สภาฯ ล่ม ยังถกร่างพ.ร.บ.กัญชาฯ วาระ 2 ไม่เสร็จ แต่ตัด ม.3 ไม่ถือเป็นยาเสพติด ตามที่ กมธ.แก้ไข

ที่ประชุมสภาฯ ล่มอีกครั้ง ยังถกร่างพ.ร.บ.กัญชาฯ วาระ 2 ไม่เสร็จ แต่ได้ตัด มาตรา 3 “ไม่ถือเป็นยาเสพติด” ตามที่ กมธ.แก้ไข

สภาผู้แทนราษฎร ประชุมพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) กัญชา กัญชง พ.ศ… วาระ 2 ต่อจากสัปดาห์ที่แล้ว โดยเปิดให้ลงมติในมาตรา 3 ที่ระบุว่า “กัญชาและกัญชง ไม่ถือเป็นยาเสพติดตามกฎหมายยาเสพติด” โดยที่ประชุมมีมติเห็นชอบกับการแก้ไขของคณะกรรมาธิการ (กมธ.)  ที่ให้ตัดมาตรา 3 ทิ้งทั้งมาตรา ด้วยคะแนน 201 คะแนน งดออกเสียง 31 คะแนน

จากนั้น ที่ประชุม ได้พิจารณาต่อในมาตรา 4 ว่าด้วยการกำหนดคำนิยามในความหมายของคำต่างๆ ซึ่ง กมธ. ได้แก้ไขเนื้อหา โดยมีรายละเอียดที่สำคัญ อาทิ คำนิยามของคำว่า “ผลิต” กมธ. ได้ตัดคำว่า “เพาะ” “ปลูก” “สังเคราะห์ทางวิทยาศาสตร์” ออกจากคำนิยาม ทำให้เหลือเพียง “การทำ” “ผสม” “ปรุง” “แปรสภาพ” “สกัด” “เปลี่ยนรูป” รวมถึงการแบ่งบรรจุ และรวมถึงการใช้เพื่อประโยชน์ในครัวเรือน ประกอบอาหาร และเพื่อใช้ประโยชน์จากราก ลำต้น หรือ เส้นใย และได้เพิ่มคำว่า สื่อสารการตลาด ที่ให้หมายรวมถึง การโฆษณา ประชาสัมพันธ์ สร้างข่าว เผยแพร่ข่าวสาร ส่งเสริมการขาย การแสดง หรือการส่งเสริมการขายโดยใช้บุคคลเป็นการเฉพาะ หรือการตลาดในเครือข่ายคอมพิวเตอร์ เพื่อขายสินค้า บริการหรือสร้างภาพลักษณ์

โดยในการอภิปรายของ ส.ส. ส่วนใหญ่ พบว่า ท้วงติงต่อการแก้ไขของกมธ. เนื่องจากมองว่า การเขียนคำนิยามตามที่ กมธ. กำหนดนั้นเท่ากับการเปิดช่องให้เกิดการใช้กัญชา เพื่อนันทนาการแบบเต็มรูปแบบ อีกทั้งการตัดการผลิต ในส่วนของ การเพาะ ปลูก ออกอาจจะมีผลกระทบต่อประชาชน รวมถึงการกำหนดนิยามการขาย ที่กำหนดให้รวมถึง จำหน่าย จ่าย  แจก หรือแลกเปลี่ยนนั้น อาจทำให้ประชาชนต้องติดคุกได้

อาทิ นายสงวน พงษ์มณี ส.ส.ลำพูน พรรคเพื่อไทย อภิปรายว่า พรรคภูมิใจไทยหาเสียงว่าให้ครัวเรือนปลูกได้  6 ต้น แต่ในร่างกฎหมาย ขยายเป็น 15 ต้น พร้อมกำหนดนิยามของการขายไว้ว่า จำหน่าย จ่าย แจก หรือ แลกเปลี่ยน เพื่อประโยชน์ทางการค้าหรือให้โดยมีสิ่งตอบแทนหรือประโยชน์อย่างอื่น และให้รวมถึงการมีไว้เพื่อขาย เท่ากับเอาคุกไปให้ชาวบ้าน

ด้าน นายชูวิทย์ พิทักษ์พรพัลลภ ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย อภิปรายว่า ในสมัยรัฐบาลของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ เด็ก ป.3  ถือแทปเล็ตไปโรงเรียน แต่ปัจจุบันพบว่า ถือบ้องกัญชาไปโรงเรียน ดังนั้นของให้ กมธ. หาทางแก้ไข ขณะเดียวกันวิถีของชาวบ้านที่อยู่บ้านใกล้ มักจะมาขอกัญชา เพื่อไปปรุงอาหารหาก กมธ. กำหนดนิยามการขายไว้อาจทำให้ชาวบ้านทำผิดกฎหมายได้ อีกทั้งอาจมีการล่อซื้อกัญชาจากเด็กในพื้นที่และนำขึ้นศาลเตี้ย

อย่างไรก็ตาม เมื่อการพิจารณาดำเนินมาถึง มาตรา 5 และ มาตรา 6 องค์ประชุมสภาฯ เริ่มร่อยหรอ พบจำนวนสมาชิกแสดงตนเป็นองค์ประชุมในแต่ละมาตราเกินกึ่งหนึ่งเพียงไม่เกิน 5เสียง ทำให้บรรยากาศในห้องประชุมเริ่มตึงเครียด

และเมื่อเข้าสู่การพิจารณามาตรา 7 และมาตรา 7/1 ถึงมาตรา7/3 ก็มีองค์ประชุมผ่านแบบฉิวเฉียดไม่กี่เสียง กระทั่งถึงมาตรา 7/4 เรื่องการให้คณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ทำหน้าที่พัฒนาส่งเสริมและสนับสนุนการวิจัยเรื่องการใช้กัญชาเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ ได้มีสมาชิกอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง

ทั้งนี้ หลังจากอภิปรายกันครบถ้วนแล้ว นายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2 ที่ทำหน้าที่ประธานการประชุม ได้กดออดเรียกสมาชิกมาแสดงตนเป็นองค์ประชุมก่อนลงมติ แต่ปรากฏว่า มีสมาชิกอยู่ในห้องประชุมบางตา ต้องเสียเวลารอสมาชิกกว่า 30 นาที ก็ยังไม่มีท่าทีจะมีสมาชิกครบองค์ประชุม

ท้ายที่สุด นายศุภชัย จึงให้สมาชิกกดบัตรแสดงตนเป็นองค์ประชุม ปรากฏว่า มีสมาชิกแสดงตนแค่ 214 คน ไม่ครบองค์ประชุม ขาดไป 6 เสียง จากจำนวนส.ส.ที่ปฏิบัติหน้าที่ได้ 439 คน ประธานในที่ประชุมจึงต้องสั่งปิดประชุม ในเวลา 17.25 น. วันนี้ (21 ธ.ค. 65)