‘พล.อ.วิชญ์’ นั่งหัวหน้าพรรคเศรษฐกิจไทย ‘ธรรมนัส’ เลขาฯ เตือนคนมองเป็นอากาศ ระวังขาดไปจะตายทันที

‘พล.อ.วิชญ์’ นั่งหัวหน้าพรรคเศรษฐกิจไทย ‘ธรรมนัส’ นั่งเลขาธิการพรรค ชูเป็นพรรค “อยู่ข้างประชาชน” ตั้งเป้า ส.ส. กว่า 100 ที่นั่ง ปัดดินเนอร์พรรคร่วมรัฐบาล บอกตอนเย็นไม่ทานข้าว

วันที่ 18 มี.ค. 2565 พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา ในฐานะหัวหน้าพรรคเศรษฐกิจ พร้อมด้วย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา ในฐานะเลขาธิการพรรคเศรษฐกิจ นำแถลงข่าวภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมใหญ่วิสามัญครั้งที่ 1/2565

พล.อ.วิชญ์ กล่าวว่า ตนได้รับความไว้วางใจจากที่ประชุมฯ เลือกให้เป็นหัวหน้าพรรคเศรษฐกิจไทย ซึ่งจะพยายามจะทำให้ดีที่สุดเพื่อบ้านเมืองและประชาชน และยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตย และสิ่งสำคัญที่สุด สถาบันที่เราเคารพรักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และประชาชนเป็นสิ่งที่จะต้องยึดมั่น

สิ่งสำคัญที่จะเดินต่อไปในอนาคตข้างหน้า คือเราต้องเป็นหนึ่งเดียว ความปรองดองเท่านั้นจะทำงานให้สำเร็จได้ถ้าเรายังไม่รัก ไม่สามัคคีกัน เป็นไปไม่ได้ที่จะพานำชาติไปได้ เราต้องมองตัวเราเองอย่าไปสร้างศัตรู ต้องคิดถึงประชาชนเป็นหลัก ทำอย่างไรจะทำให้เขาอยู่รอดปลอดภัย ขอให้มั่นใจในพรรคเศรษฐกิจไทย ในเรื่องเศรษฐกิจที่เราจะทำให้มั่นคง มั่งคั่ง ทั้งแผ่นดิน และพยายามทำให้คนไทยต้องยิ้มได้ตามคำขวัญของเรา “รวมหัวใจพรรคเศรษฐกิจไทยและจับมือไปพร้อมๆ กัน” ซึ่งเป็นจุดยืนของพวกเราที่จะต้องไปดำเนินการให้ได้ ขออย่ามองเราเป็นศัตรู มองเราเป็นมิตร

วันนี้รู้ว่าจะถามว่าจะอยู่ฝ่ายไหน ตอบชัดเจน “อยู่ข้างประชาชน” ประชาชนได้ประโยชน์เราสนับสนุน แต่ถ้าไม่ได้ประโยชน์ก็ไม่สนับสนุน และฝากว่าและวันหนึ่งถ้าเรามีจุดยืนที่ดีกว่านี้เราสามารถเข้าไปบริหารหรือจัดการอะไรอนาคตข้างหน้าเราทำจริงทุกอย่างเพื่อประชาชนและประเทศชาติ

ผู้สื่อข่าวถามว่าที่บอกว่าอยู่ข้างประชาชน หมายถึง ส.ส. 18 คนของพรรคเศรษฐกิจไทย จะสนับสนุนรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หรือไม่ พล.อ.วิชญ์ ตอบว่า “ถ้ารัฐบาลทำดีเราก็อยู่ ถ้าทำไม่ดีจะไปอยู่ทำไมล่ะ”

เมื่อถามว่า แล้วตอนนี้รัฐบาลทำดีหรือไม่ พล.อ.วิชญ์ ตอบกลับว่า “ก็ดีไหม ถ้าดีก็อยู่ ไม่มีปัญหา ผมไม่มีปัญหาอะไร ทุกรัฐบาลทำสิ่งที่ดี ผมก็สนับสนุน พรรคสนับสนุนแน่นอน แต่ถ้าประชาชนไม่ได้ประโยชน์ ก็ไม่เอาด้วยเท่านั้นเอง”

เมื่อถามถึง “แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี” ของพรรคเศรษฐกิจไทย พล.อ.วิชญ์ กล่าวว่า “ยังไม่ถึงเวลา ใจเย็นๆ มีแน่นอน ไม่ต้องห่วง แล้วมีดีด้วย คิดว่าเอาออกมาแล้ว ไม่ร้องยี้ แน่นอน… พอถึงเวลาจะบอกเอง” ส่วนกระแสข่าวว่า พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ น้องชาย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ จะมาเป็นที่ปรึกษาให้กับพรรคนั้น พล.อ.วิชญ์ ตอบว่า “ไม่มา”

ส่วนความมั่นใจในการเลือกตั้งสมัยหน้าที่ตั้งเป้า 100 ที่นั่ง พล.อ.วิชญ์ กล่าวว่า น่าจะเกินร้อยด้วยซ้ำ ไม่ใช่ตนทะเยอทะยาน แต่คิดว่าทุกคนสามารถทำได้ และตั้งแต่วันนี้เราจะเดินเข้าหาประชาชนทุกพื้นที่ในประเทศไทย ส่วนจุดแข็งของพรรคเรา ไม่มีอะไรมากให้เขาอยู่รอดปลอดภัย แล้วต่อไปในอนาคตจะต้องช่วยเรื่องความมั่นคงในอาชีพต่างๆ เพราะชีวิตคนไทยตอนนี้แทบจะไม่มีอะไรกินอยู่แล้ว จะทำอย่างไรให้เขาอยู่ดีกินดีในอนาคต ซึ่งหลังการประชุมสามัญของพรรคในเดือนเมษายนี้ จะได้เห็นทีมเศรษฐกิจที่ชัดเจน

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีพรรคภูมิใจไทย จะนัดรับประทานอาหารพรรคร่วมรัฐบาลครั้งต่อไปจะไปหรือไม่ พล.อ.วิชญ์ ตอบกลับว่า “ผมกินไม่ค่อยได้ตอนเย็น ตอนเย็นผมไม่ทานข้าว ตอนนี้ก็พุงยื่นแล้ว ชัดไหม”

ขณะที่ ร.อ.ธรรมนัส ในฐานะเลขาธิการพรรคเศรษฐกิจไทย ย้ำว่า จะเป็นพรรคที่ยืนเคียงข้างประชาชน ยืนเคียงบ่าเคียงไหล่ ส่วนเรื่องรับประทานอาหารกับพรรคร่วมรัฐบาลนั้น เอาเวลาไปช่วยชาวบ้านดีกว่า

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีถูกเปรียบเทียบว่า เป็น “หนอน” ร.อ.ธรรมนัส ตอบว่า คำว่าหนอน มีสื่อหลายท่านไปเอาไปมองว่า นกจะมาจิกผมได้ตลอดเวลา ไม่ใช่ครับ คำว่าหนอน นักวิชาการ นักกฎหมาย เขาเรียกว่า หนอนหนังสือ ถ้าเป็นนักธรณีที่ศึกษาเรื่องดินเขาเรียกว่า หนอนดิน ถ้าเป็นนักศึกษาพืชไร่พืชสวนเขาเรียกว่า หนอนใบไม้ ถ้าเป็นหนอนจะรู้หมดว่าปัญหาของแต่ละเรื่องคืออะไร หากทำตัวเป็นหนอนเราก็จะรู้ถึงปัญหาที่แท้จริง เอาปัญหามาเป็นโจทย์ในการแก้ปัญหาเรื่องนั้น แต่ถ้าทำตัวเป็นนกอยู่บนฟ้าเราไม่รู้หรอกว่าข้างล่างเขาอยู่กันอย่างไร

นอกจากนี้ ร.อ.ธรรมนัส ยังให้สัมภาษณ์ ถึงศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ที่ฝ่ายค้านเตรียมยื่นซักฟอกเมื่อเปิดประชุมสภาว่า “ไม่แทงกั๊กครับ ชัดเจนว่ารัฐมนตรีท่านใด ที่ทำให้เกิดความเสียหายกับบ้านกับเมือง เราไม่โหวตให้แน่นอนไม่มีกั๊ก… ก็คุณทำดีหรือยังล่ะ หลายคนมองเห็น พรรคเศรษฐกิจไทยเป็นอากาศ มนุษย์เราวันหนึ่งขาดอากาศ แล้วจะตายทันทีนะ มีใครอยู่ได้บ้างล่ะขาดอากาศ ระวัง”

ทั้งนี้ที่พรรคเศรษฐกิจไทย ยังมีอดีต ส.ส. รวมนักแสดงที่เข้ามาร่วมเป็นสมาชิกใหม่ด้วย อาทิ  นายวิชิต ปลั่งศรีสกุล, นายภักดีหาญส์ หิมะทองคำ, นายไพร พัฒโน, นายเมธี อมรวุฒิกุล และนายปีเตอร์ ไมอ๊อกซิ