วันที่ 21 มกราคม ศาลรัฐธรรมนูญนัดอ่านคำวินิจฉัยคดีที่นายณฐพร โตประยูร ยื่นคำร้องให้ศาลวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 ว่า การกระทำของพรรคอนาคตใหม่ (ผู้ถูกร้องที่ 1), นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ (ผู้ถูกร้องที่ 2), นายปิยบุตร แสงกนกกุล (ผู้ถูกร้องที่ 3) และกรรมการบริหารพรรค (ผู้ถูกร้องที่ 4) เป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพ เพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขหรือไม่
ทีมข่าวสำรวจแนวทางคดีนี้ได้ 3 แนวทางดังนี้
1) กรณี “ยุบ” เพราะเชื่อตามคำร้องของผู้ร้อง
– ข้อบังคับของพรรคเป็นโมฆะหรือขัดรัฐธรรมนูญ
– พรรคนี้กระทำการเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจ โดยไม่ชอบตามรัฐธรรมนูญ และพ.ร.ป.พรรคการเมือง มาตรา 92 (1) (2)
– เป็นเหตุให้ยุบพรรค และตัดสิทธิ์ทางการเมืองผู้ถูกร้องเป็นเวลา 10 ปี (เทียบเคียงกรณีพรรคไทยรักษาชาติ)
*ส.ส. พรรคอนาคตใหม่ที่เหลือต้องหาพรรคสังกัดใหม่ ภายใน 60 คน
2) กรณี “ไม่ยุบ แต่ผู้ถูกร้องมีความผิด”
– หากตัดสินว่าเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง แต่ไม่มีคำสั่งยุบพรรค เพราะมาตรา 49 ไม่ได้ให้อำนาจไว้
– แต่ กกต. อาจใช้คำวินิจฉัยนี้เป็นหลักฐานร้องให้ศาลสั่งยุบพรรค ตาม ม.92 ของ พรป.พรรคการเมืองภายหลังได้
3) กรณี “ไม่ยุบ เพราะพรรคไม่เข้าข่ายการกระทำล้มล้างฯ”
– ความผิดของผู้ถูกร้องที่ 1 (พรรคอนาคตใหม่) ไม่เป็นความผิด
– ส่วนผู้ถูกร้อง 2, 3 และ 4 อาจเป็นความผิด แต่ไม่มีบทลงโทษ เพราะตามมาตรา 49 รัฐธรรมนูญให้ศาลมีอำนาจสั่งให้หยุดการกระทำเท่านั้น