SHARE

คัดลอกแล้ว

นักการเมืองชื่อ กรณ์ จาติกวณิช ดีกรีปริญญาตรีสาขาปรัญชา การเมือง และเศรษฐศาสตร์ เกียรตินิยมอันดับ 2 มหาวิทยาลัยออกซฟอร์ด เข้าสู่เส้นทางการเมืองครั้งแรก เมื่อปี 2548 จากการชักชวนของ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เพื่อนนักเรียนสมัยที่อยู่ประเทศอังกฤษ ขณะนั้น อภิสิทธิ์เป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.)

(กรณ์ จาติกวณิช ในงานเลี้ยงปีใหม่ของอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ / 14 ม.ค. 2563 เปิดเผยถึงการลาออกจากพรรคประชาธิปัตย์ : ภาพจากทวิตเตอร์ เทพไท เสนพงศ์)

หลังจากได้รับเลือกตั้งเป็น ส.ส. กรุงเทพมหานคร รัฐมนตรีกระทรวงการคลังเงาติดตามตรวจสอบการทำงานรัฐบาลสมัคร สุนทรเวช และสมชาย วงศ์สวัสดิ์ เป็นรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ในปี 2551 และปีเดียวกันนั้นเอง เมื่อ อภิสิทธิ์ก้าวขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 27 ของประเทศไทย กรณ์ได้รับแต่งตั้งให้เป็น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง

อย่างไรก็ตาม เมื่อประชาธิปัตย์แพ้การเลือกตั้ง 62 ได้ส.ส.ต่ำกว่าเป้าที่ประกาศไว้ อภิสิทธิ์รับผิดชอบคำพูดตัวเองลาออกจากหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์

กรณ์ ได้เสนอตัวชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เป็น 1 ใน 4 ผู้สมัคร เขาเคยเขียนประวัติตัวเองเพื่อขอเสียงสนับสนุนจากสมาชิกไว้ดังนี้

“ผมเข้ามาทำงานการเมืองเป็นปีที่ 15 ผมเรียนจบปรัชญา เศรษฐศาสตร์ และการเมือง จากมหาวิทยาลัย Oxford ประเทศอังกฤษ วิชาหลักคือเศรษฐศาสตร์ ทำงานในวงการการเงินวาณิชธนกิจ มาตั้งแต่เรียนจบใหม่ๆ จากนั้นกลับมาเปิดบริษัทหลักทรัพย์ที่ไทยตอนอายุ 24 ซึ่งเป็นบริษัทแรกที่มีฐานลูกค้าเป็นนักลงทุนจากทั่วโลก

จนถึงอายุ 35 ผมขายบริษัทให้ JP Morgan Chase และรับตำแหน่งประธานบริษัทต่อจนอายุ 39 ปี เมื่อถึงจุดอิ่มตัวในโลกธุรกิจ ผมจึงตัดสินใจเลือกที่จะรับใช้สังคมด้วยการเป็น “นักการเมืองอาชีพ” ในพรรคที่ผมศรัทธาที่จะเข้ามาทำงานเพื่อประชาชน นั่นคือ “พรรคประชาธิปัตย์”

“ตั้งแต่วันนั้นที่ตัดสินใจทำงานการเมือง จนถึงวันนี้ ผมผ่านมาทั้งบทบาทการเป็นฝ่ายค้าน และฝ่ายรัฐบาล ตอนเป็นฝ่ายค้าน ผมทำหน้าที่ตรวจสอบในรัฐสภาด้วยสาระ เนื้อหา ข้อมูล และหลักฐาน จนนำมาสู่การพิจารณาคดีใหญ่ๆ จนบรรลุผลสำเร็จหลายเรื่องด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น คดีซุกหุ้นของอดีตนายกฯ จนนำไปสู่การยึดทรัพย์ คดีพรบ.กู้เงินนอกระบบงบประมาณ 2 ล้านล้านที่เป็นการยืนยันหลักการเรื่องวินัยทางการคลังที่สำคัญ”

ส่วนในบทบาทรัฐบาลนั้น ผมเคยดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเป็นระยะเวลาประมาณ 2 ปีกว่า เข้ามาบริหารเศรษฐกิจของชาติในช่วงที่มีวิกฤติการเงินระดับโลก หรือที่เรียกกันว่า วิกฤติแฮมเบอร์เกอร์

ทีมเศรษฐกิจของเราทุ่มเททำทุกวิถีทางจนประเทศไทยรอดพ้นจากวิกฤติได้เร็วเป็นอันดับต้นๆ ของโลก และยังมีรางวัล “รัฐมนตรีคลังโลก” ที่เป็นความภูมิใจติดตัวมาเป็นเครื่องสะท้อนถึงความสำเร็จภายใต้การบริหารงานของรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ภายใต้การนำโดยคุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่สามารถแก้วิกฤติเศรษฐกิจได้อีกครั้งหนึ่ง

ตลอดจนการทำงานในอีกหลายๆ กิจกรรมร่วมกับเพื่อนๆ ในพรรค เช่นการรื้อฟื้นโครงการเยาวชนของพรรค และปรับปรุงให้เข้ากับยุคสมัยมากขึ้น การทำหน้าที่เป็นประธานร่างนโยบาย รวมไปถึงโครงการที่เกี่ยวข้องกับการนำร่องทำนโยบายในภาคปฏิบัติ ไม่ว่าจะเป็น ข้าวอิ่ม, การปลูกพืชระบบน้ำหยด, English For All และการเปิดสตาร์ทอัพ FinTech ร่วมกับคนรุ่นใหม่

“มาถึงวันนี้.. พรรคมาถึงจังหวะการเปลี่ยนแปลงอันสำคัญอีกครั้ง ผมจะปลุกพลังของพรรคฯ ขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง”

(กรณ์ จาติกวณิช สวมเสื้อพรรคประชาธิปัตย์ / แฟ้มภาพ)

ผมจะบริหารพรรคอย่างสร้างสรรค์ โปร่งใส และทันต่อยุคสมัย ผมจะขอความร่วมมือและให้โอกาสคนทุกรุ่น ทุกกลุ่ม และทุกภาค รวมไปถึงการเชิญชวนคนมีความสามารถระดับประเทศเข้ามาทำงานร่วมกับพรรคประชาธิปัตย์ต่อไป

“ผมตระหนักดีว่าการจะทำงานใหญ่ให้สำเร็จได้ เราต้องมี Teamwork ที่เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน สส.ผู้สมัครสส.และทีมงานของพรรคฯ ที่พลาดไปต้องมีที่ยืน ผมจะนำจุดเด่นของทุกคนกลับมาทำงานร่วมกันเพื่อพี่น้องประชาชนให้ได้”

ภารกิจสำคัญในวันนี้ ผมขอเป็นสะพานข้ามความขัดแย้ง ที่จะเชื่อมทุกคนไปสู่ก้าวใหม่ เดินหน้าต่อไปด้วยกัน เพื่อให้พรรคประชาธิปัตย์ที่เรารัก กลับมาเป็นความหวังของประเทศไทยอีกครั้งหนึ่งให้ได้ด้วยทุกความสามารถ ทุกสรรพกำลังที่ผมมีทุกการตัดสินใจในการกระทำของผม

“ผมขอให้คำมั่นว่าจะทำเพื่อประโยชน์สุดของประชาชน เพื่อความก้าวหน้าของประเทศ และเพื่อความมั่นคงของแผ่นดิน”

ผมพร้อมแล้วครับ ที่จะยกเครื่องพรรคประชาธิปัตย์ให้เป็นเครื่องมือในการทำงานให้แก่ประชาชน และเป็นตัวแทนของคนไทยทั้งประเทศ

ผมอาสาเข้ามาเป็นตัวเลือกให้สมาชิกพรรคได้พิจารณา เพื่อเป็น “หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์” คนต่อไป.”

แต่วันที่ 15 พฤษภาคม 2562 กรณ์แพ้เลือกตั้งชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคให้กับ จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์

(กรณ์ จาติกวณิช รายงานตัวเป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์)

บทบาทการทำงานของกรณ์ หลังจากแพ้การเลือกตั้งหัวหน้าพรรค เขาเดินหน้าทำงานในสภา ในฐานะ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ ลุกขึ้นอภิปรายเกี่ยวกับเศรษฐกิจประเทศ งบประมาณต่างๆ โดยล่าสุดเมื่อกรกฎาคม ปี 2562 เป็นผู้เสนอให้รัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เก็บภาษีจากคนรวย ภาคธุรกิจให้ครบถ้วนเพื่อเพิ่มรายได้ประเทศ

 

อ้างอิง: วิกิพีเดีย / facebook: Korn Chatikavanij

ขอบคุณภาพปก: @Theptai เทพไท เสนพงศ์

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า