Advertisement

SHARE

คัดลอกแล้ว

ประมวลภาพ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เดินทางไปเยี่ยมให้กำลังใจกำลังพลที่ได้รับบาดเจ็บ จากเหตุการณ์เรือหลวงสุโขทัยอับปาง และร่วมพิธีพระราชทานน้ำหลวงอาบศพข้าราชการ 

ที่โรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ กรมแพทย์ทหารเรือ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี วันนี้ (22 ธ.ค. 65) เวลา 16.45 น.  พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม นำคณะเดินทางมาตรวจเยี่ยม และให้กำลังใจกำลังพลเรือหลวงสุโขทัย (ร.ล.สุโขทัย) ที่เข้ารับการรักษาตัว จำนวน 18 นาย โดยได้พูดคุยสอบถามอาการ และกล่าวให้กำลังใจกับกำลังพลทุกนาย ให้มีสุขภาพกายใจที่เข้มแข็ง ให้แข็งแรงเป็นปกติโดยเร็ว

จากนั้น เดินทางไปตรวจเยี่ยมศูนย์ประสานงานช่วยเหลือกำลังพลเรือหลวงสุโขทัย ที่สโมสรสัญญาบัตร กองเรือยุทธการ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ซึ่งที่ศูนย์ฯ ขณะนี้มีสถิติการรับโทรศัพท์ให้ข้อมูลกับญาติ จำนวน 220 สาย และให้คำปรึกษาทางด้านจิตเวช ของญาติ จำนวน 14 ราย กำลังพล 3 ราย

นอกจากนี้ ยังทำหน้าที่ในการรับผู้ป่วยในพระบรมราชานุเคราะห์ และการรับศพในพระบรมราชานุเคราะห์ ประสานเรื่องน้ำหลวงอาบศพ กับสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัด ประสานการพระราชทานเพลิงศพ กับกลุ่มอำนวยการพิธีการสงฆ์เขต โดยจะดำเนินงานด้านพิธีการศพให้กับครอบครัวกำลังพลที่เสียชีวิตตลอดทุกขั้นตอนจนถึงพิธีลอยอังคาร และศูนย์ประสานงานฯ ได้รับการสนับสนุนด้านอาหารจากครัวพระราชทาน จิตอาสา

ภาพรวมกำลังพล เรือหลวงสุโขทัย 105 นาย ณ เวลา 13.00 น. วันที่ 22 ธ.ค. 65 ได้รับการช่วยเหลือกลับบ้าน 55 นาย บาดเจ็บ (Admit) 19 นาย  แบ่งเป็นรักษาที่ รพ.สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ 18 นาย รพ.บางสะพาน 1 นาย เสียชีวิต 6 นาย และอยู่ระหว่างการค้นหา 23 นาย แบ่ง ได้ดังนี้

1. เรือหลวงสุโขทัย 75 นาย ได้รับการช่วยเหลือกลับบ้าน 41 นาย บาดเจ็บ (Admit) 14 นาย เสียชีวิต 4 นาย อยู่ระหว่างการค้นหา 14 นาย

2. หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน (นย.) 15 นาย ได้รับการช่วยเหลือกลับบ้าน 4 นาย บาดเจ็บ (Admit) 4 นาย เสียชีวิต 1 นาย อยู่ระหว่างการค้นหา 6 นาย

3. หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง (สอ.รฝ.) 15 นาย ได้รับการช่วยเหลือกลับบ้าน 10 นาย บาดเจ็บ (Admit) 1 นาย เสียชีวิต 1 นาย อยู่ระหว่างการค้นหา 3 นาย

จากนั้น เวลา 17.30 น. นายกรัฐมนตรีร่วมพิธีพระราชทานน้ำหลวงอาบศพข้าราชการ เรือหลวงสุโขทัย จำนวน 6 นาย พิธีวางพวงมาลาพระราชทาน และพิธีสวดอภิธรรม ณ ฌาปนสถานกองทัพเรือ สัตหีบ

สำหรับ ผู้เสียชีวิตทั้ง 6 นาย ประกอบด้วย

ว่าที่เรือเอก สามารถ แก้วผลึก

พันจ่าเอก อัชชา แก้วสุพรรณ์

จ่าเอก จักรพงค์ พูนผล

พลทหาร อัครเดช โพธิ์บัติ สังกัด กองเรือฟริเกตที่ 1 กองเรือยุทธการ (กร.)

พันจ่าเอก อำนาจ พิมที สังกัด หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง (สอ.รฝ.)

พันจ่าเอก สมเกียรติ หมายชอบ สังกัดหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน (นย.)

โดยผู้เสียชีวิตทั้ง 6 นาย ได้รับพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม จากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ให้ศพอยู่ในพระบรมราชานุเคราะห์ โดยตั้งบำเพ็ญกุศลฯ กิจการฌาปนสถานกองทัพเรือ สัตหีบ

ในส่วนของสิทธิกำลังพลผู้เสียชีวิตนั้น กรณีนี้กองทัพเรือถือว่ากําลังพลดังกล่าวเป็นผู้ที่เสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ จะพิจารณาบําเหน็จด้านสิทธิกําลังพลสูงสุดให้แก่กําลังพลดังกล่าว โดยจะพิจารณาเลื่อนชั้นเงินเดือน 3 – 5 ชั้น กับขอพระราชทานเลื่อนยศ 2 – 4 ชั้นยศ รวมทั้งเงินช่วยเหลืออื่น ๆ ตามสิทธิที่สมควรจะได้รับ  โดยแยกเป็นกลุ่มใหญ่ ๆ ดังนี้

ชั้นยศ นาวาตรี จะขอพระราชทานเลื่อนยศเป็น พลเรือโท กับได้รับสิทธิกําลังพล ประกอบด้วย เงินประกันภัยหมู่แบบเฉพาะกิจกองทัพเรือ 500,000 บาท เงินจากกองทุนน้ำใจไทยเพื่อผู้เสียสละกองทัพเรือ 160,0000 บาท และเงินช่วยเหลืออื่น ๆ รวมเป็นเงินประมาณ 1,200,000  บาท

ชั้นยศ เรือเอก จะขอพระราชทานเลื่อนยศเป็น พลเรือตรี กับได้รับสิทธิกําลังพล ประกอบด้วย เงินประกันภัยหมู่แบบเฉพาะกิจกองทัพเรือ 500,000 บาท เงินจากกองทุนน้ำใจไทยเพื่อผู้เสียสละกองทัพเรือ 160,000 บาท และเงินช่วยเหลืออื่น ๆ รวมเป็นเงินประมาณ 2 ล้านบาท

ทั้งนี้ เป็นผู้ที่มีอายุราชการและฐานเงินเดือนสูงชั้นยศ พันจ่าเอก จะขอพระราชทานเลื่อนยศเป็น นาวาตรี กับได้รับสิทธิกําลังพล ประกอบด้วย เงินประกันภัยหมู่แบบเฉพาะกิจกองทัพเรือ 500,000 บาท เงินจากกองทุนน้ำใจไทยเพื่อผู้เสียสละกองทัพเรือ 135,000  บาท และเงินช่วยเหลืออื่นๆ รวมเป็นเงินประมาณ  1 ล้านบาท

ชั้นยศ จ่าตรี – จ่าเอก จะขอเลื่อนยศและขอพระราชทานเลื่อนยศเป็น  พันจ่าโท – เรือตรี กับได้รับสิทธิกําลังพล ประกอบด้วย เงินประกันภัยหมู่แบบเฉพาะกิจกองทัพเรือ 500,000  บาท เงินจากกองทุนน้ำใจไทยเพื่อผู้เสียสละกองทัพเรือ 135,000 บาท และเงินช่วยเหลืออื่น ๆ รวมเป็นเงินประมาณ 900,000 บาท

ในส่วนของทหารกองประจําการจะขอเลื่อนยศเป็น พันจ่าตรี กับได้รับสิทธิกําลังพล ประกอบด้วย เงินประกันภัยหมู่แบบเฉพาะกิจกองทัพเรือ 500,000 บาท เงินจากกองทุนน้ำใจไทยเพื่อผู้เสียสละกองทัพเรือ 100,000 บาท และเงินช่วยเหลืออื่น ๆ รวมเป็นเงินประมาณ 600,000 บาทโดยกองทัพเรือ จะเร่งรัดการดําเนินการให้กําลังพลและครอบครัวได้รับสิทธิกําลังพลเป็นไปด้วยความรวดเร็ว เพื่อเป็นการช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้นให้แก่กําลังพลและครอบครัวต่อไป

ภาพจาก : ทำเนียบรัฐบาล

podcast

LATEST
OUR PICKS
HOT
กำลังโหลดบทความถัดไป...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า