SHARE

คัดลอกแล้ว

ครป. ค้านต่ออายุ พรก.ฉุกเฉินฯ ยกเลิกทหารและนักการเมืองนั่งบอร์ดรัฐวิสาหกิจ

รศ.ดร.พิชาย รัตนดิลก ณ ภูเก็ต ประธานคณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.) กล่าวว่า ครป.ขอเสนอให้รัฐบาลหยุดขยาย พรก.ฉุกเฉินฯ ออกไป เนื่องจากการขยายเวลา พรก.ฉุกเฉินฯ ไม่มีความเหมาะสมและจำเป็นอีกต่อไป เนื่องจากสถานการณ์ปัจจุบันประเทศไทยควบคุมโควิดได้เป็นอย่างดี และเงื่อนไขหลักไม่ได้เกิดมาจากการใช้อำนาจในพรก.ฉุกเฉิน แต่มาจากความแข็งแกร่งของฝ่ายสาธารณสุข ทั้งจากการรักษาของแพทย์และพยาบาล การป้องกัน และความร่วมมือจากอาสาสมัครสาธารณสุขหมู่บ้านทั่วประเทศ อีกด้านหนึ่งมาจากวัฒนธรรมความร่วมมือของภาคประชาชนเป็นหลัก

ตนเห็นว่าการใช้ พรก.ฉุกเฉิน ในระยะยาวต่อไปจะกระทบต่อเสรีภาพประชาชน และกระทบต่อเศรษฐกิจไทย สิ่งที่ ครป.กังวลคือ รัฐจะฟื้นฟูอย่างไร นโยบายของรัฐบาลในปัจจุบันยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ ซ้ำร้ายบางนโยบายยังเป็นไปเพื่อส่งเสริมกลุ่มทุนมากกว่าแทนที่จะการส่งเสริมภาคประชาชน รัฐบาลต้องเตรียมมาตรการรองรับในระยะยาว เนื่องจากมาตรการทางเศรษฐกิจยังไม่มีศักยภาพเพียงพอที่จะรองรับกองทัพคนตกงานในอนาคต

“สำหรับพัฒนาการทางการเมือง ยังมีแนวโน้มว่ารัฐบาลจะเสพติดอำนาจเด็ดขาด มีแนวโน้มไปที่การรวมศูนย์อำนาจและจะสร้างความขัดแย้งได้ในอนาคต การพัฒนาประชาธิปไตยต้องกระจายอำนาจไปยังพื้นที่ต่างๆ ให้ประชาชนมีส่วนร่วมอย่างกว้างขวาง ทางออกจากความขัดแย้ง ต้องมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตย จะต้องมีการเตรียมการ โดยให้คนจำนวนหนึ่งในรัฐบาลที่ว่างงานอยู่เตรียมการขับเคลื่อนรัฐธรรมนูญตั้งแต่ตอนนี้”

นายกษิต ภิรมย์ ที่ปรึกษา ครป. กล่าวว่า สาธารณสุขของไทยได้รับการยอมรับจากองค์การอนามัยโลก และความร่วมมือของคนไทยทำให้การแก้ไขปัญหาโควิดเป็นไปด้วยดี การยืดเวลาการใช้อำนาจตาม พรก.ฉุกเฉินฯ จึงไม่จำเป็นอีกต่อไป นอกจากนี้ การใช้อำนาจพิเศษในสถานการณ์ฉุกเฉิน ต้องแจ้งภาคีกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง (ICCPR) ผ่านเลขาธิการสหประชาชาติอย่างเป็นระบบ แต่ไม่ได้ยินว่ารัฐบาลดำเนินการแล้ว และการใช้อำนาจต้องมีกลไกการตรวจสอบและถ่วงดุลภายใน รวมถึงความเห็นจากฝ่ายตุลาการศาลทั้งหลาย พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า การแก้ไขปัญหาการบินไทย ไม่เกี่ยวกับปัญหาโควิด ดังนั้นรัฐบาลอย่าลักไก่ทำในอำนาจพิเศษ ควรให้ระบบรัฐสภาทำงานและมีการตรวจสอบปัญหาการคอร์รัปชันที่ผ่านมาในหลายรัฐบาล

นายสาวิทย์ แก้วหวาน เลขาธิการสมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ (สรส.) และกรรมการ ครป. เห็นว่า พ.ร.บ.โรคติดต่อสามารถใช้แก้ปัญหาได้ จึงไม่เห็นด้วยในการต่ออายุ พรก.ฉุกเฉินฯ ปัญหาในรัฐวิสาหกิจไทยโดยเฉพาะการบินไทยคือ การทุจริตคอร์รัปชัน การเอาการบินไทยเข้าสู่กระบวนการล้มละลายยังไม่มีการตรวจสอบปัญหาทุจริตคอร์รัปชั่นที่ผ่านมาๆ ว่ามาจากรัฐบาลในยุคไหนบ้าง และบอร์ดบริหารชุดใดบ้าง ไม่ใช่ความผิดของพนักงาน แต่กลับมีการผลักดันเพื่อให้พ้นสภาพความเป็นรัฐวิสาหกิจโดยเร็ว โดยไม่มีการแก้ปัญหาที่สาเหตุ

นอกจากนี้ มาตรการในการเยียวยาภาคแรงงานยังเป็นปัญหา ยังมีนายจ้างประมาณ 5-6 หมื่นคนยังไม่ยืนยันสถานะให้ลูกจ้างเพื่อให้ได้รับเงินประกันสังคม และหลังโควิดจะมีคนตกงานจะมีมากขึ้น คนเหล่านั้นจะหันหลังกลับไปชนบทก็ลำบาก เนื่องจากภาคเกษตรกรรมก็ถูกกลุ่มทุนผูกขาดปัจจัยการผลิต

นายเมธา มาสขาว เลขาธิการ ครป. กล่าวสรุปว่า บทเรียนจากการแก้ไขปัญหาโควิดไม่ใช่วิธีการใช้อำนาจรัฐรวมศูนย์ หรือระบบรัฐราชการ แต่แนวทางการแก้ไขคือการกระจายอำนาจ ให้พื้นที่และท้องถิ่นมีส่วนร่วมในการจัดการปัญหาอย่างเป็นระบบ ซึ่งจะยั่งยืนในระยะยาว รัฐบาลกำลังเข้าใจผิดคิดว่าการบังคับใช้อำนาจเป็นคำตอบและจะต่ออายุการใช้อำนาจพิเศษเรื่อยไปในระยะยาวโดยอ้างโควิดระบาด แต่แท้จริงหวังผลทางการเมือง โดยใช้อำนาจควบคุมความขัดแย้งและการชุมนุมทางการเมือง ปัจจุบันการใช้อำนาจฉุกเฉินยังเป็นการรวบอำนาจมาจากรัฐมนตรีทั้งหลายที่มาจากพรรคร่วมและระบบเลือกตั้ง ทำให้ระบบรัฐสภาไม่ทำงาน และไม่มีกลไกการตรวจสอบและรับผิด

รัฐบาลแอบฉวยโอกาสในช่วงบังคับใช้อำนาจพิเศษ ต่อเวลาให้ตนเอง นโยบายด้านเศรษฐกิจไม่มีความมั่นคงและยั่งยืนนอกจากการเยียวยาปัญหาเฉพาะหน้าภาคแรงงาน ไม่มีการปฏิรูปที่ดินเพื่อสร้างหลังพิงให้ประเทศไทยด้านเกษตรกรรมที่มีอนาคตและเป็นทรัพยากรสำคัญในโลกยุคหลังโควิด แต่ให้ท้ายกลุ่มทุนครองตลาดทั้งภาคสินค้าอุปโภคบริโภค และทรัพยากรที่มนุษย์ไม่สามารถผลิตขึ้นได้เองที่รัฐควรเป็นเจ้าของ และกลับให้สัมปทานเอกชนผูกขาดหากำไร

การฟื้นฟูเศรษฐกิจโดยเฉพาะรัฐวิสาหกิจไทยเพื่อรองรับการบริการสาธารณะจากรัฐ ผมขอเรียกร้องให้รัฐบาลยุติการส่งทหารมาเป็นบอร์ดบริหารในทุกรัฐวิสาหกิจ เพราะปัจจุบันมีทหารเป็นประธานบอร์ดกว่า 16 แห่งและเป็นกรรมการบอร์ดกว่า 40 รัฐวิสาหกิจ และหยุดใช้การเมืองแทรกแซงการบริหารและการจัดซื้อจัดจ้าง โดยใช้การแต่งตั้งบอร์ดบริหารจากนักบริหารมืออาชีพทั้งหมดที่เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน ไม่ให้ทหารและนักการเมืองไปนั่งเป็นบอร์ด ฝ่ายการเมืองมีหน้าที่กำกับและตรวจสอบเท่านั้น เพราะปัญหาการขาดทุนของรัฐวิสาหกิจรวมถึงการบินไทยคือการแทรกแซงการบริหารจากฝ่ายการเมืองเพื่อเอื้อประโยชน์พวกพ้องและการทุจริตคอร์รัปชันเชิงนโยบาย

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า