตุของการฝุ่น PM 2.5 มาจากรถยนต์ ซึ่งเป็นรถบรรทุกและรถกระบะเป็นส่วนใหญ่ ยกตัวอย่างประเทศเกาหลีใต้ ประกาศห้ามรถยนต์วิ่งในเขตเมือง ส่วนปัญหาฝุ่นPM 2.5 ของภาคเหนือที่มีปัญหาการเผาไหม้ จะจัดระบบการเผาในห้วงต้นปีด้วย

“บางครั้งมาตรการทำหนึ่งสองไม่ได้ เพราะยังไม่ได้เป็นภาวะฉุกเฉิน ที่ผ่านมาข้อจำกัดของรัฐบาลก็คือว่า การจะบังคับใช้กฎหมายบางตัว การจะใช้ข้อบังคับบางแบบบางชนิด ต้องรอให้เกิดสถานการณ์ฉุกเฉินเสียก่อน พอเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น ก็จะได้รับเสียตอบรับจากพี่น้องประชาชน เกิดปัญหาแล้วค่อยแก้ แต่ว่าวันนี้เราคงต้องมาคิดกันแล้วว่า เราสามารถประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน เช่น ปัญหาสถานการณ์ฝุ่นควันที่ฉุกเฉินก่อนที่จะเกิดปัญหาได้หรือไม่ เพื่อที่จะได้ใช้มาตรการที่เข้มงวดก่อนที่ปัญหาจะเกิดเพื่อที่ว่าปัญหาจะได้ไม่เกิดรัฐบาลไม่โดนต่อว่า มาแก้ปัญหาจากที่มันเกิดแล้ว” รมว.กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

(อนุทิน ชาญวีรกูล)

อนุทินได้จังหวะเสนอ “ทำงานที่บ้านลดฝุ่น”

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงข้อเสนอ “ทำงานที่บ้าน” เพื่อลดปัญหาฝุ่นละออง ซึ่งพรรคภูมิใจไทยเคยเสนอเป็นนโยบายหาเสียง ว่า  การแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองนั้นหลายฝ่ายต้องร่วมมือกัน คืออะไรที่ดูแล้วสามารถทำได้ง่ายที่สุด ก็คือที่ตนเสนอให้ทำงานที่บ้าน เพื่อลดจำนวนการใช้ยานพาหนะ

โดยอยากขอความร่วมมือภาคเอกชนเริ่มต้นทำให้เป็นตัวอย่างก่อน เช่น วันเสาร์ให้ทำงานที่บ้าน ซึ่งบริษัทก็จะสามารถลดค่าใช้จ่ายต่างๆ ไปได้ด้วย ขณะที่พนักงานก็ลดค่าเดินทางอีกทั้งไม่ติดขัดเรื่องข้อกฎหมาย แต่ถ้าเป็นหน่วยงานราชการอาจจะขัดระเบียบหรือพ.ร.บ.ต่างๆได้ กว่าจะเริ่มได้ก็ได้รับผลกระทบไปมากแล้ว

ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวหลังประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ได้ย้ำไปแล้วต่อไปนี้ต้องตั้งด่านตรวจจุดสกัดให้มากขึ้น รถคันใดมีปัญหาควันดำไม่ให้วิ่งจนกว่าจะแก้ไข โดยกำลังหามาตรการช่วยเหลือเปลี่ยนเครื่องยนต์ ทุกคนต้องช่วยกันเพราะปัญหาเรื่องนี้มาจากหลายส่วน ท้ายที่สุดสิ่งที่รัฐบาลจะทำได้คือมาตรการทางกฎหมาย ห้ามรถวิ่ง ห้ามรถบรรทุกเข้าเมือง มันเดือดร้อนใครไหม อะไรที่ช่วยกันได้ก็ช่วยกันก่อน