SHARE

คัดลอกแล้ว
นายกฯ ประชุมสภากลาโหม สั่งขยายขีดความสามารถ รพ.สนามกองทัพ ใน กทม.-ปริมณฑล กำชับ ผบ.เหล่าทัพ เตรียมพร้อมรับคนไทยกลับประเทศหากสถานการณ์ประเทศเพื่อนบ้านทวีความรุนแรง
วันที่ 23 เม.ย. 2564 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการประชุมสภากลาโหม ผ่านระบบวีดีโอคอนเฟอเรนซ์ เพื่อพิจารณาการสั่งการขยายขีดความความสามารถของโรงพยาบาลทหารเพื่อรองรับผู้ป่วยโควิด-19 ที่เพิ่มมากขึ้น รวมถึงรายงานสถานการณ์ด้านความมั่นคงภายในประเทศ
พล.ท.คงชีพ ตัณตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม แถลงภายหลังการประชุมว่า ได้มอบนโยบายให้ผู้บัญชาการเหล่าทัพติดตามสถานการณ์ในเมียนมา รวมถึงพื้นที่ชายแดน ให้ประสานการทำงานกับหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ เพิ่มความเข้มงวดกวดขันตามแนวชายแดนทุกช่องทาง นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังกำชับถึงการแสดงท่าทีในเวทีระหว่างประเทศของสถานการณ์เมียนมาว่า ให้เป็นไปตามแนวทางของกระทรวงการต่างประเทศ และแนวทางของอาเซียน รวมถึงเตรียมความพร้อมในการอพยพคนไทยในเมียนมากรณีที่สถานการณ์รุนแรงขึ้น และเตรียมพร้อมรับผู้หนีภัยความไม่สงบตามแนวชายแดน โดยยึดหลักเมตตาธรรมและหลักสิทธิมนุษยชน
พล.ท.คงชีพ กล่าวอีกว่า นายกรัฐมนตรียังกำชับเรื่องภารกิจป้องกันประเทศและการรักษาความมั่นคงภายในประเทศ โดยปรับแผนความมั่นคงในประเทศให้ทันสมัย เตรียมกำลังให้พร้อมในการฝึกระดับต่างๆ เพื่อให้พร้อมสนับสนุนทุกภารกิจหลัก ซักซ้อมแผนเผชิญเหตุอย่างสม่ำเสมอ และสนับสนุนรัฐบาลในการแก้ปัญหายาเสพติด การลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย ประมงผิดกฎหมาย เพราะยังเป็นปัญหาที่สำคัญของประเทศ สำหรับการปฏิรูปกองทัพนั้น เน้นย้ำการพัฒนาด้านเทคโนโลยี สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติและความมั่นคงของประเทศ โดยนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้จัดการข้อมูลขนาดใหญ่ เพื่อให้การทำงานของกองทัพมีประสิทธิภาพ พร้อมรับภัยคุกคามในรูปแบบต่างๆ
พล.ท.คงชีพ กล่าวด้วยว่า สำหรับการสนับสนุนการแก้ไขปัญหาโควิด-19 นั้น นายกรัฐมนตรีเน้นย้ำว่า กองทัพต้องเข้าไปสนับสนุนกระทรวงสาธารณสุข และทุกหน่วยราชการในการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคให้ประชาชนปลอดภัย กำชับให้ทุกเหล่าทัพ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ สนับสนุนพื้นที่การคัดกรองคนที่เดินทางมาจากต่างประเทศในทุกช่องทาง และเตรียมความพร้อมในการรับคนไทยที่จะเดินทางกลับจากมาเลเซียที่มีจำนวนมาก รวมทั้งสกัดกั้นผู้หลบหนีเข้าเมืองผิดกฎหมาย ส่วนการจัดตั้งโรงพยาบาลสนามนั้น ให้เตรียมการขยายไว้ให้มีจำนวนเตียงรับผู้ป่วยมากขึ้น และขยายขีดความสามารถของโรงพยาบาลให้รองรับผู้ป่วยเข้ามารักษาได้ สนับสนุนกระทรวงสาธารณสุข เช่น จัดรถเสริมรับส่งผู้ป่วย การบริหารจัดการวัคซีนให้กำลังพลทหารและตำรวจปฏิบัติงานอย่างทั่วถึง และเร่งดำเนินการฉีดในพื้นที่เสี่ยง ส่วนพื้นที่ตั้งโรงพยาบาลสนามของกองทัพ 22 แห่ง 3,456 เตียง นอกจากนี้ พร้อมขยายโรงพยาบาลสนามและจัดชุดแพทย์โรงพยาบาลสนามในพื้นที่ กทม.และปริมณฑลอีก 3 แห่ง

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า