“บัวบาน ม่วนขนาด” เด็กปั้น “ปู่จ๋าน ลองไมค์” จาก Fanwars ดาวปั้นดาว

จากกระแสรายการ “Fanwars ดาวปั้นดาว” ใน EP.1 รอบ Audition ที่เพิ่งได้ออกอากาศไปเมื่อวันอาทิตย์ที่ 16 ก.พ. 63 ที่ผ่านมานั้น หากไม่พูดคนนี้ คงไม่ได้… เพราะมีคนอยากจะรู้จักชีวิตของ น้องบัวบาน ม่วนขนาด ( Rookie ปู่จ๋าน ลองไมค์) ให้มากขึ้นกว่าเดิม  เพราะด้วยความประทับใจและการร้องเพลงบนเวที Fanwars นั้น เกิดคาดมากๆ ที่ทำเอาสะกดคนดูได้อย่างไม่น่าเชื่อ อีกทั้งยังสามารถสร้างเสียงหัวเราะให้กับผู้ชมได้มากมายเลยทีเดียว
มาวันนี้เราเลยมีสกู๊ปสัมภาษณ์พิเศษของบัวบานมาฝากกัน ก่อนหน้านี้ใครจะรู้ว่า ชื่อเล่นของ “บัวบาน” นั้น ความจริงแล้ว ชื่อเล่นเดิมมีชื่อว่า “บูม” ซึ่งเป็นชื่อที่คุณพ่อของบัวบานได้ตั้งให้
ปัจจุบันบัวบาน หรือ นายวิชญ์พล วงศ์ทอง อายุ 31 ปี โดยมีน้องชาย 1 คน ซึ่งที่เธอเป็นพี่คนโต

ชีวิตของบัวบาน เกิดมาในครอบครัวที่รับราชการ ทำให้การเป็นสาวประเภทสองของเธอจึงไม่ค่อยเป็นที่ยอมรับเท่าไหร่ บัวบานเริ่มรับงานร้องเพลง เช่น รับงานร้องเพลงตามบ้านที่จัดงาน ที่แต่งตัวเป็นแบบผู้ชาย เริ่มค่าตัวครั้งนั้นอยู่ที่ 500 บาท จากนั้นชีวิตก็เริ่มผกผันเข้าสู่การโชว์คาบาเร่ต์ เมื่อตอนอายุ 16 ปี ที่ไนท์บาร์ซ่าเชียงรายเรื่อยมา บัวบานเริ่มไว้ผมยาว ตอนช่วง ม.5 ทำให้บัวบานเริ่มมาแต่งหญิงในที่สุด

การโชว์ของบัวบานที่ทำให้ชาวบ้านในจังหวัดเชียงรายรู้จักเธอ เพราะมีอยู่วันหนึ่ง ที่เครื่องเล่นแผ่นเสียงไม่อ่าน ทำให้บัวบานตัดสินร้องเพลงสด เล่นสด ไม่ลิปซิงค์ ทำให้คนที่เชียงรายชื่นชอบบัวบานตั้งแต่นั้นมา

ช่วงชีวิตของบัวบานนั้น เริ่มทำงานหาเงินมาตั้งแต่อายุ 15 ปี โดยสมัยนั้นบัวบานแต่งตัวเป็นผู้ชาย ต้อนรับแขกที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งที่มีชื่อในจังหวัดเชียงราย แต่ตอนนี้ถ้าใครอยากไปเจอบัวบานตัวจริงๆ หรืออยากไปดูโชว์ของเธอนั้น ต้องไปหากันได้ที่ ร้านวัวหัน คันทรี จ.เชียงราย ดูได้ทุกวัน ยกเว้นหากแต่บัวบานไม่มีงานนอก หากใครสนใจติดต่อบัวบานก็สามารถติดต่อหรือติดตามผลงานของเธอได้ที่ Instagram ของบัวบานได้ที่ : @buaban_mkncr

ปู่จ๋าน ซุปตาร์ ที่เป็น BIG FAN ของบัวบาน ปู่จ๋านเล่าว่า ย้อนกลับไปเมื่อหลายสิบปี ตั้งแต่ที่ปู่จ๋าน เป็นช่างซ่อมทีวี บัวบานเป็นลูกค้ามาซื้อทีวีมือ 2 และมีโอกาสเจอหลายครั้งจนไปเห็นบัวบานร้องเพลงที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง จึงชอบในคาแร็กเตอร์ และอยากที่จะผลักดัน คนที่มีต้นทุนต่ำ เพราะตนเคยผ่านจุดนั้นมาก่อน และบัวบานเป็นคนที่มีความพยายามที่จะผลักดันตัวเอง แม้จะด้อยโอกาส พยายามที่จะไขว่คว้าหาโอกาส และอยากให้บัวบาน เป็นแรงบันดาลใจให้กับเด็กต่างจังหวัด ถ้าบัวบานทำได้ หลายคนทำได้

การที่บัวบานได้มาแข่งขันบนเวที “Fanwars ดาวปั้นดาว” นั้น ถือว่าเป็นที่สุดในชีวิตของบัวบานอีกเรื่องหนึ่งเลย แต่หากความตั้งใจมากไปกว่าชื่อเสียงและเงินทอง ก็คือการที่เธออยากให้สังคมยอมรับ และมองสาวประเภทสอง ให้ดีมากขึ้นกว่าเดิม ว่าพวกเธอนั้นมีความสามารถอีกหลากหลายด้าน อยากให้มองข้ามเรื่องเพศไป และสิ่งที่สำคัญที่สุด คือ “การที่อยากให้ครอบครัวยอมรับที่บัวบานเป็นเช่นนี้”